กทม. กำหนดใช้ระบบ BMA HRMS ลงเวลาปฏิบัติราชการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ภายใน มี.ค. 2568 / แจงแนวทางตรวจสอบการทำงานล่วงเวลาเคร่งครัด
นางสาวอรัญญา พรไชยะ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ก.ก.) กล่าวถึงแนวทางและรูปแบบการรายงานผลการลงเวลาปฏิบัติราชการของหน่วยงาน กทม. จากกรณีมีข้อสังเกตระบบราชการควรนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบการปฏิบัติงาน ว่า กทม.ได้กำหนดกรอบแนวทางและรูปแบบการรายงานผลการลงเวลาปฏิบัติราชการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดให้สามารถใช้เครื่องมือโปรแกรม แอปพลิเคชั่นใดก็ได้ที่สามารถระบุตัวตนและระบุพิกัดสถานที่ทำงานของผู้ปฏิบัติงานได้ ซึ่งเป็นไปตามข้อ 11 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 รายละเอียดตามหนังสือสำนักงาน ก.ก. ที่ กท 0303/1405 ลงวันที่ 7 ก.ย. 2564 โดยทุกหน่วยงานสามารถให้ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดลงเวลาปฏิบัติราชการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ปัจจุบันมีหน่วยงานที่ใช้การลงเวลาปฏิบัติราชการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หลายหน่วยงาน เช่น สำนักงาน ก.ก. ใช้แอปพลิเคชั่น Google Form เป็นต้น
ทั้งนี้ ในส่วนของกทม. จะใช้การลงเวลาปฏิบัติราชการของข้าราชการและลูกจ้าง กทม. ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบบริหารทรัพยากรบุคคลของ กทม. (BMA HRMS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มีความโปร่งใส ป้องกันการทุจริต และสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานได้ กำหนดใช้กับทุกคนและทุกหน่วยงานในสังกัด กทม. ในเดือนมีนาคม 2568
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของกรณีข้อสังเกตการตรวจสอบการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ (โอที) นางสาวทรรศนีย์ พันธ์ประคุณ ผู้อำนวยการสำนักการคลัง (สนค.) กทม. กล่าวว่า การปฏิบัติงานนอกเวลาราชการของข้าราชการและลูกจ้าง กทม. หน่วยงานจะต้องขอตั้งงบประมาณ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการเบิกจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวและดำเนินการตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง การจ่ายเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา พ.ศ. 2529 โดยหน่วยงานจะจัดทำแผนการปฏิบัติงานนอกเวลา ซึ่งมีการกำหนดวัน เวลา อัตราค่าตอบแทน พร้อมแนบรายชื่อข้าราชการ หรือลูกจ้างที่จะอยู่ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ซึ่งการจ่ายเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา ข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง การจ่ายเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา พ.ศ. 2529 ข้อ 9 บัญญัติว่า ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และอัตราตามระเบียบของกระทรวงการคลัง (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. 2550 (ข้อ 7) ทั้งนี้ การปฏิบัติงานนอกเวลา หน่วยงานจะต้องเสนอขออนุมัติให้ข้าราชการ หรือลูกจ้างอยู่ปฏิบัติราชการนอกเวลาราชการปกติ พร้อมขออนุมัติสั่งจ่ายเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา ต่อผู้มีอำนาจตามข้อ 8 แห่งข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง การจ่ายเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา พ.ศ. 2529
สำหรับการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ โดยปกติแล้วจะต้องมีผู้ที่ปฏิบัติงานนอกเวลาคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับรองควบคุมการทำงานประจำวัน และในหลักฐานการจ่ายเงินค่าตอบแทนจะต้องลงชื่อรับรองว่า ผู้มีรายชื่อในการเบิกค่าตอบแทนมีการปฏิบัติงานนอกเวลาจริง ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิเบิกค่าตอบแทนได้จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามระเบียบกระทรวงการคลัง (ข้อ 7) กำหนด และฝ่ายการคลังจะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนเสนอหัวหน้าหน่วยงาน
อนุมัติฎีกาเบิกจ่าย ซึ่ง กทม. ได้มีหนังสือกำชับและสั่งการให้ผู้อำนวยการเขตกำกับดูแล กำชับให้เจ้าหน้าที่เบิกจ่ายเงินค่าอาหารทำการนอกเวลาราชการโดยถือปฏิบัติตามระเบียบและข้อบัญญัติอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี