ที่จ.อุดรธานี ลูกชายเทวดาโมโหขอเงินแม่ได้น้อย ขอ 300 ได้ 80 บาท โมโหทำร้ายแม่ดั้งหักหัวแตกเย็บ 10 เข็ม ต้องหนีไปนอนกระท่อมนา แจ้งความตำรวจแล้ว 17 วันยังไม่มีอะไรคืบ กลัวถูกลูกชายฆ่าตายก่อน วอนตร.ช่วยจัดการที ขณะที่เจ้าตัวเปิดใจยอมรับหน้าซื่อๆ ก็ขอเงินแม่ไม่ให้ จะเอาไปซื้อยาบ้า เพราะต้องเสพวันละ 20 เม็ด
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านรายหนึ่งที่บ้านไพจาน ต.ค้อใหญ่ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี แจ้งว่าถูกลูกชายทำร้ายร่างกายเพราะขอเงินไปซื้อยาบ้าเสพไม่ได้ดั่งใจ จากขอ 300 บาทแม่มีเงินแค่ 80 บาท ทำให้ลูกชายไม่พอใจทำร้ายแม่จนดั้งหักหัวแตกต้องเย็บถึง 10 เข็ม ต้องผวาลูกชายตลอดเวลาหากขอเงินไม่ได้ ต้องหนีไปนอนกระท่อมนาที่ปลายนา และไปแจ้งความกับ ตำรวจสภ.กู่แก้วแล้วผ่านมา 17 วัน ยังไม่มีอะไรคืบหน้าและลูกชายไม่ถูกจับดำเนินคดี กลัวว่าลูกชายจะฆ่าตายสักวันแน่
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านไพจาน ต.ค้อใหญ่ อ.กู่แก้ว พบกับนางสุพรรณ อายุ 54 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ พร้อมพาชี้จุดที่ถูกทำร้ายภายในบริเวณ และเอาคลิปวีดีโอขณะถูกทำร้ายให้นักข่าวดูเพื่อเป็นหลักฐาน โดยในคลิปจะเห็นลูกชายประเคนทั้งหมัดทั้งแข้งใส่แม่แบบไม่บั้ง เหมือนแม่ไม่ใช่คนอย่างไรอย่างนั้น พอแม่ล้มก็ไม่ยั้งทั้งเตะทั้งถีบแม่ จนชาวบ้านร้องบอกให้แม่หนี แต่คิดว่าแม่คงหนีไม่ได้ ลูกชายกุมไว้อยู่ สุดท้ายแม่ได้รับบาดเจ็บดั้งหักหัวแตกเลือดอาบ จนชาวบ้านพาไปส่งรพ.กู่แก้วให้การช่วยเหลือเย็บถึง 10 เข็ม โดยผู้ก่อเหตุคือนายเอกพล หรือเอก อายุ 32 ปี ลูกชายของนางสุพรรณ ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวไปถึงพบว่าไม่อยู่ภายในบ้าน
นางสุพรรณฯ แม่นายเอก เล่าว่า เหตุการณ์ตามคลิปเกิดขึ้นวันที่ 25 ต.ค. 67 เวลาประมาณ 11.00 น.ขณะนั้นตนกำลังนอนเล่นที่เปลหน้าร้านค้าตรงข้ามบ้านและกำลังจะหลับ ลูกชายเดินมาขอเงิน 300 บาท แต่ในตัวมีเงินแค่ 80 บาท จึงให้ไป แต่ลูกชายเกิดโมโหที่ได้เงินน้อย ทั้งเตะทั้งต่อยตนเองจนได้รับบาดเจ็บดั้งแตกหัวแตกเย็บหลายเข็ม หลังเกิดเหตุไปแจ้งความไว้ที่ สภ.กู้แก้วแล้วตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุถ่ายรูปเป็นหลักฐานผ่านไปหลายวันคดีความไม่คืบหน้าสอบถามตำรวจก็บอกให้รอก่อนและลูกชายยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
สำหรับลูกชายคนนี้เรียนจบมาก็ไม่ทำการทำงานอะไร ทุกวันตนกับญาติก็จะห่อข้าวไปให้ และวางเงินไว้ให้อีก 40 บาท วันไหนอยากได้เงินเพิ่มก็จะมาขอหากไม่ให้ก็จะอาละวาด จนไม่กล้าอยู่ด้วย หลังเกิดเหตุลูกชายก็ไม่เคยจะมาขอโทษหรือมีท่าทีจะสำนึก ความรู้สึกตนตอนนี้เจ็บปวดมาก หลังเกิดเหตุบ้านที่เคยอยู่ด้วยกันกับลูกก็ไม่สามารถมานอนได้ต้องย้ายมานอนบ้านพี่สาวซึ่งอยู่ติดกันและบางครั้งต้องหนีไปนอนกระท่อมปลายนา ตอนนี้หวาดระแวงตลอดกลัวลูกชายจะมาทำร้ายและฆ่าตาย ตอนนี้อยากให้ช่วยเหลือ หากจับลูกชายคนนี้ดำเนินคดีตามกฎหมายหากติดคุกได้ก็ขอให้ติดคุกไป
ด้าน ป้านายเอก เล่าว่า หลานคนนี้ก่อวีรกรรมหลายอย่างมากมายเป็นคนขี้โมโห ปีที่แล้วก็ขโมยข้าวไปขายจนหมดยุ้งฉาง โดยแอบเอาไปทีละกระสอบ หลังรู้ว่าหลานคนนี้ขโมยข้าวเอาไปขาย เคยสอบถามหลานว่าได้เอามาขโมยข้าวไปไหม หลานก็โมโหอาละวาดทุบคอมเพรสเซอร์แอร์พัง และทุบประตูกระจกบานเลื่อนที่บ้านจนพังมาแล้ว ตอนนี้ก็ต้องอยู่แบบระวัง เพราะบ้านเราอยู่ใกล้กัน ถ้าวันไหนสามีตนออกไปทำงานนอกบ้านหรือไปธุระ ตนกับแม่ของนายเอกก็จะล็อคบ้านอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหนซึ่งเรื่องนี้ผู้นำชุมชนรับรู้แต่ลูกบ้านอย่างเราก็ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พาผู้เสียหายเข้าพบกับ พ.ต.อ.วรพงษ์ นันทลักษณ์ ผกก.สภ.กู่แก้ว ที่ สภ.กู่แก้ว เพื่อขอคำปรึกษาและขอให้ช่วยติดตามเร่งคดีความ โดย ผกก.สภ.กู่แก้ว บอกว่า คดีดังกล่าวหลังตำรวจรับแจ้งความพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว ตอนนี้รอผลแพทย์โรงพยาบาลกู่แก้วตอบกลับมาเพื่อยืนยันว่าผู้เสียหายบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหนซึ่งเมื่อได้ผลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป เบื้องต้นตำรวจได้เชิญตัวนายเอกมาตรวจหาปัสสาวะโดยพบว่ามีสารเสพติด กรณีทำร้ายร่างกายมารดาตนยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางกลับไปหานายเอกที่บ้านอีกครั้งเพื่อดูว่านายเอกกลับมาบ้านหรือยัง ปรากฎว่าเจอนายเอกพอดี ผู้สื่อข่าวข่าวจึงสอบถามนายเอกว่าทำไมถึงไปทำร้ายแม่ แต่นายเอกตอบว่าตอบไม่ได้เรื่องนี้ตอบไม่ได้ เมื่อถามย้ำอีกว่าทำไมถึงไปตีแม่นายเอกตอบกลับมาว่าเพราะสูบยาบ้า
ผู้สื่อข่าวพยายามถามเพิ่มเติมอีกว่า สาเหตุจริงๆแล้วมันคืออะไรนายเอก นายเอกก็แจ้งกับผู้สื่อข่าวกลับมาว่า ถ้าตอบคำถามมาแล้วจะได้เงินหรือเปล่ามีค่าตัวหรือเปล่า โดยนายเอกเรียกค่าตัว 4-5 พันบาทถ้าได้จะยอมตอบคำถาม จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงพยายามต่อรองโดยบอกว่ามีเงินเพียง 40 บาท และให้ได้สูงสุด 100 บาท แต่นายเอกก็ยังยืนยันคำเดิมว่า หากเงินไม่ถึงก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ จะเอาไปซื้อยาขาดบาทหนึ่งเขาก็ไม่ให้นะ หากนักข่าวจะให้ตอบต้องไปตอบชั้นศาลแล้วกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามคะยั้นคะยอให้นายเอกตอบคำถามนายเอก ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเรื่องวันนั้นมันนานแล้วจำไม่ได้ ฝากถึงประชาชนที่ดูข่าวนี้อยู่ให้เอายาบ้ามาขายเยอะๆ เพราะราคามันถูกมากกู่แก้วเม็ดละ 30-40 บาทเอง ยาบ้านั้นก็ตำรวจนั่นแหละที่เป็นคนเอายามาถ้าตำรวจไม่เอายามาใครจะเอามา แต่ละวันนั้นตนก็จะสูบยาบ้า 20 เม็ดต่อวัน
ผู้สื่อข่าวถามนายเอกต่อว่า เคยขโมยข้าวของป้าในยุ้งฉางไปขายไหม นายเอกยอมรับสารภาพกับผู้สื่อข่าวว่าใช่ตนเป็นคนขโมยข้าวในยุ้งข้าวของป้าไปขายเองโดยเอาไปขายได้เงินมาก็เอาไปซื้อยาบ้าสูบ ตอนนี้อยากให้ช่วยมากเพราะว่าอยากเจอหลวงพ่อเจริญที่อำเภอหนองวัวซอ อยากให้ท่านมาช่วยไล่ผีที่สิงในตัวออกไป ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า อยากจะขอโทษแม่ไหมแต่นายเอกก็บอกว่ามันสายไปเสียแล้ว เวลามันผ่านมานานแล้ว ตนสำนึกว่าตนทำผิดทำร้ายแม่ หากแม่ฟังข่าวนี้อยู่หรือเห็นตนก็ไม่อยากบอกอะไรดูท่าจะพูดวกไปวนมาเพราะเสพยาบ้าวันละ 20 เม็ดแท้ๆ จากคนดีกลายเป็นคนป่วยทำร้ายแม่ไปเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี