กกต.บุกเรือนจำ
สอบ‘ทนายตั้ม’
ขาดคุณสมบัติ
ลงสมัครชิงสว.
กกต.สมุทรสาคร เข้าสอบ“ทนายตั้ม” ในเรือนจำฯกรณีมีข้อร้องเรียนขาดคุณสมบัติผู้สมัครสว. เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี เพื่อให้ทันตามกรอบกฎหมายกำหนดไว้ ชี้ถ้าผิดจริงเสี่ยงคุก 1-10 ปี ด้านทนายดิไอคอนเตรียมหารือบอสปัน เอาผิด “ฟิล์ม“ฐานพยานามฉ้อโกง หลังร่วมกับ “นักร้องเรียนหญิง ก.” เรียก 20 ล้าน ออกรายการดัง ปัดไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิป
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกรณ์ ประธานคณะกรรมการไต่สวนและสืบสวน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประจำจังหวัดสมุทรสาคร เดินทางเข้าสอบสวนนายษิทรา เบี้ยบังเกิดหรือทนายตั้มในเรือนจำฯ กรณีขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปมทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี หลังมีผู้ร้องเรียน
กกต.สมุทรสาครสอบตั้มในคุก
นายนิติพัฒน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้ร้องตรวจสอบนายษิทราหรือทนายตั้ม เกี่ยวกับคุณสมบัติการลงสมัครสว.จังหวัดสมุทรสาคร จึงเดินทางมาสอบปากคำในเรือนจำฯ เพื่อให้ทนายตั้มได้ชี้แจงการลงสมัคร สว.ครั้งที่ผ่านมาว่ามีคุณสมบัติในกลุ่มอาชีพการทำงานภาคประชาสังคมครบ 10 ปี ตรงตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ ส่วนการยื่นสมัครครั้งแรก กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วหรือไม่ เบื้องต้นเป็นอำนาจการตรวจสอบของผอ.เลือกตั้งที่รับสมัคร แต่เมื่อมีผู้ร้องคัดค้านจึงต้องจำเป็นตรวจสอบประเด็นหลักคือ คุณสมบัติ ถ้าไม่ได้ทำงานภาคประชาสังคมครบ 10 ปี อาจเข้าข่ายความผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 74 ที่กำหนดว่าผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือก ไม่ว่าเพราะเหตุใดได้สมัครรับเลือก ความผิดโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
ปมขาดคุณสมบัติสมัครสว.
ทั้งนี้ มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวตั้งแต่หลังการเลือกตั้งประมาณ 1-2 เดือน หรือประมาณช่วงปลายเดือนกันยายน จากนั้นกกต. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว โดยมีตนเป็นประธาน จากนั้นได้มีการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าวเรื่อยมา กระทั่งถึงขั้นตอนการเรียกให้ทนายตั้มเข้าชี้แจง แต่ทนายตั้มขอเลื่อนการชี้แจงไปเป็นวันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งตนมองว่าเกินกรอบที่ตั้งไว้ จึงขยายกรอบการไต่สวนสืบสวนเรื่องดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง หลังได้ข้อมูลจากทนายตั้มก็จะนำไปพิจารณาในคณะว่ามีเหตุผลและหลักฐานพอที่จะเชื่อได้หรือไม่และลงมติพิจารณา
“กกต.สมุทรสาครได้รับมอบหมายเดินทางมาสอบปากคำ เพราะต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จากนั้นต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งรายงานให้กกต.กลางวินิจฉัย มีกรอบสอบสวน 50 วัน ซึ่งพนักงานสอบสวน กกต. ประจำจังหวัดสมุทรสาครได้ขอขยายเวลาถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน”นายนิติพัฒน์กล่าว และว่า ส่วนทนายตั้มถูกจับคดีอาญาจะถอดถอนจากอันดับ สว.สำรองอันดับ 4 หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องด้วย แต่ถ้าขาดคุณสมบัติอาจต้องดำเนินคดี และสามารถส่งหลักฐานภายหลังได้
ฝากขัง“นุ-สา”คนสนิททนายตั้ม
วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน กก.3 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เบิกตัวนายนุวัฒน์ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิทนายษิทรา หรือทนายตั้ม และน.ส.สารินี อายุ 32 ปี แฟนสาวของนายนุ สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และร่วมกันฟอกเงิน ในคดีร่วมกันฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาทของน.ส.จตุพรหรือเจ๊อ้อย ออกจากห้องคุมขังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อนำตัวส่งฝากขังผัดแรกยังศาลอาญา ซึ่งทั้งสองคนมีสภาพเครียดและอิดโรย หลังเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำตลอดคืนที่ผ่านมา เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้จักกับทนายตั้มเป็นการส่วนตัวหรือไม่ ทั้งสองคนไม่ตอบคำถามเดินก้มหน้าขึ้นรถทันที
ทนายหารือบอสปันปมถูกรีด20ล้าน
ส่วนความคืบหน้าคดีดิไอคอน เวลา 09.30 น. วันเดียวกัน ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบบอสพอลว่าวันนี้ตนมาคุยเรื่องงาน และอาจไปพบบอสปันหรือน.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพรด้วย เนื่องจากมีกรณีนายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม พิธีกรรายการโหนกระแสเปิดคลิปเสียงช่วงที่นายฟิล์ม รัฐภูมิ คุยกับบอสปัน โดยมีนักร้องสาว ก. ประสานให้ โดยมีการอ้างสามารถพาไปออกรายการโหนกระแสได้นั้น ต่อมามีการออกมาปฎิเสธว่าคลิปเสียงดังกล่าวมีการตัดต่อ เรื่องนี้ตนยืนยันว่าเนื้อหาคลิปเสียงที่ออกในรายการไม่ได้มีการตัดต่อ เพียงแค่ตัดคลิปให้สั้นลงจากทั้งหมด 29 นาที เนื้อหาที่เผยแพร่ยังคงเดิม ในคลิปเกิดขึ้นช่วงวันที่ 9-10 ตุลาคม
ยันไม่ได้จ้างทำพีอาร์ให้บริษัท
ส่วนในคลิปเสียงช่วงของนายฟิล์ม ไม่ได้พูดลักษณะข่มขู่เอาชีวิตหรือทำให้เสียชื่อเสียง แต่เป็นการเรียกรับผลประโยชน์ โดยแอบอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส ระหว่างนั้นนักร้องสาว ก. เป็นคนประสาน ซึ่งในรายการขณะโจมตีก่อนช่วงแรกและท้ายที่สุดจะให้ผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ปเป็นคนดี หลังจากนี้ให้ไปแก้ไขเยียวยาผู้เสียหายและจบแบบแฮปปี้แอนดิ้ง โดยฟิล์มอ้างว่า รายการโหนกระแสกำหนดทิศทางของสังคมได้ และมักเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมักล้อไปกับกระแสสังคม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จ่ายเงิน 20 ล้านตามที่เรียกไปเพราะไม่มีเงินสด อีกทั้ง ไม่ได้ตกลงว่าจ้างให้ฟิล์มมาทำพีอาร์ให้บริษัท
นายวิฑูรย์กล่าวอีกว่า การคุยกันเรื่องไปออกรายการโหนกระแส ไม่ได้มีเจตนาไปฟอกขาว เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ สามารถต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมได้อยู่แล้ว แต่คิดว่าบอสปันน่าจะเครียดกลัวตกเป็นจำเลยของกระแสสังคม จุดนี้ถือเป็นช่องโหว่ให้นักตบทรัพย์เข้ามาหากิน ส่วนตัวจึงอยากเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นหลักนำของประเทศไม่ใช่ให้สื่อสารมวลชนหรือกระแสสังคมเป็นหลักชี้นำกระบวนการแบบที่เป็นอยู่นี้
ปัดปล่อยคลิปเสียง-เล็งเอาผิดฟิล์ม
ส่วนเรื่องคลิปเสียง ยืนยันว่าฝั่งตัวเองไม่ได้เป็นคนปล่อย นำไปให้หนุ่ม กรรชัย เพราะไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี และไม่ต้องการดิสเครดิตใคร คาดว่าอาจหลุดจากคนในบริษัท จากนี้ต้องเรียกพนักงานมาสอบถามก่อนเรื่องการตบทรัพย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ พนักงานบริษัทก็เคยให้ข้อมูลว่ากลุ่มนี้เคยเรียกรับเงินหลายครั้งแต่ไม่รู้ตัวเลขที่ชัดเจน
สุดท้ายจะดำเนินคดีเรื่องคลิปเสียงนี้หรือไม่ นายวิฑูรย์ บอกว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับบอสปัน คาดว่าอาจต้องดำเนินคดี มองว่าแม้ความผิดไม่สำเร็จแต่ก็ปรากฏขึ้นแล้ว และยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะดำเนินคดีใครอีก ยอมรับว่ามีคนที่จ่อดำเนินคดี คนนี้เช็คข้อมูลแล้วพบว่าไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นตัวแทนบริษัท
“แทนคุณ”แฉซ้ำอาจมีถึง60ล้าน
ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงกรณี ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ออกมาระบุคลิปเสียงถูกตัดต่อว่า มันชัดเจน ตนฟังคลิปเต็มแล้ว ส่วนที่นายรัฐภูมิออกมาตอบโต้ว่าไม่ได้รับเงิน 20 ล้านนั้น ต้องไปตรวจสอบ แต่จากข้อมูลที่ตนได้มา ไม่ใช่แค่ได้รับหรือได้รับ 20 ล้าน มีเรื่องก่อนหน้านี้อีกด้วย ข้อมูลที่ตนได้มาคือ ตัวเลข 60 ล้าน ที่ตนมีตัวเลขอยู่ มีผู้เสียหายในภาคใต้ เคยให้ข้อมูลกับตนมาก่อนหน้านี้ แต่เห็นว่าเรื่องเข้าสู่กระบวนการไปแล้ว จึงไม่อยากเปิดแผลใคร ตนเชื่อว่านายรัฐภูมิน่าจะรู้ว่าหมายถึงอะไร ส่วนเรื่องนี้โยงถึงเทวดา นายรัฐภูมิจะเป็นหนึ่งในแนวร่วมเทวดาหรือไม่นั้น อาจเป็นไปได้
“ตอนนั้นผมเคยพูดถึงเทวดา ที่ตอนนี้ไปอยู่รัฐบาล ที่ไม่ใช่ ส.เล็ก มันมี ส.เล็ก กับ ส.ใหญ่ ส.ใหญ่ ก็อาจเป็นเทวดาตัวจริง ที่มีอำนาจจริง คุณฟิล์มก็เป็นคนหนึ่ง ที่อาจพยายามเข้าหากลไกอำนาจ เพื่อช่วยเหลือตัวเองด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องที่คุณฟิล์มต้องพยายามดีแคร์ตัวเอง แล้วฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะ ส.ใหญ่ อาจมีผลทำให้โอนหรือโยกคดีด้วยหรือไม่ ผมก็ไม่อยากคิดไกลขนาดนั้น ตอนนี้สังคมไม่อยากให้จบแค่นี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องไม่ลืมคือความผิดของบอสทั้งหลาย ต้องไม่ถูกกลบด้วยเรื่องดราม่าต่างๆ รวมไปถึงการเยียวยาผู้เสียหาย ตามข้อมูลที่ผมได้มาเร็วๆ นี้ อาจจะมีทนายดัง บางท่าน อาจโดนไปด้วยอีกคนหนึ่ง” นายแทนคุณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี