จับ"ไอ้หงาสุรินทร์"หัวโจกพาเมียและญาติขนยาบ้า 1.6 แสนเม็ด รับก่อนทำงานเสพคนละ 2 เม็ด รวบคาปั๊มหน้าร้านสะดวกซื้อ
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 (ร้อย ตชด.237 กก.ตชด.23) พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) และ รองผู้บัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (รอง ผบ.นบ.ยส.24) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัญยกานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (รอง ผบก.ภ.จว.ฯ) พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม (ผกก.พฐ.ฯ) นายสุรศักดิ์ กันสูงเนิน ป้องกันจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.บ้านแพง แถลงข่าวตรวจยึดยาบ้า จำนวน 160,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน และอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 3 คน บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.บ้านแพง จ.นครพนม เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 67
พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.237 เปิดเผยว่า การพฤติกรรมการจับกุมครั้งนี้ ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยชี้เบาะแสน่าสนใจว่ามีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 3 ฒต 9723 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดรถอยู่ริมแม่น้ำโขงจนผิดสังเกต ในเวลาก่อนฟ้าสางอย่างน้อย 2-3 ครั้ง จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าวฯ (หน.ชปข.ร้อย ตชด.237) เฝ้าระวังและตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว
กระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 18 พย.67 แหล่งข่าวได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า รถยนต์ต้องสงสัยขับวิ่งมาจอดริมแม่น้ำโขง ประมาณ 3 นาทีก็เร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าไปยังถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (ชยางกูร) สายบ้านแพง-นครพนม เจ้าหน้าที่จึงติดตามบนเส้นทางที่คาดว่า รถยนต์คันนั้นจะวิ่งไปทางไหน บังเอิญพบว่าวิ่งไปจอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง แต่ไม่เห็นใครอยู่ภายในรถ จึงซุ่มดูอยู่ประมาณ 10 นาที มีชาย 2 คน และผู้หญิง 1 คน เดินหิ้วของออกจากร้านสะดวกซื้อ แล้วเปิดประตูเตรียมจะสตาร์ทเครื่องอออกไป เจ้าหน้าที่จึงเข้าประกบพร้อมขอตรวจค้น ภายในแค็บมีห่อพลาสติกสีดำวางไว้ จึงเปิดออกดูเป็นยาบ้าอักษร Y1 จำนวน 80 มัดๆละ 2,000 เม็ด รวมเป็น 160,000 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปสอบสวนขยายผลที่ ร้อย ตชด.237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ทราบชื่อผู้ต้องหา ว่า นายอนันต์ชัย จันทรังษี หรือหงา อายุ 29 ปี นายนิติพล พลูเพิ่ม หรือแมน อายุ 33 ปี ทั้งคู่เป็นญาติกันอยู่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และ น.ส.ศิรดา ดียิ่ง หรือมะปราง อายุ 26 ปี เป็นคน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งนายหงายอมรับว่าเป็นหัวโจก แต่ไม่ยอมให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ อ้างเพิ่งทำเป็นครั้งแรก โดยรับจ้างจากนายทุนชาวลาว แต่ยังไม่ได้ตกลงค่าจ้างกัน ในขณะที่นายแมนผู้เป็นญาติ รับว่าทำหน้าที่เป็นคนขับ จึงไม่รู้อะไรมาก โดยได้ค่าจ้างครั้งนี้ 3 หมื่นบาท ส่วนน้องมะปรางเล่าว่า เพิ่งอยู่กินกับนายหงาได้ประมาณ 2 เดือน รู้จักกันในแอพหาคู่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ส่วนนายหงาหัวโจกโดนข้อหาเพิ่ม คือ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีเครื่องกระสุนปืน(ลูกซอง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า แม้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะให้การไปคนละทิศละทาง แต่ที่ให้ปากคำตรงกันคือ ก่อนจะออกมารับยาบ้าที่ริมแม่น้ำโขง เสพยาบ้าคนละ 2 เม็ด และจากประวัติพบว่านายหงาเคยต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว เหตุเกิดในพื้นที่ จ.อุบลฯ ศาลตัดสินจำคุก 25 ปี เพิ่งออกจากคุกได้เพียงปีเศษ ก็หันมายึดอาชีพขนยาเสพติดอีก โดยมีพฤติกรรมว่า นายหงาพร้อมพวกทำหน้าที่นักบิน ถึงขั้นเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ ต.เหล่าปอแดง อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อรอคำสั่งจากนายทุนชาวลาว ให้ขับรถไปรับยาบ้าตรงบริเวณไหน สอดคล้องกับแหล่งข่าวที่พบเห็นรถยนต์คันดังกล่าว มาจอดอยู่ริมแม่น้ำโขงประจำ
ด้าน พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผบ.มทบ.210 กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายเร่งด่วนในการป้องกันปราบปราม การลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศ ตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยสืบสวนหาข่าว ลาดตระเวนช่องทางต่างๆ และตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามจุดเสี่ยง รวมทั้งได้รับความร่วมมือกับภาคประชาชนในพื้นที่ ทำให้สามารถตรวจยึดยาเสพติดปริมาณมาก ซึ่งหน่วยงานความมั่นคง ได้เฝ้าระวังบริเวณชายแดน และพื้นที่เสี่ยงอย่างเข้มแข็งต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี