เหนือ-อีสานหนาว
ภาคใต้ฝนตกหนัก
‘ปากน้ำ’จราจรวุ่น
เหตุน้ำทะเลหนุน
กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ-อีสาน อากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-2 องศาฯต่ำสุด 18 องศาฯ ส่วนยอดดอยอินทนนนท์ วัดได้ 7 องศาฯ นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยสัมผัสอากาศหนาว ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนตกหนัก ด้าน จ.สมทรปราการ น้ำทะเลหนุน ทำการจราจรโกลาหล ส่วน ศปช.แจ้งเตือนเฟคนิวส์ ย้ำแม่สาย น้ำไม่ท่วมซ้ำ
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกทำให้มีฝนฟ้าคะนองตามแนวชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง
สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางและมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตามแนวร่องมรสุม ขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่ฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ส่วน กทม.และปริมณฑล มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ที่ จ.เชียงใหม่ วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้าอากาศเริ่มหนาวเย็น โดยเฉพาะที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง อุณหภูมิลดลง ซึ่งยอดดอยและกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิต่ำสุด วัดได้ 7 องศาฯ และที่ทำการอุทยานฯ วัดได้ 13 องศาฯ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้ทยอยเดินทางมาสัมผัสอากาศหนาว ยอดนักท่องเที่ยวสะสม 4,088 คน มีรถที่ขึ้นไป 1,302 คัน
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ แจ้งว่าแม้จะยังไม่มีประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ แต่ระยะนี้บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่มาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า กลางสัปดาห์ มีฝนตกร้อยละ 30 ของพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง
ส่วนที่ จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดน้ำทะเลหนุนสูงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.พระสมุทรเจดีย์ ถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุลจอมเกล้า และถนนประชาสามัคคี-ประชาอุทิศ 90 ซึ่งบางจุดน้ำท่วมสูง 50-80 เซนติเมตร ส่งผลให้การจราจรเคลื่อนตัวได้อย่างยากลำบาก นักเรียน-นักศึกษา และประชาชนที่ต้องเดินทาง ต่างต้องประสบปัญหาในการสัญจรไปยังจุดหมายปลายทาง
สำหรับถนนสาย 303 ถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุลฯ ซึ่งเป็นถนน 2 ช่องทางจราจร ตั้งแต่สามแยกพระสมุทรเจดีย์จนถึงปากทางเข้าหมู่บ้านปิยพัฒนา มีปริมาณน้ำท่วมจนมิดผิวถนน เป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร บางจุดมีน้ำท่วมสูง 80-90 เซนติเมตร ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง บางคันต้องหนีน้ำท่วม โดยหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เนื่องจากเกรงว่ารถจะได้รับความเสียหาย ขณะที่จักรยานยนต์บางคันได้ขับขี่ฝ่าสายน้ำไปอย่างทุลักทุเล บางคันเครื่องยนต์ดับ ต้องเข็นไปให้พ้นบริเวณน้ำท่วม หรือจอดทิ้งไว้ แล้วอาศัยรถที่ยกสูงในการเดินทาง
นายปัญญา มีชัย หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาล ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า พื้นที่ ต.แหลมฟ้าผ่า เป็นจุดแรกที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน ก่อนหน้านี้ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าน้ำทะเลยังหนุนสูงอีก 1-2 วันจากนี้ จากนั้นในวันที่ 17-20 พฤศจิกายนนี้ จะมีน้ำทะเลหนุนอีกครั้ง จึงขอให้ประชาชนเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) กล่าวว่า ตามที่มีข่าวลือว่ากระแสลมตะวันตกจะทำให้เกิดฝนตก บริเวณต้นน้ำและอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซ้ำอีกระลอก นั้น ยืนยันไม่หนักถึงขั้นทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำแน่นอน สำหรับพายุโซนร้อน ‘หยินซิ่ง’ คาดว่าในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ จะมีทิศทางเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบน ไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่ภาคใต้ยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิด น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มได้
ทั้งนี้ ในส่วนของการเดินทางขึ้นล่องเส้นทางภาคใต้ช่วงฝนตก ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พร้อมติดตั้งป้ายเตือน เพื่อความปลอดภัย ส่วนการบริหารจัดการน้ำของ ศปช.ในพื้นที่ภาคกลาง กรมชลประทาน รายงานว่าได้ปรับลดการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ลงเหลือ 1,051 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที คาดว่าภายใน 3 วัน จะปรับการระบายน้ำเข้าสู่ภาวะปกติ หรือต่ำกว่า 700 ลบ.ม./วินาที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี