สืบนครบาลรวบ‘ครู NEWtsbs’ติวเตอร์ชื่อดังย่านสีลม หลอกร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว อีกทั้งอ้างช่วยหาข้อสอบ SAT ให้เด็กติวเข้าเรียนมหาลัยดัง ก่อนหลบหนี เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
14 พฤศจิกายน 2567 จากนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก
กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนติดตามจับกุมนายปวิชญา หรือ ครู NEWtsbs ครูติวเตอร์เจ้าของโรงเรียนติวชื่อดังย่านสีลม ผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีหมายจับ 3 หมายจับ ประกอบด้วย
1.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
2.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
3.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค”
ผู้ต้องหามีพฤติกรรมก่อเหตุหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว อีกทั้งอ้างช่วยหาข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะหลบหนี ซึ่งตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลบเชื่อตกเป็นเหยื่อ
ผู้บังคับบัญชาจึงมอบหมายให้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบเร่งติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ซึ่งได้รับมอบหมายให้รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.เอกภพ พันธุ , ร.ต.อ.นุรุต ฐิติชรัล , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายปวิชญา อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ” โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนหน้าคอนโดมิเนียม พื้นที่หมู่ 8 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นศึกษาต่อที่สถานบันการบินพลเรือน แต่เรียนไม่จบ เป็นคนที่มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี จึงเริ่มเป็นครูติวเตอร์อิสระตั้งแต่ปี 2537 จนมีประสบการณ์ ต่อมาประมาณปี 2558 ตนมีเงินทุนจึงได้มาเปิดโรงเรียนติวเตอร์เป็นหลักแหล่งชื่อ “NEWtsbs” โดยเปิดสอนอยู่ย่านสีลม ซึ่งธุรกิจเป็นไปด้วยดี
ต่อมาช่วงประมาณปี 2562 สถานการณ์โควิดระบาดทำให้ธุรกิจโรงเรียนติวของตนซบเซาจนต้องปิดตัวลง ทำให้ตนไม่มีส่วนแบ่งให้กับผู้เสียหายซึ่งตนชักชวนมาร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติวด้วยกัน จึงได้หลบหนีไม่กลับที่พัก และตระเวนสอนติวกับเด็กนักเรียนซึ่งผู้ปกครองได้ยินชื่อเสียงจากผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานมาเรียนกับตนและผลการเรียนของบุตรหลานสำเร็จ โดยที่ตนไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะทราบ ในส่วนการเรียกรับว่าจะสามารถช่วยให้บุตรหลานของผู้ปกครองที่ตนสอนนั้นสามารถสอบข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) นั้น
นายปวิชญา ให้การว่า เดิมทีตนสามารถช่วยได้โดยตนมีแนวข้อสอบซึ่งค่อนข้างตรงเพื่อติวให้กับผู้ที่สนใจ แต่เนื่องจากเหตุขัดข้องตนไม่สามารถหาแนวข้อสอบในลักษณะนั้นมาได้อีก จึงทำให้ผู้ปกครองที่สนใจซึ่งจ่ายเงินมาให้ตนแล้วผิดหวัง และตนก็ไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้ จึงถูกดำเนินคดี ก่อนที่ตนจะหลบหนี จนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
ทั้งนี้ ในระหว่างการจับกุม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแสดงหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างการเดินทางไปจัดทำบันทึกการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้มีการพยายามหว่านล้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลชุดจับกุมช่วยเหลือตนโดยการเสนอที่จะให้เงินจำนวน 1 แสนบาท แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเพื่อแลกกับการปล่อยตัวตนเป็นอิสระ อีกทั้งยังอ้างรู้จักผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ไม่ได้สนใจต่อสินบนยั่วยุและบารมีคนใหญ่คนโต คงทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนโดยเร็วต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ Crime) พบข้อมูลว่า นายปวิชญา หรือ “ครู NEWtsbs” มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย
1.ปี 2558 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ” ท้องที่ สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี
2.ปี 2567 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
3.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
4.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค”
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายปวิชญา นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี