สองหนุ่มหนีตำรวจท่าบ่อ หนองคาย หลังเกิดเหตุชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด หนุ่มไทยดึงสลักระเบิดวิ่งเข้าบ้านช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าข้างทาง แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นเสียชีวิต หนุ่มลาวหนีลงน้ำโขงขโมยเรือชาวบ้านหลบหนี ตำรวจตามล่าตัวกลางน้ำโขงรวบได้โดยละม่อม อ้างไม่รู้จักกันแค่ขอติดรถจะไปหางานทำ ค้นรถเจอพิรุธถอดเบาะหลังออก
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.00 น. ร.ต.อ.ไพทูรย์ ชั้นเสมา ร้อยเวรสอบสวน สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถชนกัน บริเวณสี่แยกบ้านเทวี ต.บ้านว่าน โดยเป็นรถกระบะ 4 ประตูสีขาว ชนกับรถเก๋ง สีขาว รถกระบะขับเคลื่อนไม่ได้ คนที่นั่งมาในรถกระบะ 2 คน ได้ทิ้งรถไว้แล้วโบกรถเก๋งคนลาวที่ขับผ่านมาออกจากที่เกิดเหตุไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้ติดตามจับกุม จนพบว่าชายทั้งสองคน ลงจากรถเก๋งที่ตลาดท่าบ่อ แล้วนั่งรถสามล้อเครื่องมุ่งหน้ามายังบ้านโพนสา เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามอย่างกระชั้นชิด แล้วไม่นานก็เกิดเหตุระเบิดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย หลบหนีลงน้ำโขงไปได้ 1 ราย ระหว่างหลบหนีได้ทิ้งกระเป๋าสีดำไว้บนฝั่ง และยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่บริเวณท่าน้ำจำนวนหนึ่ง
ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ,พ.ต.อ.จามร อันดี รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนองคาย, ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด, อัยการจังหวัดหนองคาย แพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ, หน่วยกู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ, วีอาร์กู้ภัยหนองคาย, ได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามจับกุมผู้หลบหนีบริเวณแม่น้ำโขง ตั้งแต่ช่วงวัดกุมภประดิษฐ์ บ้านโพนสา ทราบชื่อภายหลังคือ นายคำสิง อายุ 38 ปี ชาวเมืองปากเซ สปป.ลาว โดยนายคำสิง ได้ขโมยเรือหางยาวของชาวบ้านหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับ นรข.นำเรือออกติดตาม
ซึ่งทราบว่านายคำสิง มีปืนและพยายามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงยอมขึ้นจากน้ำโขงมาบนฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ ตรวจสอบกระเป๋าสะพายไม่พบอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดได้ตรวจสอบกระเป๋าสีดำที่นายคำสิงทิ้งไว้ ภายในพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดซุกซ่อนอยู่
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เข้าตรวจสอบ บ้านแห่งหนึ่ง อ.ท่าบ่อ พบศพชายนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณประตูทางเข้าห้องครัว โดยพบว่าเป็นชาย อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีกรมท่า รองเท้าผ้าใบ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มือข้างซ้ายขาด และยังพบระเบิดอยู่ในกระเป๋ากางเกง พบอาวุธปืนพกสั้น มีดพก อยู่ในกระเป๋าสะพายที่ผู้ตายนอนทับอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยไม่พบเอกสารแสดงตัวบุคคล นอกจากนี้ยังพบสลักระเบิดชนิดระเบิดมือแบบขว้าง ตกอยู่ริมถนนหน้าบ้านเกิดเหตุด้วย
จากการสอบถามนายสถาพร อายุ 51 ปี ซึ่งได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้มีรถสามล้อมาจอดหน้าบ้าน โดยมีชาย 2 คนนั่งโดยสารมา จากนั้นตำรวจขับรถมาประกบบอกให้มอบตัว คนร้ายได้ลงจากรถแล้วชักปืนออกมา ตำรวจรีบตะโกนบอกให้ตนวิ่งหนี ไม่นานชายทั้งสองคนก็วิ่งมาเปิดประตูบ้านวิ่งเข้าไปในบ้าน แล้วเกิดเสียงระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้ตัวบ้านเสียหาย หลังคาทะลุ และระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลโพนสา ซึ่งมาจ่ายเงินค่าซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ากับตนถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่ซ้ายด้วย ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่น
พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วว่า คดีนี้เกิดจากตนได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถชนกันแล้วหลบหนี โดยเป็นรถกระบะ กับรถเก๋ง น่าสงสัยว่าภายในรถกระบะจะมียาเสพติดเพราะเมื่อเปิดประตูออกได้กลิ่นยาเสพติด จึงได้สั่งการให้ตำรวจติดตามคนขับรถกระบะมา จนทราบว่ามีการโบกรถเก๋งมาลงยังตลาดท่าแล้ว แล้วผู้หลบหนีทั้งสองคนได้นั่งสามล้อเครื่องมุ่งหน้ามายังบ้านโพนสา พอตำรวจตามมาถึงก็ไม่ยอมมอบตัว กลับจะต่อสู้ โดยการดึงสลักระเบิดแล้ววิ่งหนีเข้าไปในบ้านแต่เกิดพลาดสะดุดล้มทำให้ระเบิดในมือทำงาน ระเบิดตูมเดียวเสียชีวิต ส่วนอีกคนวิ่งหนีออกทางหน้าต่างวิ่งทะลุบ้านชาวบ้านขโมยเรือหางยาวชาวบ้านพยายามจะหลบหนี แต่ก็ถูกตำรวจตามจับได้กลางแม่น้ำโขง ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นอ้างว่าไม่รู้จักกับคนตายเพียงแต่ขอติดรถมาจะไปทำงานที่อุดรธานี แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จะได้ตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งรถยนต์กระบะ พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิดตามเส้นทางทุกสายที่เกิดเหตุ และตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ส่วนจะมีสิ่งผิดกฎหมายอื่นใดต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี