ฟัน18บอสเพิ่ม2ข้อหา
ผิดแชร์ลูกโซ่-ขายตรง
‘ทนายดิไอคอน’ดิ้นสู้
พา20พยานพบดีเอสไอ
ดีเอสไอถกพนักงานสอบสวนคดีดิไอคอน ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์จะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ 18 บอสดิไอคอนไม่กังวลปมทนายบอสพอลจะฟ้อง ม.157 หากตัดพยานที่ระบุว่ามีกว่า 2.4 พันคนออก ขณะที่ทนายบอสพอลนำ 20 ตัวแทนขายสินค้าเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อยืนยันมีสินค้าขายจริง เผยมีอีก 2.4 พันคนในบัญชี เล็งถกเจ้าหน้าที่เดินสายรับฟังพยานอีก 15,000 คนทั่วประเทศ บิ๊กเต่ายันตรวจพบเส้นเงินบอสพอลหลักแสน เชื่อมถึงแม่นักการเมือง ส.จริง
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.)กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคลิปเสียงเทวดาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ที่ปรากฏเทวดาอักษรย่อ ส.ว่า สืบสวนหาข้อมูลและพบแล้วว่ามีเส้นที่ไปถึงจริง แต่เป็นเส้นเงินระหว่างนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล กับแม่ของนักการเมือง ส. แต่การจะดำเนินคดีต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากบอสพอลว่า ตัวบอสพอลจะดำเนินคดีหรือไม่ โดยเส้นเงินที่ตรวจพบมีการโอนเงินจริงอยู่ที่ 7-8 แสนบาท ไม่ถึง 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คลิปเสียงเทวดาจะเอาผิดได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้เสียหายจะร้องทุกข์ ซึ่งภายในสัปดาห์นี้จะจัดพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำบอสพอลเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่าคลิปเสียงเทวดาดังกล่าวจะเชื่อมโยงไปถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติเผยว่า ตรงนี้เป็นเรื่องที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กุพยานขึ้นมาพาดพิงทำให้หน่วยงานต่างๆเสียหาย เบื้องต้นทางทนายบอสพอลได้แจ้งเอาผิด ข้อหาหมิ่นประมาททั้งตัวนายเอกภพและพยานเท็จ ไปบ้างแล้ว รวมถึงตัวนายเอกภพเองจะถูกดำเนินคดีเพิ่มข้อหาตามพ.ร.บ.คอมฯอีกด้วย ตอนนี้ต้องรอการให้ปากคำจากฝั่งผู้แจ้งความให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะให้คณะกรรมการพิจารณาต่อว่าจะออกหมายเรียกให้เอก สายไหมต้องรอดเข้ามาให้ปากคำเมื่อไหร่
ส่วนกรณีบอสพอลพูดเองว่ามีเทวดาในสคบ.นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติยืนยันว่า จากการพูดคุยทราบว่า เป็นการที่บอสพอลสอนลูกน้องว่าทุกสถานที่หรือหน่วยงานต่างๆจะมีเทวดาดูแล ดังนั้น เวลาไปหน่วยงานไหนให้ไปผูกมิตร มีของขวัญไปฝากเทวดาผู้นั้น เพื่อให้การประสานงานสะดวกคล่องตัว แต่ประเด็นเรื่องการเรียกรับเงินนั้นบอสพอล ไม่ได้พูดอะไร
อีกด้านหนึ่งเวลา 13.00 น. ที่ด้านหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีพยานบุคคล 20 ราย จากทั้งหมด 2,000 ราย เป็นพยานในส่วนของทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทวรกุล หรือบอสพอล ซึ่งเป็นตัวแทนขาย เพื่อเข้าให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสอบสวนคดีดิไอคอน โดยมีร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูลฯ เป็นผู้แทนรับมอบหมายจาก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ มารับเรื่อง
โดยนายวิฑูรย์ ทนายความบอสพอลเปิดเผยว่า ได้นำพยานกลุ่มแรก 20 คนในฝั่งของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ปม เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จากพยานที่ยืนยันแล้วมีประมาณกว่าพันคน แต่มีในรายชื่ออยู่ที่ 2,400 คน โดยพยานเป็นกลุ่มที่ร่วมทำธุรกิจและยังดำเนินการได้ตามปกติ เพื่อยืนยันว่าบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ประกอบธุรกิจจริง มีสินค้าจริง นอกจากกลุ่มนี้ยังมีพยานที่เป็นกลุ่มโรงงานที่ผลิตสินค้า ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการลงทุนและกฎหมาย โดยอยู่ระหว่างประสานงาน และคาดว่าจะเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนได้ภายในเดือนพฤศจิกายน
นายวิฑูรย์กล่าวยืนยันว่า มั่นใจในข้อเท็จจริงว่าพยานจะให้การตามความจริง รวมทั้งจะหารือกับดีเอสไอว่าสามารถสอบสวนได้วันละกี่คน และกระจายไปต่างจังหวัดได้หรือไม่ เพื่อเดินสายพบปะตัวแทนในการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นประมาณ 15,000 คน หวังว่าดีเอสไอจะฟังความเห็นทางฝั่งนี้บ้าง เพราะเป็นพยานที่ทำธุรกิจจริง
“เชื่อว่าดีเอสไอจะต้องรับฟัง เพราะงานจะหนักในช่วงสอบสวน เพื่อที่ชั้นอัยการและชั้นศาลจะได้ง่ายลง หากดีเอสไอตัดพยานเหลือเพียง 50 คน ผมจะไปร้องขอความเป็นธรรมก่อน และถ้ายังนิ่งเฉย ผมจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 157 สุดท้ายคดีก็จะไม่ไปไหน และอัยการก็จะตีสำนวนกลับอยู่ดี ซึ่งเราต้องใช้สิทธิ์พยานทุกปากในฝั่งจำเลย เพราะมีหมื่นกว่าคนก็ไม่เคยมาให้การ ก็อาจวุ่นวาย และสร้างภาระให้อัยการและศาล จึงมองว่าควรให้จบในชั้นสอบสวนเลย และเชื่อว่าดีเอสไอจะใจกว้างมากพอจะสอบเพิ่มเติม”นายวิฑูรย์กล่าว และว่า ส่วนความกังวลว่าจะเป็นการจำกัดอิสรภาพของกลุ่มผู้ต้องหานานขึ้นหรือไม่นั้น ฝั่งตนเองเสียหายและยังต้องขังอยู่ แต่การสู้คดีเราเสียหายตอนนี้จะสบายระยะยาว ดีกว่าสบายในวันนี้ และในชั้นศาลมีปัญหา ทั้งนี้ ดีเอสไอควรจะรับฟังพยานหลักฐานของฝั่งเราบ้าง
ผู้สื่อข่าวสอบถามพยานที่เดินทางมา ส่วนใหญ่บอกตรงกันว่า เข้ามาลงทุนกับดิไอคอนตั้งแต่ปีแรกๆ เริ่มซื้อสินค้าคอลลาเจนมาใช้ และจึงเริ่มขายด้วย เปิดบิลราคา 50,000 บาท ขณะนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายระดับวิสดอม ส่วนตัวขายสินค้าได้ แต่ไม่ขอบอกตัวเลขที่ชัดเจน และมีจำนวนสมาชิกในสายเกินร้อยคน โดยมีทั้งลูกค้าซื้อไปก่อนแล้วจ่ายทีหลัง หรือฝากสินค้าไว้กับบริษัทแล้วค่อยเบิกมาขาย ยืนยันว่าไม่ได้จัดฉากในการเข้าให้ข้อมูล โดยขอโทษลูกค้า เพราะไม่มีเจตนาจะให้เกิดเหตุการณ์นี้ แต่เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งลูกค้าบางส่วนไม่มั่นใจในการกินผลิตภัณฑ์ต่อไป ส่วนที่บริษัทจัดโปรโมชันประจำเดือนไปต่างประเทศ ส่วนตัวเคยได้ไปหลายประเทศ ล่าสุดปารีส ฝรั่งเศส
เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก นำโดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ หารือสาระสำคัญในคดี ก่อนมีมติในที่ประชุมว่าจะแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ แก่บุคคลใดบ้าง
หลังประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแถลงว่า หลังคณะพนักงานสอบสวนประชุมร่วมกันแล้วมีมติเอกฉันท์ จะแจ้งข้อหาผู้ต้องหา 18 รายคือ บอส 18 คน และนิติบุคคล 1 รายคือ บริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน หรือข้อหาแชร์ลูกโซ่ และความผิดตามพ.ร.บ.ขายตรง โดยจะไปแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้ต่อเนื่องสัปดาห์หน้า เพราะความพร้อมของทนายความผู้ต้องหาแต่ละคนไม่เท่ากัน และพิจารณาตั้งศูนย์ประกอบกำลังคดีนี้ให้เกิดประสิทธิภาพ มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐอื่นมาสอบปากคำ และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆดูงบดุล บัญชี และตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวต่อว่า การแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่นั้น สืบเนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจสอบสวนกลางที่ทำสำนวนมา และสอบพยานเพิ่มเติม พบหลักฐานตามสมควรผู้ต้องหา เข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน ส่วนรายละเอียดแต่ละบุคคลไม่สามารถเปิดเผยได้เป็นเรื่องในสำนวน
ส่วนกรณีบอสดาราที่ไม่มีส่วนในโครงสร้างบริษัท ทำไมถึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ พ.ต.ต.ยุทธนาชี้แจงว่า ทุกคนอาจมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่การพิจารณา แต่ละคนแบ่งหน้าที่กัน แต่ทุกคนมีจุดประสงค์เดียวกัน จึงเข้าความผิดองค์ประกอบแชร์ลูกโซ่ โดยสคบ.ยืนยันว่าเป็นการกระทำความผิดในเรื่องขายตรง เมื่อผิดแล้วการกระทำเข้าองค์ประกอบมาตรา 4 ที่ไม่สามารถประกอบการประกอบธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย และชั้นนี้มีพยานหลักฐานตามสมควร ส่วนรายละเอียดต้องรอการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้ เป็นสิทธิตามกฎหมายที่จะให้การ จะแก้ข้อกล่าวหายังไงก็ได้ ดีเอสไอจะพยายามดำเนินการให้ทันในระยะเวลาควบคุม
ส่วนผู้ต้องหาลอตสอง พ.ต.ต.ยุทธยากล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และอยากแจ้งข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาชุดแรกให้เสร็จก่อน เพื่อให้ทันระยะเวลาควบคุมตัว ส่วนข้อหาฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้ง 18 รายและบริษัทดิไอคอนว่ามีการจำหน่ายจ่ายโอนไปที่ไหนบ้าง ต้องพิจารณาเป็นรายกรรม ดูรายละเอียดเส้นทางการเงินก่อน อาจต้องใช้ระยะเวลา ส่วนกรณีที่พบเส้นทางการเงินบอสพอลโอนให้แม่นักการเมืองนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน อาจเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำด้วย
พ.ต.ต.ยุทธนายังกล่าวถึงกรณีทนายความบอสพอลและดิไอคอนพาพยานมาให้ปากคำ 20 คนวันนี้ว่า ได้แจ้งทนายความให้ทำบัญชีมาแล้ว เพราะเป็นการแก้ข้อกล่าวหา หรือพยานฝ่ายผู้ต้องหา เมื่อทำบัญชีมาแล้วจึงจะนัดพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำ ส่วนกรณีทนายบอสพอลอ้างมีพยานมากกว่า 2,400 คน และอาจมากถึงหลักหมื่นคนนั้น ก็คงต้องพิจารณาก่อนว่าเป็นพยานฝ่ายผู้ต้องหาหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ามีประเด็นที่เราได้ข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด ถ้าสอบทั้งหมดคงเกินระยะเวลาควบคุม อาจเกิดความเสียหายต่อคดีได้ และไม่กังวลกรณีทนายความบอสพอลระบุจะฟ้องมาตรา 157ถ้าตัดพยานออก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี