ปปส.จับ3ผู้ต้องหา
ขนกัญชาออกนอก
น้ำหนัก89กิโลกรัม
ใช้ไทยเป็นทางผ่าน
ป.ป.ส.จับมือกรมศุลฯ ตำรวจ บช.ปส.และนปส.สุวรรณภูมิ สกัดกั้นการลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน จับกุม 3 ผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ยึดของกลางกัญชากว่า 89 กิโลฯ เตรียมส่งต่อไปยังประเทศอิตาลี-อังกฤษ โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน
เมื่อวันที่ 3พฤศจิกายน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงผลปฏิบัติการเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กรมศุลกากร และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์เกี่ยวกับการเดินทางของชาวต่างชาติที่ต้องสงสัย ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่านในการลำเลียงกัญชาเพื่อส่งไปยังปลายทางประเทศในแถบยุโรป โดยการเฝ้าระวังติดตามพบว่าเครือข่ายดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศไทย ในวันที่ 1-2พฤศจิกายน2567 ผ่านประเทศสิงคโปร์เพื่อไปยังประเทศอิตาลี และประเทศอังกฤษ จึงมอบหมายให้นายปฤณเมฆานันท์ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.ประสานงานกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลกากร เข้าปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อสกัดกั้นลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งออกไปยังประเทศที่3 (ประเทศอิตาลี, อังกฤษ) โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติรวม 3 คน ยึดกัญชา ของกลาง ได้รวม89 กิโลกรัม
ทั้งนี้ มีรายละเอียดการจับกุม 2 คดี ดังนี้วันที่ 1พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลกากร จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติสิงคโปร์ 1 คน พร้อมของกลาง ช่อดอกกัญชา 19 กิโลกรัมซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระ ขณะที่เตรียมเดินทางไปประเทศสิงคโปร์เพื่อเปลี่ยนเครื่องไปประเทศอิตาลี โดยแจ้งข้อหา“พยายามนำออกซึ่งพืชสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่มีใบอนุญาต และไม่สำแดงสิ่งของตามกฎหมายศุลกากร
ต่อมาวันที่ 2พฤศจิกายน2567 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลกากร ได้ปฏิบัติการตรวจค้นเพิ่มเติม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติมาเลเซีย 2 คน ที่มีกำหนดการเดินทางจาก กทม.ไปยังสิงคโปร์ ก่อนเปลี่ยนเครื่องไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากการตรวจค้นสัมภาระ พบกัญชาซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระรวม 4 ใบ น้ำหนักรวม 70 กิโลกรัมจึงยึดไว้เป็นของกลางเพื่อดำเนินคดี
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ความสำเร็จในการปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานในการสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติงานในท่าอากาศยานที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของเส้นทางการขนส่งยาเสพติดข้ามชาติ ที่มักใช้เส้นทางผ่านประเทศไทยเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่3 จึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดที่มีแนวโน้มจะใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่าน และขอความร่วมมือประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลที่นำไปสู่การป้องกันปัญหายาเสพติด โดยหากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน ป.ป.ส.โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี