‘เจ๊พัช-ฟิล์ม’ระทึก
หมายจับตบทรัพย์
‘รมต.น้ำ’ส่งทนาย
ยื่นฟ้องถูกอ้างชื่อไถ
“กฤษอนงค์-ฟิล์ม” ระทึก!ตำรวจบช.ก.เข้าเรือนจำสอบ “บอสพอล” ก่อน เคาะ “หมายเรียก-หมายจับ” ปมหลอกลวงเงินจากบอสดิไอคอน ผบ.ตร.ย้ำชุดสอบสวนเคร่งครัดกฎหมาย ขอปชช.มั่นใจฝีมือ บช.ก.ยันไม่ปล่อยให้มีวิ่งเต้นคดี แม้ผู้ถูกกล่าวหาสนิทกับนักการเมือง
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวการออกหมายเรียก หรือหมายจับ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ และนางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวต้านโกง กรณีหลอกลวงเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปว่า การออกหมายเรียก หรือหมายจับ จากนี้ขอให้เป็นเรื่องที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ดำเนินการส่วนรายละเอียดคดีต่างๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินการของพนักงานสอบสวน
ผบ.ตร.ลั่นไม่ยอมให้วิ่งล้มคดี
ผบ.ตร.ยืนยันว่าในฐานะข้าราชการตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง สิ่งใดที่เป็นการทำความผิดจะถูกดำเนินคดีไปตามนั้น ส่วนสิ่งที่ตำรวจกำลังทำอยู่คือ ใช้กฎหมายนำหน้า แสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐานการทำผิด ตนย้ำพนักงานสอบสวนใช้กฎหมายเคร่งครัด ส่วนพยานหลักฐานเพียงพอออกหมายเรียกหรือหมายจับหรือไม่ ขอเวลาให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการ อย่างไรก็ตาม จะทันวันนี้จนทำให้ ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ไปลอยกระทงเลยหรือไม่ สำหรับประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ลอยกระทง แต่ถ้าถูกดำเนินคดีจับกุมตัวก็คงไม่ได้ไปลอยกระทง แต่ถ้ายังไม่มีการ แจ้งข้อกล่าวหาเขาก็คือคนหนึ่ง ที่เป็นประชาชนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ สิ่งที่ตำรวจจะทำต้องสอบสวนหนักแน่นเรื่องพยานหลักฐานก่อน ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐยังให้ความมั่นใจกับประชาชนและผู้เสียหายว่า แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะรู้จักสนิทกับนักการเมือง แต่ยืนยันว่าคดีนี้จะไม่ปล่อยให้มีการวิ่งเต้นหรือล้มคดีแน่นอน โดยเฉพาะถ้าพบมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินการทั้งวินัยและอาญา แต่ส่วนตัวมั่นใจการทำงานของตำรวจ บช.ก.
หลักฐานฟันนักตบทรัพย์ครบ100%
กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าคดีนักร้องเรียนสาวที่ตบทรัพย์ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัดว่า จากการประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นพยานหลักฐานค่อนข้างครบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ได้ประชุมชุดสอบสวนชุดใหญ่อีกรอบ เนื่องจากยังมีบางประเด็นที่ต้องสอบเพิ่ม ขณะนี้พนักงานสอบสวนไปพบนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบเพิ่มเติมและตัดบางประเด็นที่เป็นข้อสงสัย คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงบ่ายวันนี้
รอแค่ผลสอบ‘บอสพอล’เพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นักร้องเรียนสาวจะได้ไปลอยกระทงไรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ยังไม่ยืนยัน แต่ลอยกระทงเขาลอยถึงเที่ยงคืน สำหรับแนวทางสืบสวนคดีตบทรัพย์ดิไอคอนกรุ๊ป ยืนยันว่า ครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงการสอบสวนเล็กน้อย ซึ่งบอสพอลต้องเป็นผู้ยืนยันว่าจะเข้าข่ายทุจริตหรือเป็นการกรรโชกทรัพย์ ขอให้รอก่อน ส่วนความกังวลว่านักร้องเรียนกสาวจะหลบหนี ยอมรับว่า ก็กังวลว่าตัวนักร้องสาวจะมีเหตุผลที่ทำให้หลบหนี ส่วนนักร้องสาวจะท้าทายอะไร ก็เป็นเรื่องของผู้ถูกกล่าวหา
ขณะที่คดีของนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย พิธีกรดังรายการโหนกระแส ที่เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ เรื่องนี้เป็นเรื่องหมิ่นประมาทฯและทนายของบอสพอลก็จะแจ้งข้อหาพยายามฉ้อโกง หลังพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายกรรชัยไปแล้ว ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน จะประชุมอีกครั้ง รวมไปถึงรายละเอียดที่จะนำมาหารือในที่ประชุม โดยเฉพาะการเข้าไปสอบบอสดิไอคอนกรุ๊ปในเรือนจำฯ
‘รมต.น้ำ’ส่งทนายฟ้อง“กฤษอนงค์”
ส่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างบอสพอล กับหญิงสาวปริศนา ที่มีการเอ่ยชื่อน.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างถึงการเข้าไปมีตำแหน่งทำงานในสคบ. ต่อมาน.ส.จิราพรออกมาปฎิเสธข่าวดังกล่าว ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายปวริศ ผุดผ่อง ทนายความของน.ส.จิราพร นำคลิปเสียงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ จากกรณีถูก น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือกฤษอนงค์ต้านโกง อ้างชื่อไปเรียกรับเงินจากกลุ่มผู้บริหาร บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
โดยนายปวริศเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากน.ส.จิราพร ให้รวบรวมพยานหลักฐานซึ่งประกอบด้วยคลิปเสียงที่ได้จากสื่อมวลชน มีลักษณะแอบอ้างเอาชื่อตัวเองไปใช้ ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง จึงนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นหลักฐานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าการกระทำดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายความผิดใน 2 ข้อหาคือ หมิ่นประมาทและเรียกรับผลประโยชน์ โดยจากการที่ตนได้สอบถาม น.ส.จิราพร ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับ น.ส.กฤษอนงค์ เป็นการส่วนตัว และตนไม่ขอพูดถึงกรณีที่ น.ส.กฤษอนงค์ มีการแอบอ้างไปถึงบิดาของ น.ส.จิราพร ด้วยเนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน ขณะเดียวกัน น.ส.จิราพรยังฝากถึงพนักงานสอบสวนว่าพร้อมเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
“อี้”แฉเพิ่มนักตบทรัพย์ชายเอี่ยวอีกหลายคดี
ด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ ประธานชมรมสันติประชาธรรม เปิดเผยถึงกรณีนักตบทรัพย์ชายที่กำลังเป็นข่าวว่า หลังจากที่ตนออกมาเปิดเผยถึงนักตบทรัพย์ชายที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขณะนี้ นอกจากประเด็น 20 ล้านบาทแล้ว ยังมีอีกหนึ่งประเด็นคือ 60 ล้านบาท ที่ไม่เกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งนักตบทรัพย์ชายรายนี้มีพฤติกรรม หลอกให้คนลงทุน โดยผู้เสียหายไปแจ้งความที่สภ.ห้วยยอด จ.ตรังแล้ว
นอกจากนี้ ตนยังทราบมาว่าตัวนักตบทรัพย์ชายรายนี้ยังมีพฤติกรรมไปหลอกคนอื่นอีกหลายราย หนึ่งในนั้นเสียเงินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท รวมเเล้วนักตบทรัพย์ชายรายนี้ยังเชื่อมโยงในความเสียหายอีกหลายกรณี อาทิ แชร์ลูกโซ่หรือขายตรง ซึ่งตนเข้าใจว่า เดิมทีตัวนักตบทรัพย์รายนี้อาจไม่ทราบว่า พฤติกรรมดังกล่าวนี้นั้นผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ นักตบทรัพย์ชายรายนี้ยังเคยออกมาเปิดเผยว่า มีคลิปเสียงที่พูดคุยกับตนในกรณี 60 ล้านบาท ซึ่งตนยอมรับว่าเป็นความจริง แต่การพูดคุยครั้งนั้นเป็นการที่ตนพยายามฟังข้อเท็จจริงจากทั้งผู้เสียหายและนักตบทรัพย์ชายรายนี้ ยืนยันไม่ได้มีการเรียกรับทรัพย์แต่อย่างใด หากจะเปิดคลิปเสียงดังกล่าวก็ยินดี ซึ่งตนอยากให้นักตบทรัพย์ชายรายนี้ออกมาให้การตามความจริง อย่าไปทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนมากกว่านี้เลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี