ผู้ปกครองเด็กนักเรียนถามหาคนรับผิดชอบหลังรถ 6 ล้อบรรทุกดินพุ่งชนท้ายรถสองแถวรับส่งนักเรียนส่งผลให้นักเรียนหญิงเสียชีวิต 2 รายในที่เกิดเหตุและนักเรียนชายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุทั้งคนขับรถบรรทุกดินและรถรับส่งนักเรียนยังไม่ออกมารับผิดชอบ

วันนี้ (30 ต.ค.67) แม่เด็กหญิงวัย 13 ขวบนักเรียนชั้น ม.1 และแม่นักเรียนหญิงอายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ออกมาถามถึงความรับผิดชอบของคนขับรถบรรทุกดินและรถสองแถวรับส่งนักเรียนหลังจากเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 29 ต.ค.67 ที่ผ่านมา รถทั้ง 2 คันได้เกิดเฉี่ยวกันบริเวณทางแยกเข้าสวนนก ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ลักษณะของการเกิดอุบัติเหตุ รถสองแถวรับนักเรียนจากโรงเรียนจะไปส่งตามหมู่บ้านแล้วเลี้ยงขวาจะเข้าถนนสายรอง จากนั้นได้มีรถบรรทุกดิน 6 ล้อมาทางตรงพุ่งชนไปบริเวณท้ายรถสองแถวซึ่งมีนักเรียนยืนอยู่ท้ายรถกระเด็นตกลงมา 3 คน ทำให้นักเรียนเสียชีวิต 2 ราย คือ ด.ญ.สุนิศา หรือ น้องนิ อายุ 13 ขวบนักเรียน ม.1 และ น.ส.ศรัญรัตน์ หรือ น้องอ๋อมแอ๋ม อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีนักเรียนชายชั้น ม.6 ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลใจให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นอย่างมากเพราะนายเมธี อายุ 30 ปี อยู่หมู่ 2 ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว คนขับรถบรรทุกดินอ้างว่ามาทางตรงไม่ใช่เป็นฝ่ายผิด

ส่วนนายเหลือ อายุ 77 ปี อยู่หมู่ 2 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ คนขับรถสองแถวรับส่งนักเรียนอ้างว่า ขับรถพ้นทางแล้วแต่รถบรรทุกดินมาชนท้าย โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุนายเหลือ ขับรถไปที่อู่ซ่อมรถหวังจะซ่อมลบหลักฐาน และไม่ยอมไปพบเจ้าหน้าที่

น.ส.ศรัญญา แม่ของน้องอ่อมแอ๋ม ที่เสียชีวิต เล่าว่า โรงเรียนเพิ่งเปิดเรียนได้เพียง 2 วันเท่านั้นแล้วมาเกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่ผิดปกติตอนนี้คือคนขับรถสองแถวออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบอ้างว่าขับรถพ้นแล้ว เหมือนจะไม่รับผิดชอบใดๆ ตอนนี้กังวลเรื่องการเยียวยา

ขณะที่ น.ส.ประครอง แม่ของน้องนิ ที่เสียชีวิตเป็นศพที่ 2 เล่าว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรับไม่ได้เห็นสภาพลูกสาวตอนนั้นนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างถนน ส่วนนายเหลือ คนขับรถสองแถวได้นั้นเคยขับรถรับส่งผู้โดยสารแล้วหยุดมาวิ่งหันมาขับรถรับส่งนักเรียนแทน ในแต่ละวันจะมีนักเรียนขึ้นรถนายเหลือ 20-30 คนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นได้ ตอนนี้ยังงงว่าทั้งสองคนขับรถไม่ยอมมาพูดคุยกับผู้เสียหาย สงสารแต่ลูกที่ตั้งความหวังไว้ว่าอยากจะเป็นครู แต่ต้องมาจบชีวิตก่อนวัยอันควร - 003