ยิงปะทะสนั่นริมโขง! คนร้ายหนีตำรวจ-ดึงระเบิดขู่ สะดุดล้มตกใส่ตัวเองดับ
ความคืบหน้ากรณีจากคดีชาย 2 คน เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนรถเก๋งแล้วหลบหนี โบกรถคนผ่านทางไปลงตลาด ก่อนจ้างสามล้อจากตลาดท่าบ่อ ไปบ้านโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ตำรวจไล่ตามกระชั้นชิด ก่อนที่ 1 ใน 2 คนร้าย จะดึงสลักระเบิดขู่ตำรวจ แล้ววิ่งเข้าบ้านช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า สะดุดล้มมือกำระเบิดตูมเดียวเสียชีวิตคาที่ เพื่อนอีกคนวิ่งหนีลงน้ำโขง ขโมยเรือชาวบ้านพยายามหลบหนี ตำรวจสนธิกำลัง นรข.นำเรือออกไล่ล่า คนร้ายมีอาวุธพยายามต่อสู้ตำรวจ จนต้องยิงปืนขู่ให้ยอมมอบตัวกลางน้ำโขง สุดท้ายยอมขึ้นฝั่ง อ้างตัวเองเป็นคนลาว ไม่รู้จักเพื่อนอีกคน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 13 พ.ย.67
ล่าสุดเวลา 11.30 น.วันนี้ (14 พ.ย.67) พ.ต.อ.จามร อันดี รองผบก.ภ.จว.หนองคาย ประชุมติดตามความคืบหน้าร่วมกับ พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ , พ.ต.ท.ธียาฌพัฒน์ รังสิพราหมณกุล รองผกก.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดทำงาน
พ.ต.อ.จามร กล่าวว่า เบื้องต้นภายหลังจับกุมผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นคนลาว แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นคนไทยทั้ง 2 คน ผู้เสียชีวิต คือ นายมานพ อายุ 34 ปี เป็นคนไทย จ.สุพรรณบุรี มีหมายจับคดีจำหน่ายยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ คือ นายธนาสิทธิ์ หรือเอ อายุ 35 ปี อยู่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี มีหมายจับของศาลจังหวัดชัยบาดาล ปี 2567 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตายของ สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
สำหรับรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นรถทะเบียนจริง เป็นรถกระบะอีซูซุ สีขาว 4 ประตู ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ตรวจค้นเจอยาบ้า 30 เม็ด อยู่ในช่องเก็บของด้านหน้า อุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง เชื่อได้ว่าก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนจะขับรถกระบะมารับยาเสพติดบริเวณชายแดน เพื่อนำเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ แต่เกิดอุบัติเหตุก่อน ส่วนรถที่รับออกจากจุดเกิดเหตุเป็นรถชาวบ้านที่มาทำบุญขับรถผ่าน ของกลางที่ตำรวจตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี มีระเบิด M82 จำนวน 1 ลูก ซึ่งพบอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าซ้ายตัวที่ผู้ตายสวมใส่ , อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อรูเกอร์ ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด ซองบรรจุกระสุน 1 อัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาหนัก 6 ข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 ร.ต.อ.ไพฑูรย์ ชั้นเสมา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันบนถนนสายท่าบ่อ-บ้านผือ บริเวณสี่แยกบ้านเทวี ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุสีขาว สี่ประตู ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมทางสภาพด้านหน้าเสียหาย ส่วนอีกฝั่งของถนนพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยารีส สีขาว ทะเบียนอุดรธานี สภาพด้านหน้าเสียหาย โดยมี น.ส.มัณรัตน์ อายุ 27 ปี เจ้าของรถพร้อมญาติรอพบเจ้าหน้าที่ และได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอก
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่ารถยนต์กระบะสี่ประตู วิ่งมาจากทาง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มุ่งหน้า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ส่วนรถยนต์เก๋งโตโยต้ายารีส กำลังจะเลี้ยวรถเข้าเส้นทางกลับบ้านในพื้นที่ ต.บ้านว่าน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์กระบะได้ขับแซงรถบรรทุกที่วิ่งอยู่ด้านหน้าทำให้ไม่เห็นรถเก๋งที่กำลังจะเลี้ยว ทำให้ชนประสานงาอย่างจัง ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้รับแจ้งว่าคนขับรถกระบะและผู้โดยสารรวม 2 คน ได้หลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอท่าบ่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวิทยุสกัดจับ
ทั้งนี้ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ที่ทั้ง 2 คนหลบหนี และจากคลิปที่พลเมืองดีถ่ายไว้ได้ในจุดเกิดเหตุ พบว่าทั้งสองคนได้โบกรถยนต์ชาวลาวหลบหนี มาลงรถที่ศาลาพักผู้โดยสารเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก่อนที่จะจ้างรถสามล้อเครื่องให้ไปส่งที่ริมแม่น้ำโขงบ้านโพนสา อ.ท่าบ่อ เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด
จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้ติดตามคนร้ายทั้ง 2 คน มายังถนนพนังชลประทานริมแม่น้ำโขง เส้นท่าบ่อ-หนองคาย พื้นที่หมู่ 2 บ้านโพนสา ต.โพนสา เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่จึงแยกกันหลบหนี โดยคนร้ายอีกคนวิ่งลงไปที่ท่าน้ำวัดกุมภประดิษฐ์ หมู่ 2 ต.โพนสา ขโมยเรือของชาวบ้านหลบหนี แต่ไม่สามารถสตาร์ทเรือติด ยังใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางเพื่อหลบหนีใส่เจ้าหน้าที่มา 1 นัด
จากนั้นคนร้ายทำได้เพียงไหลเรือออกจากฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงลงเรือติดตามพร้อมใช้อาวุธปืนยิงขู่เพื่อให้ยอมจำนน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธพร้อมต่อสู้ จึงได้ประสานสถานีเรือศรีเชียงใหม่ นรข.เขตหนองคาย นำเรือไล่ติดตามจับกุมไว้ได้ในพื้นที่หมู่ 1 ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนอาวุธปืนและของกลางอื่นๆ คนร้ายโยนทิ้งลงแม่น้ำโขง
ส่วนคนร้ายอีก 1 คน ได้วิ่งหลบหนีไปที่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 2 ต.โพนสา ที่เปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และได้จับตัวคนขับสามล้อเป็นตัวประกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้ พร้อมทั้งควักระเบิดออกมาขู่ เจ้าหน้าที่ได้แต่ปิดล้อมไว้โดยรอบ ต่อมาเมื่อเห็นว่าจวนตัวคนร้ายได้ดึงสลักระเบิดออก ตั้งใจจะเขวี้ยงใส่เจ้าหน้าที่ แต่คนร้ายเกิดสะดุดล้ม แล้วคนขับสามล้อสะบัดหลุดวิ่งหลบหนีออกมาอย่างฉิวเฉียด
ส่วนคนร้ายถูกระเบิดใส่ตัวเองจนเสียชีวิตทันที สะเก็ดระเบิดยังไปถูกชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่บริเวณหัวไหล่ และแรงอัดของระเบิดยังทำให้ตำรวจจราจรได้รับบาดเจ็บมีอาการแน่นบริเวณหน้าอก เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลจนปลอดภัยทั้งชาวบ้านและตำรวจ ก่อนที่การสอบสวนพบว่าเป้นแก๊งยาเสพติดดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี