สตม.รวบยกแผง‘แก๊งพม่า’แสบ หลอกลงทุนคริปโต ซื้อขายคอนโดฯหรูฟอกเงิน
29 ตุลาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.สทส. ช่วยราชการ สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 , พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ รอง ผบก.ตม.5 ช่วยราชการ บก.ตม.1 , พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 , พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สส.บก.ตม.1 , พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี , พ.ต.ท.กวิณวัชร์ อารยะสุริวงศ์ รอง ผกก.ตม.จว.ชลบุรี , พ.ต.ท.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายปี 2566 มีกลุ่มแก๊งคนต่างด้าว ร่วมกับชาวไทยกลุ่มหนึ่ง หลอกลวง นางสาวมัลลิกา ผู้เสียหาย ให้ลงทุนเทรดหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี โดยได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก (Facebook) ใช้ชื่อ ห้องคุยนักลงทุน ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ แนะนำการลงทุนในการเทรดหุ้น ได้รับผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายจึงเข้าไปพูดคุยและสนใจ เมื่อกลุ่มผู้ต้องหาเห็นว่าผู้เสียหายสนใจ จึงได้ติดต่อมาทางแอปพลิเคชันไลน์ และหลอกล่อจนกระทั่งผู้เสียหายยอมโอนเงินไปให้หลายครั้ง หลายบัญชี
คนร้ายจะมีการพูดหลอกล่อ เช่น ต้องค้างเงินไว้ในพอร์ตเป็นเวลาขั้นต่ำกี่วัน หรือต้องมีการโอนเพิ่มเพื่อให้สามารถทำการเทรดโดยใช้ leverage ได้ เมื่อผู้เสียหายเทรดได้กำไร มีการโอนผลกำไรกลับไปบางส่วน เป็นต้น ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ
ทั้งนี้รวมยอดความเสียหายที่ผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งสิ้น เป็นจำนวนเงิน 21 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางรัก โดยจากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาแก๊งนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานตั้งแต่ระดับ สั่งการจนถึงบัญชีม้า
เริ่มจาก นายมูน ชาวกัมพูชา (ผู้ต้องหาที่ 1) และนายโก ชาวเมียนมา (ผู้ต้องหาที่ 2) ทำหน้าที่เป็นบัญชีม้า รับโอนเงินต่อกัน โดยได้รับการชักชวนจากนายหน้าชาวเมียนมาอีกทอดหนึ่ง ก่อนจะมีการโอนเงินไปยัง นายวิน นักธุรกิจชาวเมียนมา (ผู้ต้องหาที่ 3) ซึ่งเปิดบริษัททำธุรกิจบังหน้าในประเทศไทยอีกทอดหนึ่ง ก่อนที่จะมีการโอนเงินไปให้ นางสาวซาน หญิงชาวเมียนมา (ผู้ต้องหาที่ 4) ที่ทำหน้าที่รับยอดเงินรวม ก่อนจะมีการนำไปรวมกับบัญชีของ นางสาวถ่วย หญิงชาวเมียนมา (ผู้ต้องหาที่ 5) เพื่อนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบคอนโดมิเนียมหรูย่านพระราม 9 มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นเงินสด และขายต่อให้บุคคลที่สามชาวเมียนมาทันที
พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ชุดสืบสวน กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้สืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 รายดังกล่าวเรื่อยมา จนสามารถจับกุม นายโก ชาวเมียนมา ได้ที่บ้านพักส่วนตัว จ.ปทุมธานี จับกุมนายมูน ชาวกัมพูชา ได้ที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี หลังสืบทราบว่าได้มีการหลบหนีไปสมัครงานที่โรงงานดังกล่าว จับกุมนางสาวซาน หญิงชาวเมียนมา ที่คอนโดมิเนียมหรู ริม ถ.รัชดาภิเษก จับกุมนางสาวถ่วย ชาวเมียนมา ขณะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อจะมาจัดการทรัพย์สิน และจับกุมนายวิน นักธุรกิจชาวเมียนมา ขณะเดินอยู่ที่บริเวณริม ถ.ราชดำริ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบปากคำนายโก นายมูน และ นางสาวซาน ยังนำไปสู่การออกหมายจับบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา อีก 1 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างสืบสวนจับกุม และจะได้ขยายผลสืบสวนจับกุมต่อไป ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี