บช.ก.ส่งคดีดิไอคอนถึงมือ DSI

‘บอสพอล’ดิ้นสู้

สั่งทนายยื่นประกันตัว 17 พ.ย.

ลุยฟ้อง‘กบ ไมโคร-ลูกตาล’

อดีตแม่ทีมตีเนียนเป็นเหยื่อ

ไม่ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตา

ตำรวจสอบสวนกลาง ส่งสำนวนคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” ลอตแรก 18 ลัง 156 แฟ้มให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ย้ำผู้เสียหายยังสามารถแจ้งความตำรวจได้ทั่วประเทศ ส่วนการแจ้งข้อหา 18 บอสเพิ่ม รวมถึงแม่ข่าย-ผู้ต้องหาลอต 2 เป็นส่วนดีเอสไอจัดการต่อ หลังรับโอนเป็นคดีพิเศษแล้ว ด้าน “บิ๊กเต่า” มั่นใจฟันรีดทรัพย์ ดิไอคอน เล็งเป้า 5 นักร้องขณะที่บอสพอลดิ้นสู้ สั่งทนายยื่นประกัน 17 พย. เพื่อออกมาอธิบายข้อเท็จจริง พร้อมสั่งฟ้องเพิ่ม “กบ ไมโคร- ลูกตาล” อดีตแม่ข่ายตีเนียนเป็นเหยื่อ ลั่นต้องเอาผิดด้วย จะลอยตัวไม่ได้

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.)เปิดเผยคืบหน้าจากกรณีตำรวจเตรียมดำเนินคดีกลุ่มเทวดาที่รีดทรัพย์บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ซึ่งหลักฐานมาจากคลิปเสียงในโทรศัพท์มือถือของนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล 2 เครื่อง และทนายบอสพอลเตรียมเข้าแจ้งความกับตำรวจว่า คดีคลิปเสียงของน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์นั้น ขณะนี้ตำรวจเตรียมสอบปากคำกลุ่มบอสไว้เป็นพยานมี 7 คนที่เกี่ยวข้อง แต่ตำรวจจะเรียกสอบปากคำ 3 คน ก็เพียงพอต่อพยานหลักฐาน ไม่จำเป็นต้องสอบปากคำทั้งหมด มั่นใจเอาผิดได้

รอทนายบอสพอลแจ้งความนักร้องเพิ่ม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอทนายบอสพอล ให้เร่งมาร้องทุกข์ดำเนินคดี เบื้องต้นนัดหมายเข้าแจ้งความวันที่ 31 ตุลาคม แต่ติดว่าความ ซึ่งตนมองว่าช้าไป จะหารือให้มอบทนายความมาแจ้งความแทนก็ได้ เพื่อเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ไม่ให้ล่าช้า เพราะเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ และตนต้องการทำให้คดีนี้เป็นต้นแบบสำหรับกลุ่มที่อ้างเป็นจิตอาสา ทำเพื่อประชาชน แต่ไปดำเนินการมิชอบ ก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

เล็งฟัน5นักร้องข้อหารีดทรัพย์ดิไอคอน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติยืนยันด้วยว่า ไม่ได้ช่วยเหลือ ดิไอคอน แต่เป็นการดำเนินการกับกลุ่มที่อ้างว่าช่วยเหลือประชาชน แต่ไปบังคับขูดรีดกับเจ้าของกิจการ ซึ่งมีเป้าหมายที่ต้องดำเนินการรวม 4-5 คน ทั้งนาย ส. , นางสาวกฤษอนงค์ , ทนายตั้ม , และนายเอกภพ สายไหมต้องรอด โดยคดีของนายเอกภพ สายไหมต้องรอด ทาง บก.ปอท. รับดำเนินการ คดีเรียกรับทรัพย์ 7.5 ล้านบาทของทนายตั้ม ให้ บก.ป. ดำเนินการ คดีคลิปเสียงนางสาวกฤษอนงค์ และนาย ส. ทาง บก.ปปป. ดำเนินการ โดยจะดำเนินการทุกคดีไปพร้อมกัน

แจ้งข้อหาล็อต2ให้DSIดำเนินการต่อ

ด้านพล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เข้าพบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเพื่อรายงานความคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ปและได้ข้อสรุปว่าจะโอนสำนวนคดีทั้งหมดในส่วนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีต่อในวันนี้ (28 ตุลาคม)ว่า บช.ก.อยู่ระหว่างนำส่งสำนวนให้ดีเอสไอ มั่นใจว่าเพียงพอนำไปสอบสวนต่อ ปัจจุบัน บช.ก.ยังรับเเจ้งความในกรณีดังกล่าวอยู่ เช่นเดียวกับทุกสภ.ทั่วประเทศ แต่หากถูกโอนเป็นคดีพิเศษและดีเอสไอ เล็งเห็นว่าคดีนี้มีความสำคัญ ก็อาจประสานขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ถ้าเป็นเช่นนั้น บช.ก.ก็ต้องรับแจ้งความต่อไป ในส่วนการเเจ้งข้อหากับ 18 บอสดิไอคอนเพิ่มเติม รวมถึงเเม่ข่ายและผู้ต้องหาในล็อตที่ 2 ก็ต้องเป็นส่วนของดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินการต่อจากนี้

บช.ก.ส่งคดีดิไอคอนให้DSIชุดแรก18ลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตำรวจนำกล่องสำนวนคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด 18 ลัง เป็นสำนวนคดีที่รับเรื่องกับผู้เสียหายที่แจ้งความ ตั้งแต่วันที่ 10-16 ตุลาคมไปส่งมอบให้ดีเอสไอ เพื่อดำเนินการรับเป็นคดีพิเศษ และยังมีสำนวนบางส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทยอยส่งสำนวนที่เหลือให้ภายหลัง โดยพล.ต.ต.สุวัฒน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ได้ส่งมอบสำนวนคดีดิไอคอน พร้อมลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมด ให้ดีเอสไอเบื้องต้นมีสำนวนที่ส่งในวันนี้ทั้งหมด 18 ลัง 156 แฟ้ม เป็นผู้เสียหายที่มาแจ้งความลำดับที่ 1-325 ซึ่งบางส่วนจะทยอยตามไปเรื่อยๆ โดยบช.ก. รับผู้เสียหายไว้ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3,400 ราย ไม่รวมพยานบุคคลที่สอบไว้อีกหลายปาก

ข้อหาฉ้อโกงฝากขังได้เพิ่มเป็น84วัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากสำนวนส่งไปที่ดีเอสไอแล้ว บช.ก.ยังรับแจ้งความจากผู้เสียหายอยู่หรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.มอบนโยบายไว้แล้วว่า ระหว่างนี้ผู้เสียหายสามารถไปร้องทุกข์กับตำรวจได้ทั่วประเทศเหมือนเดิม หรือไปแจ้งความที่ดีเอสไอก็ได้ ตำรวจยังทำเหมือนเดิมจนกว่าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษ ตามกฎหมายถ้าดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว อำนาจทั้งหมดก็จะอยู่ที่ดีเอสไอดำเนินการ เรื่องช่องโหว่ของสำนวนนั้นไม่น่ามี สำหรับการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมก็อยู่ที่พยานหลักฐานที่ตอนนี้ตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว หากพบมีฐานความผิดอื่นด้วยก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ซึ่งดีเอสไอก็ใช้หลักเดียวกัน

ถามต่อว่าดีเอสไอจะทำสำนวนทัน 4 ฝากหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า หากมีการแจ้งข้อหา พ.ร.ก. กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน จะเพิ่มเป็น 7 ฝาก 84 วัน ก็จะมีเวลาทำสำนวนเพิ่มขึ้น โดยรวมเป็นสำนวนเดียวกัน

ดีเอสไอพร้อมรับคดีดิไอคอน

ขณะที่พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกดีเอสไอเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจสอบสวนกลางจะส่งสำนวนคดีดิ ไอคอนให้ดีเอสไอว่า ตามระเบียบราชการ ตำรวจที่รับผิดชอบคดีต้องส่งหนังสือแจ้งพฤติการณ์แห่งคดี รวมทั้งคำให้การของผู้ต้องหาและผู้เสียหายให้ดีเอสไอ ก่อนส่งสำนวนมาให้ เข้าใจว่าตำรวจเร่งทำหนังสือและสรุปสำนวนอย่างรัดกุม เพื่อให้การส่งมอบคดีถูกกฎหมาย ทั้งนี้ รายละเอียดคดีที่ตำรวจ บช.ก.จะส่งให้ดีเอสไอนั้น หลักๆเป็นการส่งสำนวนข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ของผู้ต้องหาล็อตแรก 18 ราย ซึ่งรวมบอสพอลและ 3 บอสดารา ซึ่งดีเอสไอต้องพิจารณาต่อว่ารับเป็นคดีพิเศษได้ด้วยวิธีการใดของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สำนวนคดีที่ตำรวจจะส่งมาให้ ไม่รวมคดีที่เกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์หรือคลิปเสียงต่างๆ ที่มีนักร้องเรียนไปแจ้งความ เพราะบช.ก.ยังรับผิดชอบคดีดังกล่าวอยู่

สั่งทนายฟ้องเพิ่ม“กบ ไมโคร-ลูกตาล”

ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล กล่าวว่า วันนี้ได้คุยกับบอสพอล โดยเตรียมเอาผิดแม่ข่ายที่ตีเนียนเป็นผู้เสียหายรวม 5 ราย ประกอบด้วย น.ส.ชลธิชา หรือลูกตาล ที่ออกรายการโหนกระแส โดยมีลูกข่ายหลายคนและได้ผลกำไรไปด้วย รวมถึงกบ ไมโคร โดยจะยื่นหนังสือให้ดีเอสไอเปลี่ยนสถานะจากผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหา อาจเป็นผู้ต้องหารายที่ 21

“ยืนยันเราลากทั้ง 5 คนจริง เราซวย เราโชคร้าย คุณทั้ง 5 คนก็ต้องโชคร้ายเหมือนเรา คุณจะมาลอยตัวไม่ได้ คุณต้องพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมเหมือนเรา ตอนนี้เราต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่ทั้ง 5 คนจะมานั่งลอยหน้าลอยตาแล้วบอกตัวเองเป็นผู้เสียหายคงไม่ได้ ไม่ถูกต้อง คุณต้องมาเป็นผู้ต้องหาเหมือนเรา โดยคิดว่ายังมีอีก ไม่ใช่แค่ 5 คน แต่ 5 คนนี้เรารู้จัก เลยเอาแค่นี้ก่อน” นายวิฑูรย์กล่าว และว่า พฤติกรรมของแม่ทีมคือ จะมีตัวแทนในสังกัดและให้คนมาเปิดบิลกับบริษัท ทั้งที่ผู้บริหารไม่ทราบเรื่อง โดยไม่ได้ประเมินความสามารถของตัวแทน ถ้าเราโดนทั้ง 5 คนก็ต้องโดนด้วย

บอสพอลดิ้นสู้-คาดยื่นประกัน17พย.

นายวิฑูรย์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมหลังเข้าเยี่ยมบอสพอลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพว่า ตนเข้าไปไปอัปเดตความคืบหน้าว่า ตอนนี้สำนวนคดีถูกโอนไปยังดีเอสไอแล้ว ซึ่งตนมองว่าไม่มีอะไรดีกว่าหรือเสียกว่า เป็นแค่เปลี่ยนเจ้าภาพ เปลี่ยนคนสรุปสำนวนเท่านั้น อีกทั้ง ดีเอสไอมีประสบการณ์ เจ้าหน้าที่คงแยกออกว่าอะไรคือฉ้อโกงประชาชน อะไรไม่ใช่ ย้ำว่าไม่มีผลต่อแนวทางสู้คดีหลังจากนี้ เพราะตนอธิบายบอสพอลไปทั้งหมดแล้ว ผลเสียคงมีอยู่เรื่องเดียวคือ การที่เขายังอยู่ในเรือนจำฯ ส่วนเรื่องยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ต้องยื่นต่อศาลยุติธรรม และเบื้องต้นคาดว่าจะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวสัปดาห์หน้าของเดือนพฤศจิกายน อาจเป็นวันที่ 17 พฤศจิกายน เราไม่ได้คาดหวัง แต่การได้รับการประกันตัวชั่วคราวจะช่วยให้ออกมาสู้คดีได้ เพราะยังมีข้อเท็จจริงและเอกสารที่พวกเขาต้องอธิบาย แต่ในส่วนบอสดารา ตนไม่ทราบว่าจะยื่นประกันตัวชั่วคราวหรือไม่