เลย ศาล จ.เลยออกหมายจับ มารศาสนาระดับพระมหา หลอกตุนเงินชาวบ้าน ผอ.ร.พ เหตุติดการพนันออนไลน์งอม สูญเงินกว่า 200 ล้านบาท
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วรชัย บางยี่ขัน ผกก.สภ.เมืองเลย พร้อมกับ พ.ต.ท.จิรัสย์ แสนประสิทธิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย ได้ขออนุมัติให้ศาลจังหวัดเลย ออกหมายจับอดีตพระมหาปัคทวี พิมคีรี (อัคควีโร) พระลูกวัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ในข้อหาได้หลอกลวงซึ่งทรัพย์ หรือฉ้อโกง จากเงินสมทบสร้างตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลปากชม นำไปใช้ส่วนตัว โดยมี นพ.สรรคเพชร หอมสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากชม และเจ้าคณะจังหวัดเลย (สายธรรมยุต) ร่วมแจ้งความร้องทุกข์ และศาลจังหวัดเลย ได้ออกหมายจับเลขที่ จ.4282 ลงวันที่ 15 พ.ย. 67 ทั้งนี้หลังสืบทราบมีผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ถูกอดีตพระมหาหลอกตุนเงิน คาดเสียหายกว่า 200 ล้านบาท
โดยจากการสอบสวนพบว่า อดีตพระมหาปัคทวี พิมคีรี (อัคควีโร) พระลูกวัดป่าเวฬุวนาราม อายุ 34 ปี บวชได้ 10 พรรษา สังกัดวัดป่าเวฬุวนาราม ได้ทำการหลอกลวง ผอ.รพ.ปากชม และเจ้าคณะจังหวัดเลย ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 ขอเบิกเงินสมทบสร้างตึกอุบัติเหตุ ซึ่งเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวนาราม ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มในการสร้างโครงการ โดยอ้างว่าเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวนาราม ให้มาเบิกก่อน เป็นจำนวน 300,000 บาท เพื่อจะนำเงินจัดงานผ้าป่าที่คณะจากกรุงเทพจะมาทอดผ้าป่าที่วัด ต่อมาวันที่ 24 ก.ค. 66 และวันที่ 5 ก.ย.66 วันที่ 20 ก.พ. 67 วันที่ 19 มี.ค.67 และครั้งสุดท้ายวันที่ 5 เม.ย.67 โดยการยืมเงิน 5 ครั้ง ล่าสุดอ้างว่า จะนำเงินเพื่อนำไปทำโครงการการเดินธุดงค์ที่ประเทศศรีลังกา ซึ่งจะมีเงินบริจาคเข้ามาจะนำมาชดใช้ โดยการยืมเงินโครงการสมทบสร้างตึก รพ.ปากชม รวมจำนวนเงินทั้งหมด 7 ล้านบาท หลังจากเสร็จโครงการการเดินธุดงค์ ก็เงียบหายไป จึงได้เข้าพบเจ้าอาวาส และทราบว่าองค์ท่านไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพียงเอาชื่อท่านไปแอบอ้าง เจ้าคณะจังหวัดเรียกอดีตพระมหามาพบพร้อมกับรับสารภาพทำเอง จึงให้เซ็นสัญญารับสภาพหนี้
ต่อมาคณะกรรมการวัด เริ่มตรวจสอบพระดังกล่าว พบว่าญาติโยม ทั้งคณะศรัทธาจากกรุงเทพ และจังหวัดใกล้เคียง ที่ได้ร่วมกันทำบุญพบว่าบัญชีธนาคารชื่อวัด จำนวนเงินไม่เข้าในบัญชี และพบว่า มีเงินทำบุญบางส่วนโอนเข้าบัญชีชื่อวัด แต่เป็นธนาคารต่างสาขา โดยมีพระมหาปัคทวี พิมคีรี (อัคควีโร) หรือครูบาอาม เป็นผู้เบิกจ่าย จากการสอบสวนทางลับพบว่ามีเงินเข้าออกผ่านบัญชีไม่น้อยกว่า 200 ล้าน และมีการโอนเข้าธนาคาร อ.แม่สาย และธนาคารใน จ.เชียงราย ส่วนการโอนออกพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเวลากลางคืน จึงสืบต่อทราบว่า พระมหาปัคทวี พิมคีรี (อัคควีโร) หรือครูบาอาม ได้แอบลักเล่นการพนันออนไลน์ และเสียการพนันนับ 100 ล้านบาท
หลังจากที่ได้แอบอ้างชื่อของเจ้าอาวาสวัดเวฬุวนาราม เจ้าอาวาสพร้อมกับคณะสงฆ์ภายในวัด จึงสั่งให้ออกจากวัดวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา และให้พ้นจากการเป็นพระทันที จากนั้น ผอ.รพ.และเจ้าคณะจังหวัด จึงได้เข้าแจ้งความเอาผิด เนื่องจากเงินสมทบสร้าง รพ.เป็นเงินมาจากการบริจาคของประชาชนทั่วไป และมีญาติโยมที่ถูกหลอกเอาเงินจำนวนหลายราย จนเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่ยอมมามอบตัว ซึ่งทางเจ้าพนักงานสอบสวนเห็นว่า คดีมีความเสียหายจำนวนเงินสูงเป็นหลัก 100 ล้านขึ้นไป จึงได้ขอให้ศาลออกหมายจับ เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน จึงเร่งจับมาดำเนินคดีและขยายผลความเสียหายที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ทิดอาม หรืออดีตพระมหาปัคทวี ตลอดที่บวชเป็นพระได้พยายามทำตัวใกล้ชิดกับหลวงพ่อเจ้าอาวาส จึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป หลังจากคณะศิษยานุศิษย์ ต่างทราบเรื่อง เนื่องจากบางคนก็ถูกยืมเงินไปใช้ และบางส่วนไม่แน่ใจเงินที่ทำบุญไปกับวัด โดยผ่านไปยังทิดอามจะถึงวัดหรือเปล่า ต่างก็รอให้ตำรวจตามจับมาดำเนินคดี พร้อมกับจะรวมตัวเข้าแจ้งความ ให้ดำเนินคดีกับมารศาสนาให้ถึงที่สุด ซึ่งมีญาติโยมได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นญาติโยมจากทางไกล รวมทั้งราชการผู้ใหญ่ นายแพทย์ ที่ได้มีความศรัทธาต่อองค์เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และเป็นที่เคารพและศรัทธาของคนจังหวัดเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี