ดีเอสไอ พร้อมเข้าแจ้งข้อหา 18 บอสดิไอคอน ในเรือนจำ วันจันทร์ที่ 11พฤศจิกายน เพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ“แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ” โดยจัดชุดพนักงานสอบสวน 18 ชุด แยกสอบรายบุคคล เผยทั้ง 18 คน มีสิทธิ์ยื่นพยานเอกสารเพิ่มเติมแก้ข้อกล่าวหาได้

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูลฯ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีการดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป จำกัดกับพวกว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะยังไม่เข้าไปแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ได้แก่ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 แก่ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย เนื่องจากอยู่ระหว่างกระบวนการประสานงานทางธุรการคดี ทั้งในส่วนความพร้อมทนายความผู้ต้องหา และความพร้อม ความเรียบร้อยของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ถ้าราชทัณฑ์พร้อม และจะใช้สถานที่ใดในเรือนจำฯ ดีเอสไอจะได้แจ้งทนายความของผู้ต้องหา คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาให้เสร็จ คาดใช้เวลา 1-2 วัน

ร.ต.อ.สุรวุฒิเผยอีกว่า ดีเอสไอมีแนวทางจะแบ่งชุดพนักงานสอบ สวนคดีพิเศษ ที่จะเข้าไปในเรือนจำฯ และทัณฑสถานเป็น 18 ชุดต่อผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย เพื่อแยกกันทำงานชัดเจน โดยกระบวนการที่จะเกิดขึ้นคือ แจ้งข้อเท็จจริงในคดี แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งฐานความผิด และสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งวันเดียวกันนี้ ผู้ต้องหามีสิทธิ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมชี้แจงแก้กล่าวหาทันที หรือประสงค์ขอความเป็นธรรม ขอชี้แจงด้วยพยานเอกสารเพิ่มเติมตามประเด็นที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อสงสัย หากพร้อมชี้แจงก็ชี้แจงได้ จากนั้นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะนำรายละเอียดถ้อยคำให้การของผู้ต้องหา รวมถึงพยานเอกสารที่ผู้ต้องหายื่นมานั้น นำเข้าที่ประชุมว่าถ้อยคำให้การรับฟังและเป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดีมากน้อยเพียงใด อีกทั้ง ดีเอสไอมีทีมสรุปประเด็นของผู้ต้องหา จึงทำให้วางกระบวนการทำงานได้ว่ารายไหนต้องสอบสวนประเด็นใดบ้าง ในวันเดียวกัน

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะเดินทางเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ 18 บอสดิไอคอนภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางได้ในวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน