"รรท.อธิบดีดีเอสไอ"เผยคืบหน้าปมสอบคลิปเสียง"กฤษอนงค์" อ้างจ่าย 10 ล้านพาดพิงหน่วยงาน พร้อมส่งพนักงานสอบสวนรุดสอบปากคำ"บอสพอล"ในเรือนจำ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ย้ำชัดตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา หากหลักฐานยืนยันการกระทำผิดจริง พร้อมพิจารณาดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญาแก่เจ้าหน้าที่รายนั้น แย้ม พงส.เตรียมยื่นศาลอาญา ขยายฝากขังผัด 4 ก๊วนดิไอคอน
จากกรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนาผู้หญิงกล่าวอ้างว่าเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดีไม่ให้มีการแถลงข่าว ต่อมาภายหลังเพจเฟสบุ๊คส่วนตัวของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ และศูนย์ข่าวต้านโกง ได้มีการออกมายอมรับว่าคลิปเสียงดังกล่าวเกิดขึ้นมากว่า 10 ปี และตัวกลางที่มาอ้างก็เสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาทาง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เผยว่า รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ สั่งการให้เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ประสานขอคลิปเสียงดังกล่าวจากสำนักข่าวที่มีการนำเสนอแล้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น
วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2567) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตนได้มอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำหนังสือประสานงานไปยังสำนักข่าวที่มีการนำเสนอคลิปเสียงสนทนานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างงานธุรการ แต่เท่าที่ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนกระบวนการตรวจพิสูจน์ หากดีเอสไอได้รับคลิปเสียงมาแล้ว ก็จะมีทั้งการตรวจสอบว่าเป็นคลิปเสียงสนทนาจริง หรือพบว่ามีการตัดต่อในช่วงใดหรือไม่ และจะต้องมีการสอบปากคำบุคคลที่เชื่อว่าเป็นเจ้าของเสียงประกอบด้วย เพราะเราต้องดูว่าใช่เสียงของเขาจริงหรือไม่ มีมูลความจริง มีความหมายอย่างไร รวมทั้งที่มีการระบุว่ามีตัวกลางนั้น ก็ต้องดูต่อว่าตัวกลางคนนี้ได้มาพบเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ซึ่งในคลิปเสียงดังกล่าวนี้มีบุคคลที่ดีเอสไอจะต้องเข้าไปสอบปากคำภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งถ้าหากนายวรัตน์พล ให้ข้อมูลอย่างไรกับดีเอสไอเกี่ยวกับคลิปเสียง ดีเอสไอก็จะได้นำข้อมูลการให้ปากคำของนายวรัตน์พล มาใช้สำหรับสอบถามกับ น.ส.กฤษอนงค์ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากต้องถาม น.ส.กฤษอนงค์ ว่ากรณีดังกล่าวเจ้าตัวได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเองหรือไม่ หรือได้ให้ตัวกลางบุคคลใดมาแทนหรือไม่
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ส่วนที่ทาง น.ส.กฤษอนงค์ ได้ชี้แจงว่าตัวกลางดังกล่าวได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น ดีเอสไอก็ต้องตรวจสอบว่าเสียชีวิตจริงหรือไม่ ซึ่งหลักการพิสูจน์ให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านนั้น ดีเอสไอต้องเน้นไปที่พยานหลักฐานว่า หากมีการจ่ายเงินจริง จ่ายด้วยวิธีการใด อย่างไรก็ตาม ตนจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ถ้าพบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีเจ้าหน้าที่รายใดกระทำผิดจริง ก็จะต้องดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยต่อว่า สำหรับการฝากขังบรรดา 18 บอสดิไอคอน ขณะนี้เข้าสู่การเตรียมยื่นฝากขังต่อศาลอาญา ผัดที่ 4 ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะเป็นผู้ดำเนินการยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญา อีกทั้งตามกรอบเวลาการฝากขังในคดีฉ้อโกงประชาชนสามารถดำเนินการได้ถึง 7 ฝาก พร้อมยืนยันว่า พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเหมือนเดิม เพราะยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา ปิดท้ายว่า ตนได้ให้นโยบายแก่คณะพนักงานสอบสวนว่าให้ดำเนินการสอบสวนปากคำบรรดาผู้ต้องหาดิไอคอน ที่ยังมีประเด็นสงสัยเพื่อนำเข้าประกอบในสำนวนคดี อีกทั้งในการประชุมทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ เกิดขึ้นเพื่อให้คณะพนักงานสอบสวนได้รายงานความคืบหน้าตามสิ่งที่ได้รับมอบหมายงาน รวมถึงการจัดเตรียมเรียบเรียง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี