เลขาฯกฤษฎีกาแนะ
ที่ดิน-รฟท.รีบเคลียร์
ปมร้อน‘เขากระโดง’
ย้ำต้องยึดคำพิพากษา
“กรมที่ดิน”ยืนยันผลการรังวัดที่ดิน “เขากระโดง” ยึดกฎหมาย ตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอดคล้องคำพิพากษาศาลปกครอง อธิบดีที่ดินลั่นทำตามกฎหมาย-คำสั่งศาล หลัง ‘สุริยะ’ สั่งรฟท. ยื่นค้านเพิกถอนสิทธิ‘อนุทิน’ขออย่าเอาการเมืองโยงหวั่นทำให้ยุ่ง ยันทั้ง‘กรมที่ดิน-รฟท.’ต่างทำหน้าที่ตัวเอง ลั่นไม่มีแทรกแซงระบบ ท้าตรวจสอบดูได้ทางด้าน เลขาฯกฤษฎีกาแนะจับเข่าคุยสางปัญหาเหตุขัดแย้งมาจากการเรื่องสื่อสาร ระบุตามหลักการต้องยึดตามคำพิพากษา
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน กรมที่ดินชี้แจงผลการรังวัดที่ดินเขากระโดง ยืนยันดำเนินการครบถ้วนถูกต้อง ตามคำพิพากษาศาลปกครอง และร่วมตรวจสอบแนวเขตที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามกฎหมายทุกขั้นตอน ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยให้การรถไฟฯ (ผู้ฟ้องคดี) ร่วมกับคณะกรรมการสอบสวนฯ ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟฯกรมที่ดินได้มีคำสั่งที่ 1195 - 1196/2566 ลงวันที่ 12พ.ค.2566 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เป็นการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง
โดยคณะกรรมการสอบสวนฯ ตาม ม.61 ได้กำหนดกรอบแนวทางในการรังวัดเพื่อตรวจสอบหาแนวทางเขตที่ดินของทางรถไฟแห่งประเทศไทยบริเวณเขากระโดง ในการประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2567 โดยที่ประชุมได้ข้อยุติว่าการดำเนินการรังวัดทำแผนที่ดังกล่าว กรมที่ดินต้องถือปฏิบัติตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการรับคำขอรังวัด การรังวัดและการเรียกค่าใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ.2567 ซึ่งในการนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการยื่นคำขอรังวัดทำแผนที่บริเวณเขากระโดง จังหวังหวัดบุรีรัมย์ กับสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และจะส่งข้อมูลค่าพิกัดกรอบพื้นที่บริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ให้คณะกรรมการสอบสวนภายในกรอบระยะเวลาต่อไป
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่าจะให้การรถไฟไทย (รฟท.) ยื่นคัดค้านกรณีที่กรมที่ดินไม่เพิกถอนสิทธิที่ดินเขากระโดง ว่า ทุกอย่างดำเนินการไปตามที่ศาลปกครองสั่งและในเรื่องการเพิกถอน ต้องมีคณะกรรมการดำเนินการเพิกถอนตามมาตรา 61 โดยที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว และได้ดำเนิน การรังวัดตามกระบวนการขั้นตอนเรียบร้อยหมดทุกอย่าง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีข้อโต้เถียงที่ดินเขากระโดง จะทำให้เกิดความระหองระแหงภายในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่า ไม่น่าจะมีปัญหา ทุกเรื่องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใครต้องว่ากันตามกฎหมาย ต้องดูรายละเอียดก่อนเพราะเรายังไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด ถ้าในข้อเท็จจริงและกฎหมายเป็นอย่างไร ต้องดำเนินการไปตามนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรที่กฎหมายกำหนดได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จะทำเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง ขอย้ำอีกครั้งว่าเรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เป็นคดีความระหว่างกรมที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวมถึงผู้ครอบครองที่ดิน ไม่ใช่ประเด็นการเมืองถ้าเอาการเมืองมายุ่งแบบนี้จะยุ่งแล้ว จึงเห็นว่าฝ่ายการเมืองต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว ไม่มีข้อสั่งการ และไม่มีความจำเป็นที่ฝ่ายราชการต้องมารายงานรัฐมนตรีเป็นประจำ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอน
เมื่อถามว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม ได้สั่งให้ รฟท.โต้แย้งคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน นายอนุทินกล่าวว่า ที่ทำมาทุกวันนี้ก็ทำตามคำสั่งศาลปกครอง และทำมาก่อนรัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาด้วย และที่ตนตอบเรื่องนี้ไม่ได้เต็มที่เพราะไม่ได้เข้าไปสอบถามรายละเอียด เพราะถ้าเข้าไปถามก็เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ารัฐมนตรีเข้าไปกดดัน
“บอกว่าผมพูดไม่ตรงกับนายสุริยะ ซึ่งนายสุริยะนั้นพูดถูกต้องทุกอย่าง เหมือนไปเกาะกูดเมื่อวานก็บอกว่าตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้ ท่านสุริยะก็บอกตารางวาเดียวก็เสียไม่ได้ เพราะท่านอยู่ฝั่งการรถไฟฯ ท่านสั่งอย่างอื่นไม่ได้ ในส่วนของผมอำนาจทุกอย่างจบที่กรมที่ดิน เพราะดูแลเรื่องนี้อยู่ ถามว่าจะไปสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ทำสิ่งที่ผิดใครจะไปทำ เพราะท่านเหลืออายุราชการ 1-2 ปี ท่านไมทำหรอก คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งไม่สมเหตุสมผล ผมเคยพูดแก่ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยตลอดว่าไม่ต้องทำตาม” นายอนุทินกล่าวและยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง ทุกคนทำตามหน้าที่ เพราะถ้าเกี่ยวข้องการเมือง ตนต้องรู้เรื่อง ต้องลงไปสั่ง ต้องขอให้เขาทำนู่นทำนี่ แต่ไปเช็กดูได้ว่าไม่มี
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงคำพิพากษาศาลปกครองให้เพิกถอนที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แต่อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งไม่เพิกถอน ว่า โดยหลักแล้วเมื่อศาลมีคำพิพากษาก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกรมที่ดินในเรื่องนี้นั้น มองว่าเป็นปัญหาเรื่องการสื่อสาร หากลำดับเรื่องดีๆ หน่วยงานมาร่วมกันชี้แจง ตนคิดว่าจะตรงกันได้ และไม่ใช่เรื่องว่าคิดพิพากษาของศาลหรือคำสั่งอธิบดีใครใหญ่กว่าใคร ตนเห็นว่าไม่ควรพูดกันคนละที น่าจะตั้งโต๊ะร่วมกันและพูดกันเสียทีเดียว จะได้เข้าใจว่าเดิมที่มาที่ไปนั้นเป็นอย่างไร
“โดยหลักการต้องยึดตามคำพิพากษาของศาลปกครอง ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกัน แต่กระบวนการและขั้นตอนยังไม่ตกลงกันให้ชัดเจน ไม่ได้มานั่งจับเข่าคุยกัน ผมคิดว่าถ้ามาจับเข่าคุยกันคงไม่เป็นปัญหามากนัก ย้ำว่าหากมีการพูดคุยกัน คงไม่จบลงที่การฟ้องร้อง เพราะที่หลวงก็คือที่หลวง ที่เอกชนก็คือที่เอกชน แค่นั้นเอง แก้ปัญหาสมมุติว่าเป็นที่หลวงแล้วให้เอกชนไปอยู่ เราจะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร เช่น ให้เขาเช่าในราคาถูก อย่างนี้เราก็ทำกันเป็นปกติในกรณีที่ราชพัสดุ อย่างกรณีที่อยู่มานานจนคิดว่าเป็นที่ของตัวเอง พอพิสูจน์สิทธิ์กันได้ว่าเป็นของใครก็ทำตามกติกา ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอก แค่คุยกันคนละทีสองที” นายปกรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี