'ทนายตั้ม-เมีย'ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันัว คืนนี้ทั้งผัวทั้งเมียต้องนอนห้องขังกองปราบฯ รอส่งฝากขังศาลอาญาพรุ่งนี้

7 พ.ย.67 ความคืบหน้ากรณีตำรวจ บก.ป. นำกำลังจับกุมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.2567 ข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน รวมถึงจับกุมนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.2567 ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ก่อนนำตัวสาสอบปากคำที่กองปราบปราม พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ( อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'บิ๊กอ้อ'เผยเบื้องหลังรวบ'ทนายตั้ม-เมีย'มีพฤติการณ์หลบหนีออกนอกประเทศ จ่ออายัดบัญชี)

ต่อมาเวลา 15.00.น. ภายหลังจากตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัวทนายตั้มพร้อมภรรยาเข้ามาดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปราม  พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก.พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน กก.3  บก.ป. ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้งสองได้รับทราบ รวม 4 ข้อหา ตามหมายจับศาลอาญา คดีฉ้อโกง , ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน ส่วนนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ในข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน ก่อนเริ่มสอบสอบปากคำทั้งคู่ โดยนำตัวแยกห้องสอบสวนทันที

ต่อมาหลังการสอบปากคำผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง มีรายงานว่า ทนายตั้มและภรรยาให้การปฎิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนจะไม่อนุญาติให้ประกันตัว เนื่องจากในหมายจับ ระบุ มีหลักฐานตามสมควรว่า ได้หรือน่าจะทำความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงเกิน 3 ปี, ได้หรือน่าจะกระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น หลังจากนี้เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่างจะต้องนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคุมขังไว้ที่กองปราบปราบ คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (8พ.ย.) พนักงานสอบสวนถึงจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปฝากขังต่อศาลอาญารัชดาฯต่อไป