nn มาหนักทุกวันหลายพื้นที่ของ กทม.สำหรับฝุ่นพิษมรณะ PM2.5 และช่วงนี้หลายโรงพยาบาลก็เต็มไปด้วยผู้คนป่วยไข้เกี่ยวกับทางเดินหายใจ (ภูมิแพ้) แน่นอนวิกฤตนี้ใน กทม.เกิดจากควันดำของรถเป็นมูลเหตุหลักใหญ่ และเช่นกันเรื่องนี้ทาง ขสมก.ก็ถึงกับทุบโต๊ะเป็นเดือดเป็นร้อนออกมาแบบไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยบอกกล่าวแก่ประชาชนด้วยความเป็นห่วงใยว่า อากาศพิษที่เกิดจากควันดำของรถ ขสมก.นั้น หากประชาชนพบเห็นรถเมล์คันใดวิ่งปล่อยควันดำออกมาให้ช่วยกันแจ้งขสมก.ด้วย อันเป็นการร่วมด้วยช่วยกันเป็นหูเป็นตาดูแลแก้ไข...

nn คำประกาศของ ขสมก.พูดตามเนื้อผ้าต้องบอกว่าเข้าท่าสุดๆ ทีเดียว เพราะฟังแล้วอุ่นใจ คล้ายเหมือน ขสมก.ยุคนี้เข้าใจปัญหาสังคมประชาชนใกล้ชิด ซึ่งมองอีกมุมหนึ่งก็ทำให้รับรู้ได้ว่า ขสมก.เองก็ทราบชั่วดีเกี่ยวกับ รถเมล์ ขสมก.หลายคันยังมีปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” วิ่งปล่อยควันดำสกปรกอยู่การให้ประชาชนแจ้งบอกขณะพบเห็นเป็นสิ่งสร้างสรรค์ น่าชมเชยควรค่าได้รับเสียงปรบมือ แต่โดยหลักแล้วเรื่องนี้หากให้สะเด็ดน้ำจริงๆ ขสมก.ต้องสั่งการตรวจสอบเช็ครถทุกคันทุกอู่ คันไหนคร่ำครึโกโรโกโส เครื่องยนต์เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ต้องไม่นำออกวิ่งเด็ดขาด หรือหากพบอู่ไหนปล่อยรถทรามๆ ออกไป นายท่าประจำอู่ต้องรับผิดชอบ ถ้าทำแบบนี้ได้ร้อยทั้งร้อยปัญหารถเมล์ควันดำจะสูญพันธ์ุหมดถนน ทว่าที่มันยังหลงเหลืออยู่เพียบ เช่น อู่มีนบุรี อู่สวนสยาม รวมตลอดถึงอีกหลายอู่ยังคงหลับหูหลับตาปล่อยออกไป มันค้านกับความตั้งใจของฝ่ายบริหาร ขสมก.อย่างมาก...

nn รถเมล์ ขสมก.ไม่ว่าเก่าหรือใหม่หากปรับปรุงแก้ไขให้ดูดีย่อมไม่ส่งผลกระทบทำให้อากาศในเมืองหลวงเป็นพิษ วันนี้ฝ่ายที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากอากาศเสีย คือ สถานพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน...

nn ส่วนภาพรวมทั้งประเทศ (เมืองใหญ่) นอกจากจะให้เป็นหน้าที่ของพ่อเมืองแต่ละแห่งสำนึกแล้ว ฝ่ายการเมืองก็ต้องใส่ใจมองเห็นความเดือดร้อนดังกล่าวให้ประชาชนสังคมสัมผัสได้ โดยเฉพาะควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม “ขี้เรื้อน” (ปัจจุบันยังเต็มเมือง) การเผาซากทางการเกษตร หรือเผาแบบมักง่ายธรรมเนียมอุบาทว์ที่เกิดขึ้นทุกปีทางภาคเหนือ ปมปัญหาดังกล่าวคนเป็นรัฐมนตรีต้องออกจากถ้ำแอร์ที่จำศีลประกาศิตสั่งการหน่วยงานกรมกองเล่นกันจริงๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่นั่งเป็นรัฐมนตรีชนิดถ้าเรื่องไหนคิดแล้วตนไม่ได้หน้าได้ตาก็วางเฉย ปล่อยให้เมือง หรือท้องถิ่นว่ากันไปตามบุญตามกรรม ซึ่งถ้าใครคิดแบบนี้ถือว่าเป็นรัฐมนตรี “ขี้เดือน” เพราะคนเป็นรัฐมนตรีถ้าเอ่ยอะไรออกมาผู้นำนโยบายไปปฏิบัติย่อมลืมกินข้าวกินน้ำ...nn

ไผ่ฎำ