รวบฆาตกรหลอนยา ฆ่าปาดคอลุงเลี้ยงวัวดับคาสวนยูคา อ้างเหตุต้องฆ่าถูกกล่าวหาขุดหาจิ้งหรีดในทุ่งเลี้ยงสัตว์ พบทั้งสองเป็นคู่อริบาดหมางกันมานาน
กรณีนายอดุลย์ หรือตา อายุ 59 ปีอยู่หมู่ 7 บ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม อาชีพทำนาและรับจ้างเลี้ยงวัว ถูกคนร้ายไม่ทราบชื่อใช้ของมีคมแทงและปาดลำคอ เสียชีวิตในป่าสวนยูคาลิปตัส บ้านคำธาตุ หมู่ 8 ต.หนองญาติ ซึ่งอยู่หลังเมรุวัดศรีบุญเรือง พบศพเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 โดยมีพยานเป็นคนเกี่ยวข้าวอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าตอนเวลาก่อนเที่ยงในวันเดียวกัน ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน พร้อมเสียงตะโกนชื่อโชคๆ ซึ่งอาจจะเป็นนายโชคชัย อายุ 26 ปี อยู่หมู่ 8 บ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ เนื่องจากหลังเกิดเหตุไม่มีใครเจอตัวนายโชคชัยเลย จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของลุงตา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม จึงออกติดตามหาตัวนายโชคชัยทันที
ต่อมาวันนี้ (2 พ.ย.67) เมื่อ เวลาประมาณ 07.00 น. พ.ต.ท.กันตินันท์ สงครามยศ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับ ร.ต.อ.ประพันธ์ สอทา ตำรวจสายตรวจประจำพื้นที่ ต.หนองญาติ เข้าจับกุมตัวนายโชคชัยซึ่งหลบอยู่ในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ ในสภาพอิดโรยเพราะไม่ได้ทานทั้งข้าวและน้ำ นำตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง นายโชคชัยยอมรับว่าเป็นคนฆ่านายอดุลย์หรือลุงตาจริง เนื่องจากมีเรื่องระหองระแหงกันมาก่อน
วันเกิดเหตุตนได้ถือเสียบเข้าไปในสวนยูคาลิปตัส เพื่อจะขุดหาจิ้งหรีดหรือชาวอีสานเรียกว่าจิหล่อ ระหว่างขุดอยู่นั้นลุงตาที่เลี้ยงวัวอยู่ ได้เข้ามาต่อว่าและจับเสียบในมือตนเป็นของกลาง เพื่อไปแจ้งกับนายชัยวัฒน์ ศรีเชียงใหม่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ ด้วยกลัวความผิดจึงมียื้อแย่งเสียบกัน ตนได้ดึงอาวุธมีดสั้นที่พกมาด้วย จ้วงแทงลุงตาและปาดคอจนเสียชีวิต จากนั้นได้ไปหลบอยู่ในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่กันมาเยอะ ยิ่งเกิดความกลัวที่เป็นฆาตกรฆ่าคนตาย จึงไม่กล้าออกไปไหน หิวข้าวก็หิวน้ำดื่มก็ไม่มี กระทั่งเช้าจะเดินไปหาน้ำดื่มก็ถูกเจ้าหน้าที่ ที่ซุ่มอยู่บริเวณนั้นเข้าจับกุมดังกล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางคำปุ่น อายุ 65 ปี ภรรยาของลุงตา เปิดเผยว่าวัวที่เลี้ยงทั้งหมดมี 7 ตัว ซึ่งเป็นวัวของลูกสาวมาจ้างให้เลี้ยง โดยจะแบ่งวัวให้ปีละตัว ปกติของทุกวันลุงตาหลังกินข้าวเช้าแล้ว จะต้อนฝูงวัวไปเลี้ยงในป่าสวนยูคาลิปตัส ที่ลูกสาวได้เช่าพื้นที่จากเจ้าของสวนเพื่อเลี้ยงวัว ตอนเที่ยงจะเดินกลับมากินข้าวบ้าน และเวลาประมาณ 16.00 น. ก็จะต้อนกลับมาเข้าคอก
วันเกิดเหตุตนออกไปรับจ้างเกี่ยวข้าว กลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นสามีต้อนวัวกลับคอก จึงได้ออกตามหากระทั่งตะวันตกดิน ก็ไม่เห็นแม้เงาสามี จึงไปหานายวิศิษฐ์ เหมเมือง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 บ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ และนางสาววณิชา ไชยสงคราม นายกรกรรณ์ สิงห์แก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ระดมชาวบ้านออกตามหา ส่วนตนมีอาการวิงเวียนหน้ามืด ญาติจึงให้รอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน กระทั่งมีคนมาบอกว่าพบศพลุงตาเสียชีวิตอยู่ในป่ายูคา ตนปักใจเชื่อว่าฆาตกรรายนี้ต้องเป็นนายโชคชัยแน่นอน เพราะทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
นางคำปุ่นเล่าต่อว่านายโชคชัย ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จะเดินผ่านหน้าบ้านตนประจำ วันหนึ่งได้เข้าไปขโมยของในบ้าน ทำให้ลุงตาสามีโกรธเคือง จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน ต่อมานายโชคชัยแอบมาจุดไฟเผากองฟางที่สามีเตรียมไว้ให้วัวกิน ยิ่งเพิ่มความแค้นเคืองมากยิ่งขึ้น เวลาทั้งคู่เจอหน้ากัน จะต้องปะทะคารมกันอยู่เสมอ อีกอย่างสามีไม่เคยมีเรืองโกรธเคืองกับใครทั้งสิ้น ยกเว้นกับนายโชคชัยคนนี้
ด้าน นายวิศิษฐ์ เหมเมือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านเหล่าภูมี เผยว่าโดยปกติสองคนเหมือนขมิ้นกับปูน แต่ไม่คาดจะถึงขั้นฆ่าจนเสียชีวิต หลังนางคำปุ่นมาแจ้งก็ระดมชาวบ้านกว่า 10 คน เข้าค้นหาในป่าสวนยูคา ได้พบรองเท้าบูทถอดอยู่ 1 คู่ ก็เดินหาไปอีกประมาณ 70 เมตร ก็พบร่างนายอดุลย์หรือลุงตา ในสภาพนอนหงายไม่ใส่เสื้อ สวมกางเกงขายาวเพียงตัวเดียว ลำตัวมีเลือดแห้งเกรอะกรัง จึงประสาน ร.ต.อ.ประพันธ์ สอทา ตำรวจสายตรวจประจำตำบล ประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมแพทย์เวร รพ.นครพนม ร่วมชันสูตรพลิกศพ
ในขณะที่นางสาววณิชา ไชยสงคราม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านเหล่าภูมี ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ระดมค้นหาตัวลุงตา เล่าว่าที่เกิดเหตุอยู่ไกลชุมชนมาก เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่เศษ เป็นป่ายูคาลิปตัส ชาวบ้านเรียกว่าสวนนำสมัย ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่จะเดินหลง เพราะเป็นทุ่งกว้างมาก ตอนค้นหานั้นเชื่อว่าลุงตาอาจหน้ามืดเป็นลม พอไปพบก็เห็นเลือดเต็มตัว จึงเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า ส่วนนายโชคชัยเป็นคนไม่มีอาชีพ ญาติพี่น้องก็ต่างเอือมระอาในพฤติกรรม
ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายโชคชัยผู้ต้องหาได้แล้ว นำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะพบมีฉี่เป็นสีม่วง และให้การวกวนไปมา คาดเพิ่งเสพยาบ้าก่อนฆ่าลุงตาคนเลี้ยงวัว เสียชีวิตคาสวนยูคาลิปตัสดังกล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี