สกัดจับหนุ่มเขมรลอบขน 11 ชาวบังคลาเทศ ลักลอบเข้าไทยผ่านช่องธรรมชาติ เผยเสียเงินมาคนละ 23,800 บาท

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 พ.ย.67 พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับ พ.ต.อ.ปาริชาติ บรรจงปรุ ผบ.ชค.ตชด.12(ผู้บังคับการชุดควบคุมตำรวจตะเวณชายแดนที่12) นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับ ร้อย.ฉก.ตชด.3 (กองร้อยชุดเฉพาะกิจตำรวจตะเวณชายแดนที่3) บูรณาการกำลังร่วมกับ ฉก.อรัญประเทศฯและ สภ.คลองน้ำใส ฯ ออกทำการลาดตะเวณและเฝ้าตรวจป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณชายแดน พื้นที่ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นจุดล่อแหลม ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับสูง

ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมฯได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยลักษณะคล้ายชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ เดินเท้าลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยบริเวณแนวป่าไผ่ ระหว่างจุดตรวจ จต.อ.42- จต.อ.43 บ้านทุ่งรวงทอง หมู่ที่ 7 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนท.จึงเข้าทำการปิดล้อมพร้อมทั้งนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมดเป็นชายจำนวน 12 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระ

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเป็นชายชาวกัมพูชาผู้นำพาจำนวน 1 คน และเป็นชายชาวบังคลาเทศ จำนวน 11 คน ตรวจสอบชายชาวกัมพูชาผู้นำพาชื่อนายซิม ไซฮา อายุ 29 ปี ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด ส่วนชายชาวบังคลาเทศ ทั้ง 11คน มีหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) แต่ไม่มีรอยตราประทับอนุญาตเข้าประเทศไทย แต่อย่างใด จึงร่วมกันควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการซักถามที่ บก.ร้อย ฉก.ตชด.3 บ้านเนินสมบูรณ์ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากการซักถามเบื้องต้นนายซิม ไซฮา ผู้นำพาชาวกัมพูชา อ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนชาวกัมพูชาให้นำชาวบังคลาเทศทั้ง 11 คนลักลอบข้ามแดนจากกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย แล้วจะมีรถยนต์มารอรับบริเวณชายแดน แต่ไม่ยอมบอกว่าได้ค่าจ้างเท่าไหร่ ส่วนชาวบังคลาเทศ ทั้ง 11 คน รับว่าได้เดินทางมาจากบ้านเกิดที่บังคลาเทศ ผ่านประเทศอินเดีย เข้ามาที่ประเทศเวียดนาม ผ่านประเทศกัมพูชา ต้องการผ่านเข้าไทยเพื่อจะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยได้เสียค่าเดินทางให้กับนายหน้ามาคนละ 700 ดอลล่าสหรัฐ หรือประมาณ 23,800 บาทไทย

จากนั้น จนท.จึงได้ร่วมกันแจ้งข้อหานายซิม ไซฮา ชาวกัมพูชา ”ช่วยเหลือซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พรบ.คนเข้าเมืองเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และ เป็นบุคคลต่างด้าว(กัมพูชา) เดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยมิได้ได้รับอนุญาต” และ11ชาวบังคลาเทศ  “เป็นบุคคลต่างด้าว(บังคลาเทศ) เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป