ศาลสั่งจำคุก-ยึดรถ หนุ่มเทสล่าหัวร้อน ขับปาดบนทางด่วน ปรับ 5 พัน พักใบขับขี่ 6 เดือน ศาลปราณีโทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี บริการสังคม 12 ชั่วโมง กราบขอโทษสังคม-ขอปรับตัวใหม่ ส่วนใบขับขี่ขาด ตร.สั่งปรับ 2 พัน

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ที่ศาลแขวงดุสิต ซ.สีคาม ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 3 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปิติพัฒน์ กาญจนภาณุรัช เป็นจำเลย ในความผิดฐาน "ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น"

กรณีเมื่อคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน 67 จำเลยได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อเทสล่า สีขาว ลักษณะสร้างความหวาดเสียวแก่ผู้ใช้ถนนร่วมทาง บนทางด่วนพิเศษ ก่อนถูกพนักงานสอบสวน กก.2 บก.จร.แจ้งข้อหาดำเนินคดี พร้อมยึดรถยนต์เทสล่า ของกลางในคดีเป็นการชั่วคราว

จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ

พิพากษาความผิดฐานขับรถในลักษณะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดนร้อนของผู้อื่น จำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 56 ให้คุมความประพฤติจำเลยมีกำหนด 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในระยะเวลาดังกล่าว กับให้จำเลยทำงานบริการสังคม หรือสาธารณะประโยชน์ตามที่พนักงานคุมพฤติเห็นสมควร มีกำหนด 12 ชั่วโมง และมีคำสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตขับรถของจำเลย มีกำหนด 6 เดือนนับตั้งแต่วันพิพากษา และให้ริบรถยนต์ของกลางด้วย หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 , 30

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.จร.ได้สั่งปรับ นายปิติพัฒน์ 2,000 บาท ฐานใบอนุญาตขาดอายุไปแล้ว

ทั้งนี้ ก่อนฟังคำพิพากษา นายปิติพัฒน์ กล่าวว่า ตนได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานกับทางคู่กรณี เพื่ออยากที่จะกราบขอโทษกับคู่กรณีและครอบครัว รู้สึกผิดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางคู่กรณีปฏิเสธที่จะพบ โดยตนขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ชี้แจงถึงไทม์ไลน์ ที่ทางสื่อมวลชนหรือสังคมเข้าใจผิด ว่าตนมีเจตนาหลบเลี่ยงความผิด จริงๆ แล้วตนก่อเหตุ คลิปเริ่มลงวันที่ 14 พฤศจิกายน จากนั้นวันที่ 15 พฤศจิกายน ตนก็มารายงานตัววันที่ 16 พฤศจิกายน ตนได้แอดมิดเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากเกิดความเครียด วันที่ 17 พฤศจิกายน ให้ทนายนำรถส่งมอบตำรวจ วันที่ 18 พฤศจิกายน ตนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และวันนี้ก็มาศาล ซึ่งทุกขั้นตอนก็เป็นไปตามกระบวนการ

ส่วนสาเหตุที่ตนแสดงพฤติกรรมการขับรถแบบนั้น เพราะอยู่มีความเครียด เนื่องจากทะเลาะกับแฟนเรื่องเปิด GPS แล้วบอกทางผิด ซึ่งทางคู่กรณีก็ไม่ได้ทำอะไรให้กับตนเลย แต่ตนเสียอีกกลับทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมแบบนั้น ซึ่งหลังจากที่ตนลงจากทางด่วนก็รู้สึกผิด แล้วตำหนิตัวเองว่าทำอะไรลงไป

นายปิติพัฒน์ กล่าวต่อว่า อยากจะกราบขอโทษคู่กรณีที่แสดงกิริยาที่เป็นภัยต่อสังคม หลังจากนี้จะไม่แสดงพฤติกรรมดังกล่าวไม่ว่ากับใครทั้งสิ้น ขอปรับตัวใหม่ และกราบขอโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรถเทสล่าที่มีสีเดียวกัน หรือกลุ่มรถอีวีด้วยกัน กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน และยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา

- 006