สามีตำรวจเผยเมียหลอกยืมเงินนับ 10 ราย ไปลงทุน เกือบล้านบาท จนต้องบอกเลิก ที่ดูดกัญชาเพื่อให้หลับเพราะเครียดมาก ไม่เคยทำร้ายร่างกายแต่ต้องป้องกันตัว เพราะถูกมีดไล่แทง
วันที่ 30 ตุลาคม 2567 จากกรณี นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา น.ส.เพชรรัตน์ ชาวจังหวัดอยุธยา เข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังถูกสามีตำรวจยศ ส.ต.อ. เป็นตำรวจชุดสืบสวน สังกัดตำรวจภูธรสัตหีบ ทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะ ต่อย และขับรถชน จนกระดูกหัวเข่าแตก เพราะก่อนหน้านี้มีเงินเก็บ 4-5 ล้านบาท ก็นำมาเลี้ยงสามีทั้งหมด
แต่ที่ผ่านมาสามีของตนเป็นคนติดกัญชา เวลาเสพกัญชาจนเมา ก็จะทำร้ายตบตีตนเองตลอด มีอยู่วันหนึ่งสามีกำลังจะขับรถออกไปข้างนอกเวลากลางคืน และก็กำลังเมากัญชาอยู่ ตนเข้าห้ามปรากฏว่าสามีกลับขับรถชนตนจนกระดูกหัวเข่าแตก และบอกก่อนหน้านี้ตนเคยไปร้องเรียนผู้บังคับบัญชา ทั้งผู้กำกับสถานี และสารวัตรหัวหน้างาน เรื่องการเสพกัญชาและทำร้ายร่างกาย แต่ปรากฏว่า ผู้กำกับบอกว่า เป็นเรื่องในครอบครัวให้กลับไปคุยกันเองที่บ้าน ส่วนสารวัตรก็บอกว่า กัญชาไม่ผิดกฎหมาย อีกทั้งตำรวจในสถานีก็ไม่รับแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกาย เธอจึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้ สามีเธอยังเคยข่มขู่ว่ามีปืน จึงกังวลว่าเป็นอันตรายต่อชีวิต
ส่วนสาเหตุที่สามีชอบทำร้ายร่างกายตน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงปีที่แล้ว ตนจับได้ว่าสามีมีผู้หญิงคนอื่น เป็นพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพัทยา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยไปหาพยาบาลคนนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยฝ่ายหญิงยืนยันว่าจะเลิกคุย แต่ปรากฏว่าช่วงเดือนที่ผ่านมา ก็ยังมีการติดต่อกับสามีตัวเองอยู่ และนอกจากหญิงพยาบาลคนนี้ สามีตนก็ยังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคน ที่เป็นเมียของตำรวจโรงพักเดียวกัน ซึ่งเมียของตำรวจคนนี้ ก็เคยโทรศัพท์มาบอกกับตนยืนยันว่า ได้เสียกับสามีของเธอแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด ที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม ส.ต.อ. สมภพ (ขอสงวนนามสกุล) ยอมรับว่า เป็นภรรยาตนจริง ปัญหามาจากเรื่องเขายืมเงินพ่อแม่ญาติพี่น้องตน และเพื่อนๆ หมดเลย หลอกเขาว่าจะไปลงทุน แต่ก็ไม่ได้ไปลงทุน ส่วนใหญ่แล้วจะเอาไปเล่นการพนันจนหมด
ส่วนเรื่องผู้หญิง พยาบาลที่เขาว่าเป็นเพื่อนตน เป็นเพื่อนกันมานาน ตั้งแต่ตอนเป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ ติดต่อพูดคุยกันมาตลอดแต่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ด้านชู้สาวมาก่อน ส่วนเรื่องเมียตำรวจ ตนเคยคุยด้วยตั้งแต่ตอนเขาจะคบกับตำรวจเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไม่เคยมีความสัมพันธ์กัน ทุกวันนี้คุยกับแบบเพื่อนกัน
สำหรับคลิปเสียงที่ตนขอเลิกกับเขา คือ อยากเลิกมานานมาก ทนกับพฤติกรรมเขาไม่ไหว แค่หาเรื่องเลิก จึงบอกไปว่าคุยกับน้องเขา และมีอะไรกันแล้ว เพื่อจะให้เขาเลิกกับตน สุดท้ายเขาก็ไม่เลิก แต่จริงๆ ไม่เคยมีอะไรกันเลย ส่วนที่ว่าตนขับรถชน เหตุเกิดวันที่ 28 ก.ย. ต้นเหตุมาจากรุ่นพี่ตนที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน มาแจ้งว่าภรรยาไปยืมเงินเขา และยืมเงินครอบครัวเขา รวมๆ แล้ว ประมาณหลายแสนบาท ซึ่งเพิ่งมาทราบคืนนั้น จึงโมโหจะขี่ จยย. ออกจากบ้าน เขามาขวางไว้ ตนก็จอด จยย. ทิ้งแล้ววิ่งหนี ไม่ได้ขับรถชนแล้วก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องกัญชา ตนมีอาการเครียดจากการที่เขาไปยืมเงินคนไปทั่วหมด นอนไม่หลับ จนมีคนแนะนำว่ากัญชาช่วยให้หายเครียด สูบให้หายเครียดจะได้หลับได้พักผ่อน แต่สูบในส่วนบ้านพัก ไม่เคยสูบที่ราชการแต่อย่างใด และที่เขาบอกว่าตนหลอกเงิน 4-5 ล้านบาทนั้น ไม่จริงถ้าเขามีเงิน 4-5 ล้าน ทำไมต้องมายืมเงินคนรอบตัวทั้งหมด พ่อแม่ตนก็โดน เขาชอบเล่นพนันออนไลน์ ตนบอกเขามาตลอดว่าไม่ชอบการเล่นการพนันมาก เขาจะแอบเล่น สามารถตรวจสอบบัญชีที่เขาใช้เล่นได้เลย
ตนขอหย่ามานานหลายรอบมาก แต่เขาไม่ยอมหย่า ตั้งแต่เกิดเรื่องปลายปีแล้ว จนทนไม่ไหว ออกมาจากบ้านเองไปนอนบ้านพ่อ นอนห้องที่ทำงาน เขาก็จะพยายามไปหาตามกลับ ผู้บังคับบัญชา ก็พยายามให้ผมกลับบ้าน กลับไปคุยกับเขาดีๆ ซึ่งผมไม่อยากกลับไปแล้ว เรื่องหนี้สิน ตอนที่เขาไปยืมมา ตนไม่รู้เลย เขาพยายามจะปกปิดผมตลอดว่าเขาไปยืมใครมาเท่าไหร่ ว่าเอาเงินคนนี้มาทำอะไร ตนจะรู้อีกทีก็ตอนที่เขามาทวงว่า ติดหนี้ส่งไม่ไหว
หลังจากนั้นก็ได้มีกลุ่มผู้เสียหายนับ 10 ราย ได้เดินทางมารวมตัว นำหลักฐานการโอนเงิน และข้อความในไลน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.เพชรรัตน์ ชาวจังหวัดอยุธยา ที่เป็นข่าว ในข้อหาฉ้อโกง มูลค่าความเสียหาย เกือบ 1 ล้านบาท เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความไว้แล้ว ซึ่งจะได้มีการเรียกตัว น.ส.เพชรรัตน์ มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี