เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว 1.นายนิกิ อายุ 45 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5034/2567 ลงวันที่ 17 ต.ค. 67 ข้อหา“รวมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น” 2.นายโทมิกิ อายุ 26 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5036/2567 ลงวันที่ 17 ต.ค. 67 ข้อหา “รวมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น”จับกุมตัวได้ที่ บ้านเคียงน้ำ รีสอร์ท ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท และ สน.โชคชัย ว่าได้ถูกขบวนการเถื่อน 3 คน ร่วมกันอุ้มพาไปเข้าเซฟเฮ้าส์ลับ ก่อนรีดเงิน 300,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้นทำวีซ่าที่ด่านปอยเปต ซึ่งทางผู้เสียหายมีเงินไม่พอ จ่ายเงินไปให้กับกลุ่มคนร้ายไปได้เพียง 135,000 บาท กลุ่มผู้ต้องหายังไม่พอใจได้พาตัวผู้เสียหายไปบริเวณทุ่งหญ้าทำทีข่มขู่จะฆ่าหมกป่า ก่อนจะพาตัวไปกักขังไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.เกษตรนวมินทร์ ลงมือซ้อมผู้เสียหาย “ตลอดคืน” ก่อนบังคับให้ผู้เสียหายกินอุจาระเพื่อรีดเงินเพิ่ม โชคเข้าข้างที่ผู้เสียหายอาศัยจังหวะที่กลุ่มผู้ต้องหาเผลอติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้แจ้งความที่ สน.โชคชัย และ สน.พญาไท (เหตุต่อเนื่อง) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คือ 1.นายนิกิ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี สัญชาติญี่ปุ่น , 2.นายโทมิกิ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สัญชาติญี่ปุ่น และ 3.นายเปา (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 35 ปี สัญชาติไทย และยังสืบทราบพฤติกรรมโฉดของกลุ่มคนร้ายอีกว่าเคยก่อเหตุสาวหมัดคู่กรณีบนโรงพัก ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ต่อมา นายเปา ผู้ต้องหาชาวไทยได้ถูกจับกุมตัวในเวลาต่อมา แต่ทว่าผู้ร่วมขบวนการชาวญี่ปุ่นอีก 2 รายยังคงลอยนวล
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำทีมชุดสืบนครบาลลงพื้นที่ติดตามไล่ล่า โดยสืบทราบว่า นายนิกิฯ มักมีพฤติกรรมชอบเสพกัญชาเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะกัญชาสูตร “3king” กล่าวคือเป็นการผสมกัญชาตัวท็อป 3 ชนิด และได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่น 2 หลบหนีไปกบดานตามรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี จึงได้นำกำลังลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยคราแรกเจ้าหน้าที่หาไม่พบ แต่ทว่าได้กลิ่นกัญชาเตะจมูกชุดสืบสวนมาแต่ไกล จึงได้ตามรอยกลิ่นไปกระทั่งพบห้องต้องสงสัย 2 ห้องติดกัน ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบก็จึงพบคนร้ายทั้ง 2 คน จึงสามารถควบคุมตัวไว้ได้ จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์การเสพกัญชา และเงินสดของนายนิกิฯ จำนวน 130,000 บาท จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และจากการขยายผลในชั้นจับกุมพบว่า นายนิกิฯ มีความสนิทสนมกับนายเปา (ผู้ร่วมก่อเหตุชาวไทย) มีการให้เงินกับนายเปาไปแล้วหลายร้อยล้านบาท
ในชั้นจับกุม นายนิกิฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น และยืนยันว่าไม่ได้บังคับให้ผู้เสียหายกินอุจจาระ และไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายด้วย ที่หลบหนีเพราะทนาย สั่งให้ตนหลบหนี ตนยอมรับว่าชอบประเทศไทยมากเพราะตอนที่ตนเองอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเคยถูกจับเรื่องกัญชามาแล้วกว่า 4 ครั้ง จึงหอบเงิน 1 พันล้านเยนมาที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทยเพราะอยากเสพกัญชา และคนไทยน่ารัก ปัจจุบันตนทำธุรกิจกัญชา และธุรกิจขนส่งข้ามประเทศ โดยตนได้รู้จักกับนายเปาจากร้านกัญชาแห่งหนึ่ง แล้วตัดสินใจร่วมลงทุนต่างๆตามคำแนะนำของนายเปา ซึ่งรวมแล้วได้ให้เงินนายเปาไปทั้งหมด 135 ล้านบาท จนตอนนี้เริ่มจะบางอ้อแล้วว่าน่าจะถูกนายเปาหลอกสูบเลือดสูบเนื้อตน ปัจจุบันนายเปาก็เข้าไปอยู่อาศัยในบ้านของตนเองละแวกนวลจันทร์ ส่วนตนเองก็หลบหนีคดีไปอยู่ตามรีสอร์ทในพื้นที่ต่างจังหวัด”
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการพฤติการณ์ก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายถือว่า อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งการขยายผลเราได้ข้อมูลว่าคนร้ายชาวญี่ปุ่น 2 รายนี้มาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยแล้วประกอบอาชีพขายกัญชา และยังทำธุรกิจการขนส่งไปยังประเทศต่างแดน และมีเงินหมุนเวียนในขบวนการหลายร้อยล้านบาท ทำให้ต้องตั้งข้อสังเกตไปถึงธุรกิจที่ผิดกฎหมาย หลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด และขอประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยว พี่น้องประชาชน ผู้ใดเคยถูกกลุ่มผู้ต้องหารายนี้กระทำ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี