"เจ๊อ้อย"ยิ้มแป้นหลังสอบปากคำวันที่ 4 นานกว่า 11 ชั่วโมง ยกสองนิ้วสู้สู้ ยันไม่กังวลหลังทนายคนดังออกมาแถลงข่าว ขณะที่ทนายยอมรับเงิน 39 ล้านมีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์จริงๆ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคดีอย่างไรยังเปิดเผยไม่ได้ พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
5 พ.ย.67 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ "เจ๊อ้อย" พร้อมด้วย นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ. สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่แจ้งความเอาผิด "ทนายตั้ม" หลอกลวงเงิน เป็นวันที่ 4 (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'เจ๊อ้อย'ให้ปากคำตร.วันที่ 4 ลงรายละเอียดเพื่อคดีรัดกุม ยันไม่เคยให้โดยเสน่หา)
จนกระทั่งเวลา 20.45 น. หลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ๊อ้อยเดินลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า ไม่รู้สึกกังวลที่ทนายตั้มมาเปิดตัวแถลงข่าวในวันนี้ และไม่มีผลใดๆ กับตนเองทั้งสิ้น และยังไม่ได้ฟังการสัมภาษณ์อย่างละเอียด เพราะอยู่ระหว่างการสอบปากคำตลอดทั้งวัน ส่วนประเด็นอื่นๆ ไม่ขอพูดถึงและขอให้ทนายความเป็นผู้ให้ข้อมูล ก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษและเดินถอยออกจากวงสัมภาษณ์ขึ้นรถตู้ไป
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามในระหว่างที่เจ๊อ้อยอยู่บนรถตู้ว่ายังสู้หรือไม่ เจ้าตัวก็มีรอยยิ้ม และยกมือ 2 นิ้วตามที่ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยังสู้ให้ยกนิ้วขึ้นเจ้าตัวก็เพียงแต่ยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้มเท่านั้น
ด้านนายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความเจ๊อ้อย กล่าวถึงกรณีที่ทนายตั้ม อ้างว่าเงินจำนวน 39 ล้านบาท ให้กับแก๊งสแกมเมอร์ว่า ยอมรับว่ามีกรณีของสแกมเมอร์จริงๆ และมีการโอนเงินยอดดังกล่าวให้กับบัญชีของผู้หญิงชื่อขึ้นต้นด้วย ส. ซึ่งกรณีดังกล่าวมีความเกี่ยวโยงกันคือมีผู้เสียหายคนเดียวกัน ส่วนจะเชื่อมโยงกับคดีอีกคดีหนึ่งยังไงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ทนายตั้ม'โผล่กองปราบ! แจง 39 ล้าน'พี่อ้อย'ถูกสแกมเมอร์หลอก)
ส่วนกรณีเรื่องสัญญาว่าจ้างที่ทนายตั้มอ้างว่าเป็นสัญญาจ้าง และเกิดขึ้นจากความเอ็นดูหรือเป็นลูกรักนั้น ทนายสมชาติ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องมองแยกกัน เพราะในสัญญาระบุว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย ไม่ได้ว่าจ้างให้ทำหน้าที่ในการบริหารหรืออย่างอื่น และเรื่องผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่สามารถนำมารวมกันในสัญญาว่าจ้างได้ ทั้งนี้ให้ดูที่สัญญาว่าจ้างว่าได้ระบุไว้อย่างไร ทนายความยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก
ทั้งนี้การดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวมีการดำเนินคดีใน 2 ส่วนคือความผิดที่เกิดขึ้นกับตัวของเจ๊อ้อย ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการให้ปากคำไปทั้งหมดแล้ว แต่ความผิดในเรื่องดังกล่าวยังมีความผิดต่อรัฐที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถแจ้งความเอาผิดได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ความผิดต่อรัฐเป็นข้อหาเกี่ยวกับอะไร ทนายความยกตัวอย่างว่าอาทิเช่นเรื่องภาษี นอกจากนี้ เจ๊อ้อย ได้ยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับทนายตั้มให้ถึงที่สุด ส่วนการให้ปากคำวันนี้โดยส่วนตัวเชื่อว่าครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะต้องเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นสีหน้าของเจ๊อ้อย ค่อนข้างยิ้มแย้มกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา โดยทนายความ กล่าวว่า น่าจะเกิดจากความสบายใจที่ให้ข้อมูลต่างๆไปครบถ้วนทั้งหมดแล้ว และสิ่งที่ทนายตั้มให้สัมภาษณ์ในวันนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับตัวของลูกความ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี