ผศ.ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง ผู้อำนวยการหลักสูตร “WELLNESS & HEALTHCARE BUSINESS OPPORTUNITY PROGRAM FOR EXECUTIV (WHB)” กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย)จำกัด, ภาควิชานโยบายด้านสุขภาพของโลก บัณฑิตวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท ไทยพัฒนาสุขภาพ จำกัด โดย International Wellness & Healthcare Academy ได้ร่วมมือกันจัดการเรียนหลักสูตร WHB รุ่นที่ 5 เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจรของประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านบริการสุขภาพและการแพทย์ของโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพูนเครือข่ายพันธมิตรระหว่างผู้ประกอบการ นักธุรกิจด้านสุขภาพและอุตสาหกรรมการแพทย์ และผู้บริหารระดับสูงจากคณะวิชาด้านการแพทย์หรือด้านสุขภาพหรือธุรกิจบริการ หรือผู้ที่สนใจธุรกิจด้านสุขภาพ และอุตสาหกรรมการแพทย์ในอนาคต อีกทั้งมุ่งเสริมความรู้เกี่ยวกับเทรนด์ ความก้าวหน้า โอกาสและการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับเวลเนสและเฮลแคร์ขณะเดียวกันมุ่งเสริมสร้างให้เกิดการขยายเครือข่ายพันธมิตร เพื่อผสานความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ต่อยอดธุรกิจเดิมหรือพัฒนาธุรกิจใหม่ด้านเวลเนสและเฮลท์แคร์
นพ.กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อำนวยการกองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพของโลกผ่านการดำเนินการตามนโยบายของนพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่มีกลยุทธ์ 3 สร้าง ดังนี้ 1.สร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายบริการทั้งในและต่างประเทศ 2.สร้างความเชื่อมั่น ด้วยนวัตกรรม งานวิจัย ประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาสมุนไพรในกลุ่มอาการที่พบบ่อย และ 3.สร้างมาตรฐานและยกระดับบริการทางการแพทย์ และสถานประกอบการด้านสุขภาพให้เป็นที่ยอมรับ โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การเข้าร่วมเป็นองค์กรภาคีจัดการเรียนหลักสูตรในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและผู้ประกอบการด้านสุขภาพและด้านการแพทย์ ส่งเสริมผู้ประกอบการภาคเอกชน ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นจุดหมายด้านเวลเนสและเฮลท์แคร์ที่มุ่งสู่ระดับโลกต่อไป
นายสันติพงษ์ วงค์ทะเนตร ผู้อำนวยการกองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการส่งเสริมพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสุขภาพและความงามของไทยให้เข้มแข็งและแข่งขันได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การเข้าสู่สังคมสูงวัย และเทรนด์การดูแลสุขภาพควบคู่กับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้นการเข้าร่วมเป็นองค์กรภาคีจัดการเรียนหลักสูตร WHB จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและผู้ประกอบการด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หัวเหว่ยพร้อมช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร โดยร่วมดำเนินการมาตั้งแต่รุ่นที่ 1 จนถึงปัจจุบันด้วยการสนับสนุนเรื่องการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลและระบบอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เพื่อสร้างนวัตกรรมการบริการสำหรับผลักดันการบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ของประเทศไทยให้เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเชิงไอซีที โดยเทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่าย 5G จะเข้ามาช่วยให้เกิดการบริการทางการแพทย์และบริการสุขภาพในรูปแบบดิจิทัล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสถานพยาบาลต่างๆ ทำให้งานด้านการส่งข้อมูลการดูแลผู้ป่วย การเก็บข้อมูลวิเคราะห์ และการสั่งงานจากระยะไกลสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ศ.นพ.มาซาฮิริ ฮาชิซึเมะ ประธานภาควิชานโยบายด้านสุขภาพของโลก มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ภาควิชาฯได้ร่วมมือกับองค์กรภาคีในประเทศไทย จัดหลักสูตร WHB ตั้งแต่รุ่นที่ 1 เป็นต้นมา โดยตนและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยโตเกียวจะเดินทางมาที่ประเทศไทย เพื่อบรรยายเรื่องเวลเนส และมาตรการในการลดผลกระทบของมลภาวะและสิ่งแวดล้อม ที่ได้ดำเนินการในประเทศญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ ซึ่งประเทศไทยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ นอกจากนั้น เมื่อเสร็จสิ้นการเรียนในประเทศไทยแล้ว เรายังได้จัดให้มีการศึกษาดูงานเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ และการบริหารจัดการสถานดูแลและที่พักอาศัยของผู้สูงอายุที่เป็นต้นแบบของการดูแลผู้สูงวัยของโลกในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สมอาจ วงษ์ขมทอง ประธานหลักสูตรฯ และประธานบริษัท ไทยพัฒนาสุขภาพ จำกัด กล่าวว่า หลักสูตร WHB รุ่นที่ 5 มุ่งผลลัพธ์ เพื่อให้เกิดการรังสรรค์ธุรกิจใหม่ด้านเวลเนสที่ทันสมัยหรือด้านเฮลแคร์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเกิดขึ้นจริงระหว่างการเรียนและหลังจบหลักสูตร โดยมี 5 ชุดความรู้ที่สำคัญ ประกอบด้วยชุดที่ 1 เรื่อง Medical Hub เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาลของไทยในระดับนานาชาติ ชุดที่ 2 เรื่อง Wellness ที่ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดของธุรกิจเวลเนสในปี 2567 ไม่น่าจะต่ำกว่า1.5 ล้านล้านบาท และจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงขึ้น ชุดที่ 3เรื่องธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ ปัจจุบันประชากรไทย 1 ใน 5 คนเป็นผู้สูงอายุ ดังนั้นธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุจะขยายตัวอย่างมากชุดที่ 4 เรื่อง Healthtech และ Wellnesstech การประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีและ AI ในบริการสุขภาพและการรักษาพยาบาลจะมีความก้าวหน้าและแพร่หลายขึ้นมาก และชุดที่ 5 เรื่องธุรกิจในอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ซึ่งเป็น New S Curve Business ของอุตสาหกรรมการแพทย์ในวิถีใหม่ นอกจากการบรรยายโดยวิทยากรแนวหน้าจากภาครัฐและเอกชน แล้วยังมีการศึกษาดูงานธุรกิจชั้นนำของโลกทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นผู้บริหารระดับสูง (ระดับ 9 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า) ผู้ประกอบการ และผู้สนใจสมัครเรียนได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 5 ธ.ค. 2567 โดยกรอกใบสมัครออนไลน์ได้ที่ https://whb.info/whb/application/ ค่าธรรมเนียมการเรียน 229,000 บาท โดยเริ่มเรียนในวันที่ 24 ม.ค.-30 พ.ค.2568 ที่โรงแรมอนันตา สยาม กรุงเทพฯ ถนนราชดำริ สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ประสานงานหลักสูตร WHB โทร. 06-59494741, 087-3325640, 098-7991499
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี