'หมอสงค์ บูรณ์พงศ์'เริ่มเคลื่อนไหว พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม เปิดใจเหตุหันหลังให้เพื่อไทย ลาขาดทั้งที่ยังรักเพราะอกหักซ้ำสอง ขอเปิดสงครามครั้งสุดท้าย
ที่สำนักงานนายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ โรงแรมปลาวาฬ ถนนอดุลยทาน เขตเทศบาลเมืองนครพนม ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (นายก อบจ.นครพนม) เปิดโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายในการหาเสียงสู้ศึกเลือกตั้ง อบจ.นครพนม 2568 ที่ผู้บริหารชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่จะถึงนี้
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง ส.อบจ. และ นายก อบจ.ทั่วประเทศ โดยจะประกาศวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 23 - 27 ธันวาคม 2567 และกำหนดวันเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ การเสนอวันเลือกตั้งและวันรับสมัครรับเลือกตั้ง เป็นอำนาจของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ อบจ. โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กกต.ฯ) เพื่อประกาศให้มีการเลือกตั้งต่อไป
เจ้าของสโลแกน “หมอสงค์หมอคนยาก หมอผู้สร้าง” เปิดเผยว่านโยบายสำคัญที่ใช้ในการหาเสียง คือ รวบรวมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ (รพ.สต.) เข้ามาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ อบจ.นครพนม เพื่อยกระดับให้ รพ.สต. มีทั้งแพทย์ พยาบาลอยู่ประจำ รวมถึงด้านทันตกรรม โดยจะเปิดโอกาสลูกหลานที่เรียนจบด้านการพยาบาล มาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่ง อบจ.ฯ จะดูแลตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่การเริ่มต้นคงจะไม่ครบทุกตำบล ก็ต้องค่อยๆทำไปเรื่อยๆ เพราะต้องวางนโยบายและงบประมาณ
ต่อข้อซักถามว่ามีว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม ครบ 30 เขตหรือไม่ หมอสงค์ ยืนยันมีครบนานแล้ว โดยรวบรวมผู้มีอุดมการณ์จากกลุ่มสีส้ม สีแดงมาเป็นพันธมิตร ไม่มีแต่สีน้ำเงิน โดยตนเองก็ลงสมัครในนามอิสระ ไม่มีพรรคการเมืองหนุน พร้อมเดินหน้าทำงานให้ประชาชนเต็มที่
นอกจากนี้ หมอสงค์ได้เปิดใจ ในข้อสงสัยถึงสาเหตุที่หันหลังให้พรรคเพื่อไทย โดยแยกตัวออกมาเป็นอิสระหลังผ่านการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุด ซึ่งหมอสงค์ถึงกับยกนิ้วโป้งให้นักข่าว ที่ตั้งคำถามนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ตนอยากจะพูดมานานแล้ว โดยเท้าความไปเมื่อครั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และถูกยุบในเวลาต่อมา จากนั้นสมาชิกพรรคก็แตกออกไป หนึ่งในนั้นก็มีครูแก้ว - นายศุภชัย โพธิ์สุ รวมอยู่ด้วย ยอมรับว่าเป็นวิถีทางการเมืองที่ต้องหาพรรคใหม่สังกัด
"ยอมรับว่าผมรักพรรเพื่อไทยจริงๆ แต่ตำแหน่งเขาเต็มนะ เริ่มต้นทุกวันพุธจะมีการทานข้าวกันที่ทำการพรรคเพื่อไทย ก็ได้พูดคุยเรื่องการเลือกตั้ง สส.นครพนม 2562 ปรากฏว่านาแก เขต 4 มันว่าง พายัพ ปั้นเกตุ เสนอผมลง ผมดีใจได้เป็น สส.แล้ว อีก 2 เดือนต่อมาคุณหญิงท่านเอาชวลิตลง ผมเลยไม่ลงไม่ได้เป็น ผมเลยลาออกไปอยู่กับท่านเสรี ได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อจนครบวาระ 4 ปี แต่ผมยังรักพรรคเพื่อไทย ก็ลาออกจากพวรรคเสรีรวมไทย กลับมาอยู่เพื่อไทย แต่ผู้สมัครเต็มทั้ง 4 เขตลงไม่ได้ เอาไปอยู่บัญชีรายชื่อ ก็หลุดจาก 100 คนอีก เลยสงสัยทำไมเราไม่ได้ ก็ปรากฏว่าเขากลัวผมไปเป็นประธานสภา เพราะผมไม่มีข้อบกพร่องอะไร เขากลัวผมไปแย่งตำแหน่งเท่านั้นเอง ก็เลยกลับเนื้อกลับใจมาลง อบจ.นครพนมดีกว่า นี่กราบเรียนตรงๆนะ ยืนยันผมไม่ได้เกลียดพรรคนะ แต่ผมรักพรรค ว่ากันตรงๆคือถูกกันไม่ให้ลง ตอนนี้ไม่สังกัดพรรคใด จึงมาลงนายก อบจ.ฯ พรรคคือพี่น้องประชาชนเท่านั้นเอง”
ทั้งนี้ สส.นครพนม เขต 4 ประกอบด้วย อ.นาแก อ.วังยาง อ.ปลาปาก และ อ.เมืองนครพนม(เฉพาะตำบลวังตามัว ตำบลกุรุคุ และตำบลบ้านผึ้ง) การเลือกตั้ง สส.ทั่วประเทศ ปี 2557 ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยว่างลง เกิดจากกรณีที่นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และอดีต สส.นครพนม เขต 4 รวม 7 สมัย ขอสละสิทธิ์เพื่อไปหาเสียงช่วยพรรคเพื่อคนไทย ที่มี ดร.วิทยา อินาลา เป็นหัวหน้าพรรค และ นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ น้องชายนายคันคายเป็นเลขานุการพรรค หมอสงค์จึงเสนอตัวอาสาลงเขต 4 แต่ถูกลบชื่อออกในนาทีสุดท้าย จึงลาออกไปอยู่พรรคเสรีรวมไทย และได้เป็น สส.ปาร์ตี้ลิส แต่ยังมีความผูกพันกับพรรคเพื่อไทย เมื่อครบวาระ 4 ปี ก็ลาออกมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง แต่ต้องอกหักซ้ำสองถูกเขี่ยออกนอกวงโคจร จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ขอกลับไปซบพรรคอันเป็นที่รักอีกต่อไป
ซึ่งเวที อบจ.นครพนม 2568 อาจจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของหมอคนยาก หมอผู้สร้าง นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต รมต.และ สส.นครพนม 14 สมัย ถ้าชนะก็ไปต่อ ถ้าแพ้ก็เก็บฉาก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี