ที่โดมอเนกประสงค์วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อร่วมพัฒนาคนสมรรถนะสูง สร้างอาชีพที่ทันสมัย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยมีนายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน
ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยองลงนามร่วมกับสถานประกอบการจำนวน 118 แห่ง มีสถานประกอบการร่วมจัดการศึกษาอาชีวศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยี และสถาบันอุดมศึกษา สถานประกอบการร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคี หน่วยภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน สถานศึกษาสังกัด สพฐ. สกร. ท่ามกลางสักขีพยานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการมอบโล่หน่วยงาน องค์กร และสถานประกอบการผู้มีอุปการคุณในการอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกษา จำนวน 76 แห่ง และบูธนิทรรศการผลงานการจัดการเรียนการศึกษาศูนย์บมเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคระยอง มาแสดงโชว์ในงานด้วย
ทั้งนี้ พิธีลงนามความร่วมมือจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ สามารถพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะเท่าทันเทคโนโลยีปัจจุบันและเชื่อมโยงองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาการทำงานให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคต และพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้านความรู้ ด้านทักษะและด้านความสามารถในการประยุกต์ใช้และความรับผิดชอบตามมาตรฐานการเรียนรู้แต่ละระดับการศึกษาการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแผนการศึกษาแห่งชาติเป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐานของชาติกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ ตลอดจนยึดโยงกับมาตรฐานอาชีพ รวมทั้งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับสถานประกอบการที่มีศักยภาพเข้าร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ เกิดความร่วมมือในการผลิตและพัฒนากำลังคนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การพัฒนาหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาผู้สอนทั้งในสถานศึกษาและสถานประกอบการ และสร้างแรงจูงใจใฝ่เรียนของผู้เรียน พัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ยังเพื่อรองรับความต้องการกำลังคนในการพัฒนาประเทศการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี จึงเป็นรูปแบบการจัดการศึกษาที่กำหนดสมรรถนะของผู้สำเร็จการศึกษาจากความต้องการของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐอย่างแท้จริงอีกด้วย
นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า การลงนาม MOU กับสถานประกอบการที่เกิดขึ้นจะส่งผลดีคือ อันดับแรก จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถานประกอบการเองที่จะได้คนที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของสถานประกอบการเองว่าจบไปแล้วสามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องไปฝึกใหม่ ส่วนประโยชน์ของผู้เรียน ก็จะมั่นใจได้ว่าจบไปแล้วมีงานทำแน่นอน มีสถานประกอบการรองรับ ซึ่งที่ผ่านมาการลงนามกับสถานประกอบการถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ตัวเลขผู้เรียนระบบทวิภาคียังไม่มากเท่าที่ควร ซึ่งปีที่ผ่านมาตัวเลขผู้เรียนในระบบทวิภาคีเพิ่มขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะเพิ่มขึ้น เพราะว่าทางเรามีนโยบายดูแลผู้เรียน ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าส่งบุตรหลานมาเรียนแล้วมีงานทำ มีอาชีพแน่นอน
อัจฉรา วิเศษศรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี