รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม.
กทม.แจงย้ายที่สร้างศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงฯ จากสามพรานมาหนองจอก เหตุติดปัญหาผังเมือง-EIA ที่ใหม่งบลดลงใช้พื้นที่ร่วมบางกอก อารีน่า-ศูนย์เรียนรู้มหานครได้ เริ่มสร้างปี’68
วันที่ 7 พ.ย. 2567 รศ.ทวิดา กมลเวชช นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวชี้แจงเปลี่ยนพื้นที่สร้างศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัย จากสามพรานเป็นหนองจอก มี นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ นายธวัชชัยนภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ร่วมแถลง ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)
รศ.ทวิดา กล่าวว่า เดิมตามงบประมาณ เป็นโครงการสร้างศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัยสามพราน อยู่นอกพื้นที่กรุงเทพฯ มีการสร้างสถานีฝึกกู้ภัย อาคารอบรม อาคารที่พัก รองรับการฝึกทุกรูปแบบตั้งแต่ 1 สัปดาห์ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน มีสถานีฝึกหลายลักษณะ เช่น สถานีฝึก พื้นฐาน ชั้นสูง อาคารสูง และสารเคมี โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น ระยะที่ 1 (สถานีฝึกกู้ภัย) และ ระยะ 2 (อาคารฝึกอบรมและอาคารที่พัก) พื้นที่ก่อสร้าง 57 ไร่ 3 งานที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม
เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนพื้นที่จากสามพรานมาเป็นหนองจอกคือ 1.ตามผังเมืองรวม เป็นที่ดินประเภท ก.1 ....และ ย.1 .... ซึ่งหากดำเนินโครงการต่อ จำเป็นต้องสร้างอาคารฝึกอบรมและอาคารหอพักขนาดใหญ่ เพื่อรองรับผู้ฝึกอบรมจำนวนมาก ตามรูปแบบที่มีการศึกษาไว้แล้วจะรับผู้เข้ามาได้ 36,000 ต่อปี ก็จะไม่สอดคล้องกับผังเมือง แต่ถ้าลดขนาดอาคารลงก็จะไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์รูปแบบกิจกรรมและประโยชน์ใช้สอย 2.แบบการก่อสร้างมีสถานีฝึก 18 สถานี อาคารอบรมขนาดใหญ่ และอาคารที่พัก (มากกว่า 100 ห้อง) ซึ่งต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
“เราได้เดินทางไปดูโครงการที่สามพราน พบว่าผังเมืองยังไม่ถูกเปลี่ยนและการศึกษาทำรายงาน EIA ยังไม่มีความแน่ชัดในการศึกษาเลย หากเราจะฝึนด้วยการปรับแบบ ก็จะไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์โครงการฯที่ศึกษาไว้ เราไม่ได้ตั้งใจจะดึงให้ล่าช้าแต่อย่างใดโครงการฯนี้ทำต่อจะใช้เงิน 3,000 กว่าล้านถ้าทำก็ต้องขอทบทวนให้ถ่องแท้ก่อนว่าเราสามารถดำเนินการได้จริง ไม่ไปขัดกับกฎหมายผังเมืองหรือ EIA และต้องเป็นประโยชน์กับกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งได้ทบทวนอย่างละเอียดแล้วว่า ต้องมีศูนย์ฝึกดับเพลิงฯ เพราะเป็นประโยชน์สูงสุดจริงๆ กับทุกคน จึงเปลี่ยนแปลงสถานที่เพื่อให้การสร้างได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพ” รองผู้ว่าฯทวิดา กล่าว
สถานที่ก่อสร้างใหม่ที่หนองจอกพื้นที่ 78 ไร่ 2 งาน อยู่ในผังเมืองสีน้ำเงิน สามารถก่อสร้างได้ตามวัตถุประสงค์โครงการฯ ปัจจุบันเป็นศูนย์การเรียนรู้มหานคร หนองจอก มีอาคารที่พักอาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถใช้ร่วมกันได้รวมถึงพื้นที่ของบางกอก อารีน่า ที่อยู่ติดกันก็สามารถใช้งานในการฝึกได้ด้วย และด้วยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครที่ไปฝึกอบรม สามารถไป-กลับได้เมื่อถูกเรียกกำลังพล การก่อสร้างจะทำได้เร็ว ปัจจุบันโครงการฯอยู่ในงบประมาณปี 2568 โดยได้ปรับแบบจากรายงานการศึกษาเดิมตั้งแต่ปี 2558 คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ไตรมาส 2-3 ของปี 2568 ในส่วนการก่อสร้างที่หนองจอก สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) จะโอนงบประมาณให้สำนักการโยธา (สนย.) ดำเนินการ โดย สนย.ได้ปรับแบบเสร็จแล้วและเตรียมเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้ปี 2568 โดยจะสร้างสถานีฝึกกู้ภัยมีฐานฝึกแต่ละประเภท, อาคารฝึกอบรม ประกอบด้วยอาคารเรียน อาคารปฏิบัติการ และอาคารหอพักเพิ่มบางส่วน งบประมาณจะลดลงจากเดิมที่สามพรานคือ 3,400 ล้านบาท ที่หนองจากจะลดลงใช้งบฯ น้อยกว่า
“การสร้างศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับบุคลากรของเราเอง เพราะงานการกู้ภัยและดับเพลิงทุกชนิดต้องอาศัยการมีศูนย์ฝึกที่ได้มาตรฐาน การปฏิบัติภารกิจที่เราเคยไปช่วยที่ตุรกี หรือจังหวัดอื่น เช่นเรื่องเหตุอุโมงค์ทรุด ต้องใช้เจ้าหน้าที่ทักษะขั้นสูงและมีความชำนาญมาก กรุงเทพมหานครมีความต้องการศูนย์ฝึกดับเพลิงฯ มาตั้งแต่ก่อนเราเข้ามาแล้ว และนโยบายของผู้ว่าฯชัชชาติ ก็มีความประสงค์ให้มีศูนย์ฝึกดับเพลิงฯ ด้วยเหตุผลว่ามีประโยชน์ไม่เฉพาะแค่กับบุคลากรของเรา แต่ยังเป็นศูนย์การฝึกอาสาสมัครฯมูลนิธิเครือข่าย หรือฝึกกู้ชีพกู้ภัย จะเกิดประโยชน์กับประชาชนของกรุงเทพฯ”รองผู้ว่าฯ ทวิดากล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี