วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 จากกรณี คนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างท้วม สวมเสื้อคลุมสีดำ ใส่รองเท้าแตะหูหนึบ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ห้างทอง แห่งหนึ่ง ในซอยข้างวัดเกตุมดีศรีวราราม ม. 6 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยทรัพย์ที่ได้เป็นสร้อยคอทองคำเส้นละ 2 บาท จำนวน 2 เส้น ซึ่งโจรรายนี้ ได้ ทิ้งรองเท้าไว้ให้ดูต่างหน้าแล้วหลบหนีไป
ล่าสุด พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รองผู้บังคับการ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม ผกก.สภ.บางโทรัด นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บางโทรัด ได้ร่วมกันนำตัวผู้ก่อเหตุคือ นายสมลักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ จากนั้นนายสมลักษ์ ผู้ต้องหา ได้ยกมือไหว้ขอโทษพนักงานหญิงในร้าน ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้พาตัวขึ้นรถกลับไปดำเนินคดี ส่วนเรื่องการถอดรองเท้าไว้ให้ดูต่างหน้านั้นก็เพราะทางร้านมีป้ายให้ถอดรองเท้าก่อนเข้าร้าน ตนก็ปฏิบัติตามป้ายบอกของทางร้าน
พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล เปิดเผยภายหลังทำแผนฯ ว่า ก่อนก่อเหตุ ผู้ต้องหารายงานนี้ เดินทางมาเยี่ยมแม่ในพื้นที่ต.บางโทรัด ประกอบกับความต้องการที่จะหาเงินไปหมั้นสาวที่ต่างจังหวัด จึงลงมือก่อเหตุชิงทองเป็นสร้อยคอทองคำ 2 เส้น หนักเส้นละ 2 บาท รวมมูลค่า 171,600 บาท โดยหลังจากคนร้ายก่อเหตุชิงทองแล้ว ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปในเส้นทางรถไฟซึ่งเป็นชุมชนและมีตรอกซอกซอยให้หลบหนีหลายทิศทาง จากนั้นได้จอดรถ จยย.ทิ้งไว้ แล้วขึ้นรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองมหาชัย เพื่อนำสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าย่านตัวเมืองมหาชัย ได้เงินมา 162,000 บาท
เสร็จแล้วก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปยังสถานีหมอชิต เพื่อขึ้นรถทัวร์โดยสารไปลงยังสถานีขนส่งจังหวัดแพร่ ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบเส้นทางการหลบหนี กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ได้มีการประสานกับ สภ.วชิรบารมี สกัดจับไว้ได้บริเวณสี่แยกปลวกสูง ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ขณะที่ผลการตรวจค้นตัวพบ เงินสดจำนวน 160,000 บาท เป็นเงินที่ได้จากการขายทองที่ทำการวิ่งราวทรัพย์มา ,เสื้อคลุมสีดำ 1 ตัว ที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุร้องเท้าผ้าใบยี่ห้อไนกี้สีขาว 1 คู่,กระเป๋าสะพาย 1 ใบ,กางเกงวอร์ม สีเทา 1 ตัว และตั๋วโดยสารรถประจำทาง กรุงเทพฯ-แม่สาย จำนวน 1 ใบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายสมลักษ์ จันทองแท้ ผู้ต้องหา ไปดำเนินคดีในความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มทำทีเป็นลูกค้า ก่อนชิงทอง 4 บาท ทิ้งรองเท้าแตะหูหนึบไว้ให้ดูต่างหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี