ตำรวจทางหลวงชะอำสกัดจับ"พ่อกับปู่"สองผู้ต้องหาตามหมายจับจ.สตูลได้แล้ว หลังก่อเหตุตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างริมทาง แผนการโจรกรรมมาโป๊ะเมื่อจับลูกชายได้ขณะกำลังก่อเหตุปีนเสาไฟ
วันที่ 8 พ.ย.2567 หลังตำรวจสภ.เมืองสตูล ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาคดีโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการ เป็นชุดหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างริมทางสาธารณะ เพิ่มเติมเป็นพ่อและปู่ของนายเอ (นามสมมุติ ) วัย 16 ปี ลูกชายซึ่งถูกจับตัวได้ก่อนหน้านี้ขณะกำลังปีนเสาไฟฟ้าเพื่อลงมือลักสายไฟและลวดทองแดง ที่ริมถนนสายบ้านตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล แต่โชคร้ายที่มีพลเมืองดีมาเห็นและแจ้งฝ่ายปกครอง และตำรวจสกัดจับไว้ได้พร้อมของกลางหลายรายการ
ก่อนที่จะมีการสอบสวนพบว่า มีผู้ร่วมขบวนการเป็นคนในครอบครัวที่คอยดูต้นทางให้ โดยให้บุตรชายเป็นคนลงมือก่อเหตุ จากนั้นตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับเพิ่มอีก 2 คน เป็นพ่อและปู่ โดยพ่อชื่อนายศักดิ์สิทธิ์ อายุ 38 ปี ทำหน้าที่ขับรถและให้การช่วยเหลือ ส่วนนายสมจิตร อายุ 65 ปี ปู่ ทำหน้าที่สนับสนุนและดูต้นทาง นอกจากนี้ยังมีแฟนสาวผู้ต้องหาวัย 15 ปีที่ทำหน้าที่สนับสนุนและดูต้นทางด้วย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ออกหมายจับอีก 2 แก๊งลักหม้อแปลงไฟฟ้า ผงะ!!!ที่แท้เป็น'พ่อ-ปู่'ร่วมขบวนการ)
แม้คนร้ายซึ่งเป็นพ่อและปู่ พยายามจะหลบหนีหลังบุตรชายถูกจับ แต่ก็ไม่รอดน้ำมือตำรวจ ซึ่งภายใต้การนำของ พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผบก.ภาพ.จว.สตูล พร้อมด้วยพ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฏชื่อ ผกกก.สภ.เมืองสตูล โดยได้ประสานตำรวจให้สกัดทุกเส้นทางก่อนจะได้รับแจ้งจากหน่วยบริการทางหลวงชะอำ จ.เพชรบุรีว่า พบสองพ่อและปู่ตามหมายจับสตูลขับรถยนต์กระบะที่มีความพยายามเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์กระบะ อีซูซุ (จาก บท.7079 ชลบุรี) มาเป็น บห 7079 ชลบุรี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่แต่ไม่รอด
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มีนายเอ นามสมมุติ อายุ 16 ปี และพวกรวม 4 คน ได้แก่ 1.นายศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบิดาของผู้ต้องหา 2.นายสมจิตร ซึ่งเป็นปู่ 3.น.ส.ปรียดา (สงวนนามสกุล ) อายุ 15 ปี แฟนสาวของผู้ต้องหา ได้ร่วมกันขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเมท สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กพท 244 สตูล ได้ตระเวนโจรกรรมทรัพย์ของทางราชการ เมื่อถึงถนนบ้านตันหยงโป ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล เมื่อไปถึงบริเวณเสาไฟฟ้าซึ่งมีหม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้งอยู่และเป็นเส้นทางเปลี่ยว ไม่มีบ้านเรือนผู้คน ผู้ต้องหาจึงได้นำอุปกรณ์ที่เตรียมมาเพื่อใช้ในการขึ้นไปถอดหม้อแปลงไฟฟ้า โดยศึกษาหาความรู้มาจากยูทูป
ทั้งนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ฯ เป็นผู้คอยให้การช่วยเหลือและรอรับหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่บริเวณด้านล่าง โดยมีนายสมจิตรฯ และน.ส.ปรียดาฯ คอยดูต้นทางให้หลังจากถอดหม้อแปลงไฟฟ้ามาได้แล้วก็จะนำกลับมาเพื่อถอดแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ เพื่อนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะใช้รถยนต์กะบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็ก สีเทา หมายเลขทะเบียน บท 7079 ชลบุรี ซึ่งเป็นของนายศักดิ์สิทธิ์ฯ โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ฯ เป็นผู้ขับขี่ และมีผู้ต้องหา และน.ส.ปรียดาฯ แฟนสาวร่วมทางไปด้วยทุกครั้ง เมื่อได้หม้อแปลงไฟฟ้ามาครั้งนึงก็จะนำไปทันที โดยในแต่ละครั้งจะขายได้ราคาประมาณ 8,000-10,000 บาท ต่อลูก/ต่อครั้ง
หลังจากได้เงินมาแล้วก็จะนำมาแบ่งกันและใช้จ่ายภายในครอบครัว โดยผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้ามาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง ก่อนมาถูกจับ เงินจากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าที่ขโมยมาได้ประมาณ 40,000 บาท โดยผู้ต้องหาได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหม้อแปลงไฟฟ้าทางยูทูป และดูวิธีการขึ้นไปถอดเปลี่ยนแปลง และร่วมกันสร้างอุปกรณ์ที่ใช้การลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าวเอง
พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผบก.ภาพ.จว.สตูล สั่งการให้มีการขยายผลไปที่ร้านรับซื้อของเก่าเนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายที่คนร้ายก่อเหตุหลายแสนบาท ประชาชนเดือดร้อนจากการใช้เส้นทางอุบัติเหตุ แต่เมื่อขโมยมาขายร้านของเก่ามีค่าเพียงแค่ 8,000 – 10,000 บาทเท่านั้น นับว่าไม่คุ้มกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้เส้นทางเสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุและฝากให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้เส้นทางช่วยเป็นหูเป็นตาหากพบบุคคลต้องสงสัยในการก่อเหตุโจรกรรมสามารถโทรมาแจ้งได้ที่ 191 ตลอด 24 ชม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี