ผงะ! นักค้ายาลำเลียงจัดส่งยาบ้า 1 แสนเม็ดทางบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน ต้นทางตรัง ปลายทางนราธิวาส ก่อนที่ผู้รับปลายทางจะถูกรวบได้ ชุดปราบปรามยาเสพติดตรัง ขยายผลจับเครือข่ายต้นทางตามหมายจับได้เพิ่มอีก 2 ราย พร้อมทั้งยังตรวจยึดไอซ์ได้เพิ่มอีก 9 กก. และยาบ้า 2.5 หมื่นเม็ด เตรียมลำเลียงขนส่ง ทั้งนี้จะมีการขยายผลถึงขบวนการใหญ่ต่อไป
วันนี้ (9 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดขยายผลและตรวจยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดรายสำคัญ ภ.จว.นราธิวาส ได้ทำการจับกุมนายอาซาวัน (สวนนามสกุล) หรืออาลีฟ อายุ 35 ปี และนายแวรุสลัน (สงวนนามสกุล) หรือลัง อายุ 34 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 100,000 เม็ด ซึ่งยาบ้าดังกล่าวถูกจัดส่งมาทางพัสดุ ของบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนรายหนึ่ง โดยมีต้นทางมาจาก จ.ตรัง ปลายทางยังบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จำนวน 2 กล่อง จากนั้นหัวหน้าชุดขยายผลฯ ภ.จว.นราธิวาส ได้ประสานมายัง ชุดขยายผลฯ ภ.จว.ตรัง เพื่อแจ้งข้อมูลและให้พิสูจน์ทราบสืบสวนถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องที่เป็นเครือข่ายยาเสพติดผู้ส่งพัสดุยาบ้าจำนวนดังกล่าวไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผล ภ.จว.ตรัง ได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านขนส่งพัสดุเอกชน ในพื้นที่ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เพื่อขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด และเอกสารอื่นๆ เพื่อให้ทราบตัวบุคคลที่นำส่งพัสดุ ภายในมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ และมาส่งให้ร้านขนส่งดังกล่าว พร้อมทั้งได้นำตัวพยาน 2 คน ที่สำคัญในดีนี้มาทำการ สอบปากคำและสมัครใจที่จะเปิดเผยข้อมูล ก่อนจะทราบตัวและติดตามบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนี้
ต่อมา พ.ต.ท.พีรสินธุ์ ฤทธาพิพัฒน์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ต.ศิวกรณ์ แป้นไทย สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงได้นำกำลังชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.ตรัง และชุดขยายผลฯ ลงไปตรวจสอบยัง สวนกล้วยในพื้นที่ ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งสืบทราบว่ายังคงมียาเสพติดซุกซ่อนเตรียมเคลื่อนย้ายส่งออกไปจำหน่าย ก่อนจะพบกับยาไอซ์จำนวน 9 กิโลกรัม และยาบ้า จำนวน 25,400 เม็ด ซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าภายในสวนกล้วยโดยห่อด้วยถุงดำไว้อย่างมิดชิดและป้องกันน้ำเข้า ก่อนจะตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันตัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจ ภ.จว..ตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.9 และชุดขยายผลยาเสพติดตำรวจ ภ.จว.ตรัง ร่วมกับชุดขยายผลยาเสพติดตำรวจ ภ.จว.นราธิวาส ร่วมกันจับกุมบุคคลตามหมายจับ 1.นายสรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาว ต.บางเป้า อ.กันตัง จว.ตรัง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายโดยกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน” ตามหมายจับศาล จ.นราธิวาส ที่ 980/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย.67
2.นางสาวกนกวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาว ต.บางเป้า อ.กันตัง จว.ตรัง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย โดยกระทำเพื่อการค้า และ ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน” ตามหมายจับศาล จ.นราธิวาส ที่ 981/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย. 67 จากนั้นนำตัวผู้ถูกจับทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
ทั้งคู่เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดียาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด และยาบ้าที่ตรวจพบหลักจากขยายผลต่ออีกจำนวน 25,400 เม็ด และยาไอซ์อีกจำนวน 9 กิโลกรัม ก่อนจะนำตัวทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงปาดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจะมีการขยายผลไปถึงตัวการใหญ่และคดีที่เกี่ยวข้องอีกต่อไป อย่างไรก็ตามราคายาไอซ์ในท้องตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.5 - 2 แสนบาทต่อกิโลกรัม หากหลุดไปสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าเฉพาะยาไอซ์ถึง 1,800,000 บาท - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี