'สพฐ.'เดินหน้านำเด็กกลับสู่ระบบการศึกษา ดูแลสุขภาพจิตนักเรียน พร้อมเตรียมของขวัญลดภาระครู-นักเรียน
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ครั้งที่ 46/2567 โดยนำข้อสั่งการของ รมว.ศธ. แจ้งต่อที่ประชุมเพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมี นางเกศทิพย์ ศุภวานิช นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ zoom meeting
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า วันนี้ ที่ประชุมได้ติดตามประเด็น Thailand zero dropout การแก้ปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบและเด็กออกกลางคัน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งนับจากการประกาศ Kick off นโยบาย สพฐ. "พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง" ในการประชุม ผอ.สพท.ทั่วประเทศ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากการดำเนินการสำรวจและติดตามในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ค้นพบเด็กที่หลุดออกจากระบบ และนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ได้มากกว่า 4,000 ราย นอกจากนี้ ยังมีเด็กอีกกลุ่ม คือ เด็กที่มีปัญหาอุปสรรค ไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียน ก็ได้มีการนำการศึกษาไปให้ถึงบ้าน เช่น เด็กที่เป็นคนไข้ต้องรักษาตัวระยะยาวที่โรงพยาบาล หรือเด็กที่มีภาระทางบ้าน มีปัญหาทางเศรษฐกิจ เพราะ สพฐ. ต้องการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษา ไม่ให้มีใครตกหล่นและออกนอกระบบ ให้โอกาสทางการศึกษาเข้าถึงเด็กทุกคนในทุกพื้นที่
เรื่องต่อมา คือ สุขภาพและความปลอดภัยของนักเรียน ได้เน้นย้ำให้ทุกเขตพื้นที่ประสานกับกรมสุขภาพจิตและนักจิตวิทยา จัดทำระบบดูแลนักเรียนให้เข้มแข็ง มีข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มที่มีแนวโน้มเกิดอาการเครียด ต้องมีแนวทางการดูแล ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้น รวมถึง ประเด็นข่าวที่ผู้ปกครองเครียดเนื่องจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เตรียมที่จะปิดตัวเพื่อเปลี่ยนเป็นโรงเรียนนานาชาติ ทาง สพฐ. ก็ได้เตรียมพร้อมโรงเรียนใกล้เคียงไว้รองรับ หากผู้ปกครองมีความประสงค์จะย้ายบุตรหลานไปโรงเรียนอื่นหลังจากที่โรงเรียนนี้ปิดตัวไป โดยเน้นย้ำให้ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลในประเด็นนี้
นอกจากนี้ ยังได้ติดตามเรื่องของ ผอ.โรงเรียนที่มีข่าวทุจริตค่าอาหารกลางวันนักเรียนและพกอาวุธเข้ามาในโรงเรียน ล่าสุดวันนี้ สพฐ. กำลังพิจารณาให้ผอ.คนดังกล่าวเข้ามารายงานตัวที่ สพฐ. เพื่อให้เขตพื้นที่ดำเนินการสอบสวนทางวินัยในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะมีการดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพราะเป็นกรณีตัวอย่างในเรื่องของโครงการอาหารกลางวันและการสร้างสถานศึกษาปลอดภัย ปราศจากอาวุธและการทำร้าย เป็นนโยบายสำคัญและข้อสั่งการของพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเรียนทุกคน
"สุดท้ายคือเรื่องของขวัญวันปีใหม่ ของขวัญวันเด็ก และของขวัญวันครู เราตั้งใจว่าสิ่งใดที่เป็นการลดภาระครู ก็จะให้เป็นของขวัญวันครู สิ่งใดที่เป็นการลดภาระนักเรียนก็จะให้เป็นของขวัญวันเด็ก ซึ่งทาง สพฐ. ยังมีอีกหลายโครงการที่ทำเพื่อเป็นการลดภาระนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ยกตัวอย่างสิ่งที่เป็นของขวัญให้เด็กอย่างชัดเจนตอนนี้ก็คือ Learn to Earn การมีรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มดำเนินการไปบางส่วนแล้ว และอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญจากพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. คือการขับเคลื่อนนโยบาย "เรียนดี มีความสุข" ไปสู่ห้องเรียน ซึ่งตอนนี้กำลังออกแบบว่าจะทำอย่างไรให้นโยบายนี้ลงไปถึงตัวครูและนักเรียน รวมถึงพี่น้องประชาชนด้วย เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี