“คนไทย 85% โดยประมาณนับถือพุทธศาสนา แล้วเอาเข้าจริงๆ หลักธรรมคำสอนในพุทธศาสนาที่เป็นแก่น ที่เป็นตัวพุทธธรรมเอง ว่ากันจริงๆ ชาวพุทธเองมีความรู้ความเข้าใจน้อยมาก แล้วก็ไปดูในแวดวงสื่อ จริงๆ ถามว่าสื่อด้านพุทธศาสนามีน้อยไหม? ไม่น้อยเลย มีมากด้วยซ้ำ เพียงแต่การจัดการความรู้ การรวบรวม การเข้าถึง ค่อนข้างที่จะไม่เป็นระบบ”
ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวในแถลงข่าวเปิดตัว “โครงการพุทธธรรมนำสื่อสร้างสันติสุข ปี 3 : สื่อ เตือน สติ”เมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา ถึงที่มาของการจัดโครงการนี้ซึ่งเดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้ว โดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีหน้าที่รณรงค์ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงไม่อาจละเลยเรื่องนี้ได้
ซึ่งต้องบอกว่า หลักธรรมคำสอนในศาสนาพุทธ สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันโดยไม่จำเป็นต้องไปวัด ไม่ต้องแต่งตัวนุ่งขาวห่มขาวสำรวมกาย วาจา ใจ
ซึ่งนั่นเป็นอีกขั้นหนึ่ง แต่เบื้องต้นขอให้มี “สติ” ให้รู้ว่าแต่ละวันมีเรื่องอะไรเข้ามาทำให้สุขหรือทุกข์ใจบ้าง เช่น ขับรถบนท้องถนน เห็นคนขับรถเร็วปาดหน้า ตั้งสติเพียงนิดแทนที่จะรีบด่าทอออกไป ลองคิดว่าเขาอาจจะมีธุระด่วนจำเป็นจริงๆ จะเห็นว่าการมีสติสามารถช่วยดูแลการใช้ชีวิตของเราได้
ขณะเดียวกัน เมื่อมองความเป็นไปของสื่อ ก็พบว่า “ยังมีสื่อที่ไม่ทำหน้าที่เป็นสื่อ” เช่น สร้างดราม่าอารมณ์ร่วม ใช้ถ้อยคำปลุกเร้าความเกลียดชัง (Hate Speech) มีการรังแกระราน (Bully) ไปจนถึงการระบาดของข่าวปลอม (Fake News) แทนที่จะทำให้จิตใจเบิกบานกลับหดหู่ เป็นที่มาของการใช้คำว่า “สื่อ เตือน สติ”ในงานของปีนี้ เพราะต้องยอมรับว่าสื่อที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงภัยทางออนไลน์มีอยู่มากและจำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อก็ไม่เคยลดลง โดยหวังว่า การทำหน้าที่ของสื่อ นอกจากเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพแล้ว อยากให้นำหลักธรรมทางพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ด้วย
“เราเชื่อว่าเป็นโอสถทิพย์ในยุค AI (ปัญญาประดิษฐ์) ในยุคที่คนเติบโตมาในยุคที่รู้สึกว่าไม่รู้จะจับอะไร ไม่มีราก เราเห็นคนซึมเศร้า โรคซึมเศร้าเป็นทุกข์ชนิดหนึ่ง ทุกข์ที่หาแก่นสารอะไรไม่เจอ ไม่รู้จะยึดกับอะไร วิ่งหาสิ่งที่ไปยึดบางทีมันก็ยิ่งวิ่งไปหามันก็ยิ่งหนี เดินก็ยิ่งไกล โบราณเขาบอกว่ายิ่งว่ายน้ำก็ยิ่งลึกแทนที่จะขึ้นฝั่ง อย่างนี้เป็นต้น จริงๆ ธรรมะช่วยได้หมด” ผจก.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าว
สำหรับการจัดงานโครงการพุทธธรรมนำสื่อสร้างสันติสุข ปี 3 สื่อ เตือน สติ แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.นิทรรศการออนไลน์ สำหรับผู้ไม่สะดวกมาร่วมกิจกรรมในสถานที่จริง กับ 2.กิจกรรม ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ระหว่างวันที่13-14 ธ.ค. 2567 เวลา 10.00-20.00 น.ภายในงานประกอบด้วยนิทรรศการแบบผสมผสาน ฟังการเสวนาธรรมแบบไม่น่าเบื่อคลินิกสุขาใจรับปรึกษาปัญหาด้วยกระบวนการเชิงจิตวิทยาแนวพุทธ มีมุมมองจากคนทำสื่อด้านธรรมะที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานและการนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากนั้น ยังขอเชิญชวนน้องๆ เด็กและเยาวชน นักเรียน-นักศึกษา อายุไม่เกิน25 ปี ทำคลิปวีดีโอหัวข้อ “หนูได้ธรรม” เนื้อหาว่าด้วยหลักธรรมทางพุทธศาสนาในชีวิตประจำวัน ความยาวไม่เกิน 90 วินาทีส่งประกวดเพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 90,000 บาท ซึ่งเริ่มเปิดให้ส่งผลงานกันแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2567 โดยสามารถส่งได้จนถึงเวลา 16.00 น. ของวันที่20 พ.ย. 2567 และจะประกาศผลรางวัลในช่วงการจัดงาน ณ วัดอรุณฯ
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.thaimediafund.or.th หรือติดตามข้อมูลข่าวสารและสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี