ชาวนาชัยภูมิอ่วม
เจอพิษฝนหลงฤดู
ข้าวเปลือกจมน้ำ
ส่งขายไม่ได้ราคา
อุตุฯเตือนลมหนาว“ระลอกใหม่ ไทยตอนบน”มีฝน อุณหภูมิลดลง 1-4 องศาฯ เตือน 7 จังหวัดใต้ฝั่งตะวันออก คลื่นแรง-ฝนตกหนักมาก 20-23 พฤศจิกายน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม พิษฝนหลงฤดูชาวนาชัยภูมิทุกข์ระทบ ข้าวเปลือกเปียกน้ำเสียหาย ต้องนำมาตากใหม่ โรงสีไม่รับซื้อ-กดราคา
เมื่อวันที่ 17พฤศจิกายน2567 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 1 เรื่อง “คลื่นลมแรงและฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก” ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2567 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2567 มีบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้า คะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2567 จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด
ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาถึงประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ (17 พ.ย. 67) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากฝนที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยเวลา 06.00น.วันที่ 16พฤศจิกายน-17พฤศจิกายน เวลา06.00น. ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ อำนาจเจริญ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4องศาเซลเซียสกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20กม./ชม.
ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี และนครปฐม อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า2เมตร กรุงเทพและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20กม./ชม.
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชัยภูมิ ว่า เกิดฝนหลงฤดูตกหนักเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทั้งในพื้นที่ อ.ภูเขียว เกษตรสมบูรณ์ หนองบัวแดง และอีกหลายอำเภอ ทำให้ชาวนาในพื้นที่ บ้านหนองแวง ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ต้องเร่งช่วยกันเก็บข้าวเปลือกที่ตากไว้ตามบริเวณลานตากในหมู่บ้าน หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักหลายชั่วโมง ส่งผลให้ข้าวเปลือกที่ตากไว้ถูกฝนเปียกชื้น หากนำไปขายหรือเข้าร่วมโครงการรับจำนำ จะถูกหักค่าความชื้น ทำให้ได้ราคาไม่ดี หรือไม่รับซื้อไม่รับจำนำข้าวเปลือก ชาวนาต้องเก็บข้าวเปลือกที่ตากไว้ แล้วหาสถานที่ตากแดดใหม่ ซึ่งนับเป็นความทุกข์ของชาวนาในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งและฝนหลงฤดูกระหน่ำซ้ำเติมอีกครั้งในช่วงเกี่ยวข้าว
ชาวนารายหนึ่งที่ข้าวเปลือกเปียกน้ำฝน กล่าวว่า หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวได้เมื่อ 3 วันที่แล้ว ก็นำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวมาตากเพื่อลดความชื้น จะเก็บเข้ายุ้งฉางในเย็น แต่ได้เกิดฝนเทลงมาอย่างหนักทำให้ต่างรีบหาถุงพลาสติกใบใหญ่ และผ้าใบขนาดใหญ่มาคลุมข้าวเปลือกที่ตากไว้ในลาน แต่ไม่ทัน ทำให้เมล็ดข้าวที่ตากไว้เปียกทั้งหมด ทำให้ตนต้องเดือดร้อนนับหนึ่งใหม่ ต้องนำข้าวเปลือกเปียกน้ำฝนมาตาดแดดใหม่อีกรอบ อย่าน้อย 3 วัน ข้าวเปลือกจึงจะแห้ง ทำให้ชาวบ้านที่รอคิวจะนำข้าวเปลือกมาตากต่อต้องรอไปอีก 3 วัน หรือต้องหาพื้นที่ตากข้าวแห่งใหม่ ซึ่งชาวนาหลายคนได้แต่ภาวนาขออย่าให้เกิดฝนตกหนักลงมาอีก หวั่นข้าวเปลือกเปียกน้ำฝน จะออกรากขึ้นมา นำไปขายหรือสีเป็นข้าวสารหุงกินไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี