ผบ.ทร.ย้ำยึดอธิปไตยของชาติ
ปกป้อง‘เกาะกูด’!
ตามประกาศเขตแดนปี2516
‘วีระ สมความคิด’ยื่นยุบพรรครบ.
หวั่นแบ่งพื้นที่ทับซ้อนเอื้อเขมร
‘คปท.’นัดม็อบบุกทำเนียบ5พ.ย.
“ผบ.ทร.” ลั่น ปกป้อง “เกาะกูด” ยึดเขตแดนรัฐบาลประกาศปี 2516 ขอประชาชนวางใจย้ำ สัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ไร้ขัดแย้งพื้นที่ทับซ้อน ฝ่าย “วีระ สมความคิด” จ่อยื่น 3 คำร้องยุบพรรค-ถอดครม.ยกชุด-คดีอาญา กรณีพื้นที่ทับซ้อนอาจทำไทยเสียดินแดนเกาะกูดเดือด ด้าน “คปท.” นัด 5 พฤศจิกายน รวมพลคนคลั่งชาติ ต้านผลประโยชน์ทับซ้อน
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูดพร้อมรับฟังบรรยายสรุปถึงการปฏิบัติงานของหน่วย และการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพล และประสิทธิภาพของหน่วย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลต่อไป โดยมี พล.ร.ต.ชรัมม์ภากร พรหมภากร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด คณะผู้บังคับบัญชาและกำลังพลของหน่วย ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทกับกำลังพลของหน่วย ตอนหนึ่ง ว่า ขอบคุณกำลังพลทุกนาย ที่เสียสละ ต้องห่างจากบ้าน จากครอบครัวที่รักมาประจำการอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ให้คงอยู่คู่กับประเทศตลอดไป พร้อมขอให้ผู้บังคับหน่วยดูแลกำลังพล ในทุกระดับชั้นในเรื่องของความเป็นอยู่ สิทธิประโยชน์ของทุกคนให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง หากมีข้อขัดข้องสิ่งใดให้รายงานขึ้นมาผ่านสายงานผู้บังคับบัญชาได้ทันที ตนเองพร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหาของหน่วย เพื่อให้มีความพร้อมในทุกมิติ
ทัพเรือพร้อมดูแลพื้นที่
จากนั้นผู้การทหารเรือได้ให้ สัมภาษณ์ว่า วันนี้ ตนมาดูความพร้อมกำลังพล ว่า มีความเป็นอยู่อย่างไร รวมถึงดูความพร้อมของยุทธโธปกรณ์ ในการเฝ้าตรวจ และการเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบส่วนกลาง หรือ หน่วยควบคุมที่เชื่อมโยงสู่ศูนย์กลางของกองทัพเรือ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเห็นภาพพื้นที่ปฏิบัติการ ในพื้นที่ที่เราดูแล โดยได้ให้นโยบายไปว่า ต้องทำอย่างไรให้มีความพร้อม ซึ่งปัจจุบันความพร้อม ถูกยกระดับขึ้นมาจากเดิม ทั้งเครื่องมือและคนให้มีพร้อมในทุกจุด แต่สิ่งที่ยังติดขัด คือเรื่องของเทคโนโลยี ระบบสนับสนุนต่างๆ เช่นระบบไฟ น้ำ เป็นสิ่งจำเป็น ก็ต้องทำให้เพียงพอกับความต้องการของกำลังพล
พล.ร.อ.จิรพล กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่เกาะกูด ของกองทัพเรือ มีหน่วยที่อยู่บนเกาะ คือ หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด และนาวิกโยธิน ซึ่งทั้งสองหน่วยได้ทำงานร่วมกัน เพื่อดูแลในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อ รวมถึงมีเรดาร์ดูแลพื้นที่ในทะเล เพื่อส่งข้อมูลให้ส่วนกลางในภาพรวม ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพเรือมีความพร้อม มีความปลอดภัย ประชาชนสามารถทำมาหากินในพื้นที่นี้ได้อย่างสงบสุข
ทร.ดูแลผลประโยชน์ของชาติ
เมื่อถามถึง สถานการณ์ด้านความมั่นคง ในพื้นที่อำเภอเกาะกูด จ.ตราด กรณี เอ็มโอยู2544 นโยบายรัฐบาลเจรจาผลประโยชน์ทางทะเล ทำให้กองทัพเรือ ลำบากใจหรือไม่พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า หน้าที่ของกองทัพเรือ คือการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลไทยได้ประกาศเขต เอาไว้แล้วเมื่อปี พุทธศักราช 2516 เราจะดูแลพื้นที่ตามเขตเเดนที่รัฐบาลประกาศไว้ ส่วนความคืบหน้าหรือข้อตกลงอะไรนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้กับประชาชน
“ขอให้มั่นใจกองทัพเรือดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติ และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่ ยืนยันความสัมพันธ์ ทั้งสองประเทศ พื้นที่อ้างสิทธ์ทับซ้อน ไม่มีความขัดแย้งใดๆ”
ปชช.อยู่อาศัยได้ตามปกติ
เมื่อถามว่ารองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ได้ย้ำให้หน่วยมีความพร้อมที่จะดูแลพื้นที่ ตนเองจึงต้องลงมาดูแล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายว่ากองทัพเรือต้องพร้อมที่จะดูแลพื้นที่ที่อยู่ในทะเลให้ได้ 100% เพราะฉะนั้นอะไรที่ติดขัดก็จะเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆให้สำเร็จ ซึ่งหลายเรื่องได้แก้ปัญหาไปแล้ว เหลือแค่บางเรื่องที่จะต้องค่อยๆแก้ไข เพราะต้องใช้งบประมาณ
เมื่อถามว่ากลุ่มที่มีการเรียกร้องอาจมีการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เกรงว่าจะมีปัญหาหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่ากองทัพเรือจะดูแลพื้นที่ตรงนี้ได้ ไม่ต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนฝั่ง และบนเกาะมีความมั่นใจกับกองทัพเรืออยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามพื้นที่ของเรามีความสงบ ปลอดภัย ชาวประมงสามารถทำมาหากินได้ปกติ ขณะที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีความเข้าใจ และก็หากินในพื้นที่ของตนเอง ส่วนเราก็ทำมาหากินในพื้นที่ของเราไม่มีความขัดแย้งใดๆ
เมื่อถามว่าพื้นที่เกาะกูดได้ถูกเชื่อมโยงเป็นประเด็นทางการเมือง กองทัพเรือได้กำชับกำลังพลอย่างไรบ้าง พล.ร.อ. จิรพล กล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเราและเรามีความสัมพันธ์กับพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างดีซึ่งจากการรับฟังบรรยายสรุปของหน่วยฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เรือประมงที่ทำมาหากินอย่างสุจริต ไม่เคยรุกล้ำเข้าพื้นที่มาเลย ยกเว้นเรือที่ลักลอบขนสินค้าหนีภาษี แต่ก็สามารถจับกุมได้ตามอำนาจหน้าที่ของเรา สำหรับประชาชนที่ทำมาหากินสุจริต ในทะเลทั้งสองฝั่งนั้น ทุกคนมีความสุข ไม่มีใครเดือดร้อน และประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ยืนยันหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่มีความสัมพันธ์ที่ดี สามารถพูดคุยกันโดยไม่มีข้อขัดแย้งอะไรต่อกัน
จ่อยื่นถอดครม.ทั้งคณะ
ก่อนหน้านี้ นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดเผยว่ามีความตั้งใจจะยื่นคำร้อง ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ทำการตรวจสอบกรณี พื้นที่ทับซ้อน ว่าเป็นการทำให้เสียดินแดน ผิดรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบไต่สวนส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทำการยุบพรรคการเมืองและถอดถอนคณะรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง และให้เลิกการกระทำดังกล่าวนั้นเสีย
คำร้องที่ 2 จะยื่นต่อปปช.ให้ทำการตรวจสอบไต่สวนคณะรัฐมนตรีเป็นคดีอาญาฐานเป็นกบฏทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน ทั้งทางบกและทางทะเล และฟ้องคดีอาญาต่อศาลคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
ยังมีเวรกรรมอยู่กับเขมร
นายวีระ กล่าวว่า และอาจยื่นคำร้องที่ 3 ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองขอให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ที่รัฐมนตรีของแต่ละพรรค ไปร่วมสมรู้สมคบกันสนับสนุนให้มีการแถลงนโยบาย จัดสรรผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนกับเขมรทั้งที่เป็นดินแดนของประเทศไทย เพื่อ เสนอกกต.มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทำการยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิ์ กรรมการบริหารพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป
“ผมมีเวรกรรมอยู่กับเขมร เพราะได้ทำหน้าที่ปกปักรักษาแผ่นดินตามหน้าที่ของประชาชนชาวไทย จนถูกแกล้งจับไปติดคุกเขมรอยู่หลายปี ดังนั้นจึงต้องทำหน้าที่นี้ต่อไปจนถึงที่สุด” นายวีระ กล่าว.
“เสรีพิสุทธิ์”เปรยอย่าขายชาติ
วันเดียวกัน พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า”พวกคลั่งชาติผมรับได้ แต่ไอ้พวกขายชาติผมรับไม่ได้จริงๆ”
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม นักวิชาการอิสระและที่ปรึกษา ด้านการเมืองการปกครอง และกฎหมายมหาชน สถาบันสุจริตไทย และ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์ข้อความระบุว่า...เกาะกูดเป็นของไทยแน่นอน
แต่ MOU2544 ไปยอมรับว่ามีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เท่ากับยอมรับเส้นเขตแดนทางทะเล ที่กัมพูชากำหนดนั่นเอง แล้วประเทศจะไม่เสียพื้นที่ทางทะเลได้อย่างไร?
“ขอเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2544 ที่ไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทางทะเลครับ” ด้วยความรักชาติ เห็นแก่ประโยชน์ชาติ และคลั่งชาติแบบมีเหตุผลครับ
คปท.นัดรวมพล5พย.
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า จะเชื่อได้ไหม
ปี 2551 รัฐบาลเพื่อไทย โดย นพดล ปัทมะ รมต.ต่างประเทศขณะนั้น บอกว่าเราจะไม่เสียเปรียบเรื่องปราสาทเขาพระวิหารและพื้นที่รอบเขาผลคือ กัมพูชา ขึ้นทะเบียน ปราสาทเขาพระวิหาร เพียงประเทศเดียว
ปี 2567 รัฐบาลเพื่อไทย บอกว่า เราจะไม่เสียเกาะกูด แต่ต้อง เอาผลประโยชน์ขึ้นมาใช้ก่อน เดี๋ยวพลังงานหมดอายุเราถูกเป่าหูว่า พลังงานจะหมดอายุเราถูกบอกว่า เราจะไม่เสียสิทธิ์ดินแดนทางทะเล แล้วเราจะเชื่อรัฐบาลที่คิดแต่ผลประโยชน์ ได้ไหม
นัดหมายอังคาร 5 พ.ย.67 “รวมพลคนคลั่งชาติ คัดค้านผลประโยชน์ทับซ้อน หยุดเจรจาผลประโยชน์ก่อนเขตแดน” เจอกันทำเนียบรัฐบาล 10.00 น สะพานชมัยมรุเชฐ
จัดกิจกรรมปกป้องเกาะกูด
นางสาวสุพิชญ์ณัฏฐา รังเกตน์แก้ว ตัวแทนกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันที่เป็นลูกหลานคนตราด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของพื้นที่เขตแดนของเกาะกูดที่ฝ่ายไทยและจังหวัดตราดมองว่า เป็นของจังหวัดตราดและเป็นของไทยตามสนธิสัญญาของฝรั่งเศสนั้น ก็เป็นข้อเท็จจริง แต่ยังมีบางเรื่องที่ซับซ้อนและลึกซึ้งมากกว่านั้น เพราะในพื้นที่ทางทะเลฝ่มยกัมพูชาได้ขีดเส้นที่เลยเข้ามาในเกาะกูด และเรายังไม่มีการตอบโต้หรือเรียกร้องใดๆ อีกทั้งยังยอมรับและไม่คัดค้านฝั่งกัมพูชาหากมีการต่อสู้กันอาจจะทำให้ไทยเสียประโยชน์ ทางกลุ่มของเราจึงได้เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อปกป้องดินแดนของเกาะกูด ด้วยการจัดเวทีเพื่อให้ความรู้ในเรื่องนี้ ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.00 น. ณ ลานกิจกรรมสนามหลวง (ตรงข้าม ร.ร.อนุบาล) หน้าศาลากลางจังหวัดตราด
ทุกอย่างต้องชัดเจน
ขณะที่นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูดและชาวเกาะกูด โดยกำเนิด เปิดเผยว่า ที่ต้องเขียนข้อความและลงในโพสต์ของตนเอง เพื่อต้องการสะท้อนความรู้สึกของพี่น้องชาวเกาะกูดว่ามีความรักและหวงแหนแผ่นดินเกิดและไม่อยากให้ใครหรือนักการเมืองกลุ่มใดใช้เกาะกูดมาเป็นเสมือนตัวประกัน และอ้างอิงในเรื่องต่างๆ เพราะเกาะกูดเป็นของไทยโดยสมบูรณ์ตามสนธิสัญญาที่ฝรั่งเศสได้ทำไว้เมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา
“แผ่นดินเกาะกูดเป็นของประเทศไทย 100% เกาะกูดเป็นอำเภอหนึ่งของ จังหวัดตราดและประเทศไทย มีประชาชนชาวไทยอาศัยทำมาหากินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ปู ย่า ตายาย จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการเสียแผ่นดินเกาะกูดให้กับทางกัมพูชาแต่อย่างใดทั้งสิ้น ตามที่เป็นข่าว
พื้นที่ทับซ้อนค่ามหาศาล
พื้นที่ทับซ้อนในทะเลที่ทรัพยากรธรรมชาติ มูลค่ามหาศาล ไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเกาะกูด สถานประกอบการ ธุรกิจที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวของเกาะกูดเรื่องนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทย ไม่ว่าพรรคไหนหรือฝ่ายไหนที่จะมาเป็นรัฐบาล ที่จะต้องดำเนินการเจรจา ผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
อนึ่ง จากประเด็นดังกล่าว อาจมีผู้นำไปเชื่อมโยงเหตุผลทางการเมืองต่าง ๆ มีทั้งเรื่องจริงบ้าง เท็จบ้าง ขอให้พี่น้องประชาชนชาวเกาะกูด รวมถึงสถานประกอบการต่าง ๆ ช่วยกันตรวจสอบดูแลอย่าให้เหตุการณ์ดังกล่าวมากระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะกูด รวมถึงการ ท่องเที่ยวของเกาะกูด เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาแผ่นดินเกาะกูด ซึ่งเป็นของประเทศไทยต่อไป “ผมรักเกาะกูด......ครับ” ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี