หนุ่มบางบัวทองโวยเทศบาลเมืองบางบัวทอง นนทบุรี ขอใช้ไฟติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 วันค่าไฟพุ่งผ่าน 2 เดือนไร้การช่วยเหลือ
วันที่ 5 พ.ย.67 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายณัทพล อายุ 49 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่กับนายพิน อายุ 87 ปี และนางวารี อายุ 81 ปี ว่าที่บ้านน้ำท่วมขัง สาเหตุเกิดจากฝนตกอย่างต่อเนื่องทุกวัน จึงประสานเทศบาลเมืองบางบัวทองให้นำเครื่องสูบน้ำระบบดีเซลมาติดตั้งให้เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ปรากฏว่าทางเทศบาลฯได้นำเครื่องสูบน้ำระบบไฟฟ้ามาติดตั้งให้สูบน้ำไปได้เพียง 4 วันค่าไฟที่บ้านพุ่งขึ้นกว่า 2,000 บาท แต่น้ำก็ยังไม่ลดลง จึงให้เทศบาลมาถอดเครื่องสูบน้ำระบบไฟฟ้าออกไปและทำเรื่องขออนุเคราะห์ค่าไฟฟ้าจากเทศบาล ผ่านไปเกือบ 2 เดือนไร้การเยียวยาจากเทศบาลฯวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่าหน่วยงานป้องกันสาธารณภัยของเทศบาลเมืองบางบัวทองได้นำเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าสูบน้ำ จากที่ตกลงกันเป็นเครื่องสูบน้ำดีเซลและได้มีการต่อไฟฟ้าจากบ้านของผู้เสียหายทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 3,000 บาท โดยผู้ร้องได้ไปเขียนคำร้องขอความอนุเคราะห์ค่าไฟที่เทศบาลแล้วแต่เอกสารก็ถูกตีกลับ ติดต่อนายกฯ รองนายกฯ ปลัดเทศบาล ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตอนนี้น้ำยังท่วมขังอยู่บริเวณพื้นที่สูงประมาณ 50 เซนติเมตร เทศบาลก็ไม่มาแก้ไขให้ชาวบ้าน และเอาภาระค่าไฟมาเพิ่มให้ด้วย เรื่องนี้ต้องฟังทางเทศบาลด้วย ถ้าเรื่องยังไม่มีความคืบหน้า ตนก็จะพาผู้เสียหายไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป
นายอธิวัฒน์ กล่าวอีกว่า บิลค่าไฟเดือนสิงหาคมก่อนที่จะนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งประมาณ 1,500 บาทแต่ก็ไม่เกิน 2,000 บาทจนกระทั่งเดือนกันยายน ค่าไฟพุ่งขึ้นเป็น 3,197 บาท จำนวน 662 หน่วย ถ้าดูย้อนหลังไป 6 เดือนจะอยู่ที่ประมาณ 300 หน่วยต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งเดือนกันยายน เป็นเดือนที่นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง จึงทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นไปอีกครึ่งนึง พอถึงเดือนตุลาคม ค่าไฟก็กลับมาเป็นปกติประมาณ 1,500-2,000 บาท
นายณัทพล ยาดี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ทางเทศบาลได้นำเครื่องสูบน้ำไฟฟ้ามาติดตั้งเมื่อเดือนกันยายน หลังจากติดตั้งได้ประมาณ 4 วัน เห็นว่ามิเตอร์ค่าไฟเพิ่มขึ้น เพราะตนจดมิเตอร์ไฟในวันที่มาติดตั้ง เมื่อค่าไฟเริ่มสูงขึ้นจึงให้เทศบาลยุติการใช้ไฟฟ้าและให้เทศบาลนำเครื่องสูบน้ำกลับไป เพราะคิดว่าคงจะจ่ายค่าไฟไม่ไหว ที่ผ่านมาบ้านของตนเองน้ำท่วมเนื่องตากฝนตกอย่างต่อเนื่อง ไปขอความช่วยเหลือจากเทศบาลแต่เหมือนเทศบาลจะมาซ้ำเติมครอบครัวของตนอีก
เมื่อก่อนที่ดินตรงนี้เป็นคลอง ซึ่งบ้านตนอยู่ติดกับคลองอยู่หลังโรงเรียนไมตรีอุทิศ ทะลุไปคลองพระพิมลราชา แต่คลองได้ถูกปิดไปแล้วเพราะเจ้าของที่ได้ขายที่ไปแล้วและก็มีการถมดิน แต่ไม่ทำท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำท่วมขังด้านใน ทุกวันนี้จะเดินไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านไปประมาณ 20 เมตรก็ลำบาก เพราะต้องใช้สะพานไม้หน้า 4 นิ้วมาวางข้ามเพื่อเดินข้ามน้ำที่ท่วมขัง ถ้าพ่อของตนที่อายุ 87 ปี เดินตกลงไปคงไม่มีใครเห็นเพราะมีแหนเต็มไปหมด อาจจะทำให้เกิดเรื่องสลดได้
น.ส.พรทิพย์ สมรักษ์ นิติกรชำนาญการ กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลเมืองบางบัวทอง กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ทราบว่างานป้องกันฯเข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าซึ่งเจ้าของบ้านเป็นพ่อของนายณัทพล ได้อนุญาตแล้ว ไม่ใช่ว่าเราทำได้ครอบจักรวาล เรามีอำนาจตามกฎหมายที่ให้ไว้เท่านั้นเอง อย่างเรื่องบางเรื่องเรารู้ว่าเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่ทางเทศบาลมีข้อจำกัดในเรื่องของกฎหมาย ส่วนค่าไฟฟ้าที่เขาขอบรรเทามา เทศบาลอยู่ระหว่างหารือในการแก้ไขปัญหาคาดว่าอีกำม่นานจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ส่วนเรื่องที่การไฟฟ้านครหลวงจะมาตัดไฟฟ้าหรือไม่นั้นทางเทศบาลไม่ทราบ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี