รองโฆษกราชทัณฑ์เผย “เจ๊พัช–กฤษอนงค์” นอนคุกคืนแรกไม่เครียด ยันดูแลเข้มไม่เจอ“บอสปัน” ด้านดีเอสไอเตรียมเข้าสอบปากคำเจ๊พัชปมคลิปเสียงจ่ายใต้โต๊ะ 10 ล้าน หลังรมว.ยุติธรรมเร่งรัดให้หาตัวคนบงการมาให้ได้ ขณะที่ทนายดิไอคอนเผย 18 บอสทำใจ หลังบอสวินที่ป่วยมะเร็งระยะสาม ขอประกันแต่ศาลยกคำร้อง เหตุมีผู้เสียหาย-มูลค่าความเสียหายมหาศาล เกรงหลบหนี-ไปยุ่งพยาน เดินหน้าเข้าแจ้งความเอาผิดเจ้พัชปมรีด 20 ล้านบอสพอล-บอสปัน ด้าน “บิ๊กเต่า”เผยมีอีก 3 คดีที่กำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดกฤษอนงค์ เช่นเดียวกับ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ” ที่อาจเข้าข่าย “พยายามกรรโชกทรัพย์”
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบนจากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล 7.5 แสนบาทว่า หลังทัณฑสถานหญิงกลางรับตัวน.ส.กฤษอนงค์เข้ามา ได้ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ตรวจสุขภาพ พิมพ์ลายนิ้วมือ ฝากสิ่งของ ให้คำแนะนำเบื้องต้น นำตัวแยกกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 หลังกักโรคจะแยกเรือนนอนตามความเหมาะสมของผู้ต้องขังแต่ละราย
นอนคุกคืนแรกเจ๊พัชไม่เครียด
นางกนกวรรณกล่าวต่อว่า การนอนเรือนจำคืนแรกได้รับรายงานว่า น.ส.กฤษอนงค์ไม่มีอาการเครียดมากนัก พูดคุยกับเพื่อนผู้ต้องขังในห้องกักโรคตามปกติ ปฏิบัติตามคำแนะนำของเรือนจำ ส่วนมื้อเช้าวันนี้ (19 พฤศจิกายน) ผู้ต้องขังตื่นมาทำกิจกรรมของเรือนจำตามปกติ อาหารเช้า คือ แกงจืดวุ้นเส้นหมูสับและข้าวสวย รับประทานได้ปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องขังจะอยู่ในห้องกักโรคจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน ระหว่างนี้จะไม่เจอกับน.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพรหรือบอสปันแน่นอน จากนั้นจะแยกเรือนนอนและการทำกิจกรรม โดยจะมีเจ้าหน้าที่และผู้ช่วยเหลือคอยสอดส่องดูและพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด
ทวีลุยเองล่าคนบงการรับใต้โต๊ะ10ล.
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ผู้ต้องหาคดีตบทรัพย์บอสพอลอ้างว่าเคยให้สินบนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 10 ล้านบาทว่า ตนสั่งอธิบดีดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าเมื่อ 10 ปีก่อนเหตุการณ์เป็นอย่างไร ให้ตั้งคนกลางเข้ามาสอบสวน และคนนอกร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอยุคนี้ต้องทำตามข้อเท็จจริงและหลักฐาน อะไรที่ไม่มีข้อเท็จจริงและหลักฐาน มีพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ ทุกอย่างต้องบันทึกในคำให้การ คนให้การจะให้การจริงหรือเท็จเราไม่รู้ ต้องให้มีพนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจ ซึ่งจะไม่มีผลกระทบกับเจ้าหน้าที่ใดใดทั้งสิ้น
รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือการฝากขังมีระยะเวลาไม่มาก ตนอยากให้อัยการมีระยะเวลาพิจารณาสำนวน ดังนั้นควรส่งสำนวนให้อัยการอย่างน้อยก่อน 15 วัน นอกจากนี้ ขอให้อัยการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาร่วมสอบสวน จะได้เห็นพยานหลักฐาน ส่วนจะสาวถึงผู้บงการได้หรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบได้จากเส้นทางการเงิน พร้อมย้ำว่า “ผมจะเข้าไปเร่งรัดเลย ผมจะไปติดตาม”
DSIเล็งบุกเรือนจำสอบเจ้พัชปมจ่าย10ล.
ขณะที่พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เผยว่า ผู้แทนดีเอสไอไปรับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาของน.ส.กฤษอนงค์กับชายรายหนึ่ง ที่กล่าวอ้างถึงการจ่ายเงิน 10 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาแล้ว และส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วดีเอสไอจะประสานทัณฑสถานหญิงกลางขอเข้าไปสอบปากคำน.ส.กฤษอนงค์ ผู้ต้องหาคือ ข้อเท็จจริงที่พูดในคลิปเสียงสนทนา มีการกล่าวอ้างใดๆบ้าง เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริง
20-21พย.สอบ11บอสดิไอคอนเพิ่ม
ส่วนการสอบปากคำ 11 บอสดิไอคอนนั้น พ.ต.ต.วรณันเปิดเผยว่า เตรียมเข้าไปสอบปากคำบอสชาย 11 คนเพิ่มเติมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ วันที่ 20-21 พฤศจิกายน เพราะที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้ให้การใดๆ ประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยาน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองแทน แต่จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดส่งเอกสารหรือส่งประเด็นที่ต้องการให้ดีเอสไอไปพิสูจน์ ทำให้ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีมติร่วมกันว่าควรเข้าไปสอบปากคำ 11 บอสชายอีกครั้ง เพื่อให้มีถ้อยคำให้การและพยานหลักฐานเข้าสำนวนคดี นอกจากนี้ จะได้สอบสวนปากคำบอสพอลในประเด็นที่เป็นคู่สายสนทนาในคลิปเสียงกับน.ส.กฤษอนงค์เรื่องการจ่ายเงิน 10 ล้านบาทอีกด้วย
พ.ต.ต.วรณันกล่าวอีกว่า การสอบสวนปากคำ 11 บอสชายดิไอคอน วันที่ 20-21 พฤศจิกายนยังเป็นประเด็นเดิมจากการแจ้งข้อกล่าวหาคดีแชร์ลูกโซ่ หรือพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 โดยผู้ต้องหาจะอ้างถึงพยานหลักฐานใดหรือไม่ จะแก้ต่างอย่างไรว่าธุรกิจบริษัท ดิไอคอน ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ เพราะหลักการทำงานของดีเอสไอ ใช้หลักกฎหมายเคร่งครัดโดยฟังความสองฝ่าย
สำหรับการยื่นคำร้องของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษต่อศาลอาญา เพื่อขยายเวลาฝากขัง 18 ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน เป็นผัดที่ 4 นั้น โฆษกดีเอสไอเผยว่า ในส่วน 17 บอสดิไอคอน ยกเว้นบอสพอล จะได้ดำเนินการวันที่ 21 พฤศจิกายน ส่วนวันที่ 22 พฤศจิกายนจะได้ฝากขังบอสพอลต่อศาล เพราะบอสพอล เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ช้ากว่าบอสอื่น 1 วัน
แจ้งความเจ้พัช-ฟิล์มปมเรียก20ล.
วันเดียวกัน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบอสพอล เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมบอสพอลว่า วันนี้ทีมทนายนำหนังสือมอบอำนาจไปให้บอสพอล เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดีกับน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม นักแสดงชาย ปมคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท แลกกับการพาไปออกรายการ โดยช่วงเย็นจะเข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะแจ้งในนามนิติบุคคลคือ ดิไอคอนกรุ๊ป ส่วนคดีหมิ่นประมาทที่หนุ่ม กรรชัย และน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ แจ้งความไว้ จะเป็นพยานในคดีให้ด้วย แม้เป็นคดีคนละชุดกัน โดยเฉพาะคดีของน.ส.จิราพร เพราะคดีนั้นหลักฐานมาจากไฟล์เสียงระยะเวลา 6 ชั่วโมง ที่ดิไอคอนส่งมอบไว้เป็นหลักฐานก่อนหน้านี้ และถูกตัดออกมานำเสนอบางส่วน จนเป็นที่มาให้น.ส.จิราพรเข้าแจ้งความ
นายวิฑูรย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะเข้าไปพูดคุยกับบอสพอล และบอสชายคนอื่นรวม 11 คน กรณีดีเอสไอจะเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งดิไอคอนก็ยินดี แต่ก่อนหน้านี้ขอทำคำให้การเป็นหนังสือภายใน 15 วันไว้แล้ว
18บอสทำใจศาลไม่ให้ประกันบอสวิน
ทนายวิฑูรย์กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายความยื่นประกันตัวนายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์หรือบอสวิน โดยแนบใบรับรองแพทย์ และยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการขอประกัน เพราะตัวบอสวิน ป่วยเป็นมะเร็งระยะ 3 มีความสุ่มเสี่ยงมาก ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ แต่ปรากฏว่าหลังนำคำร้องไปพิจารณา ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยไม่ถามว่าใบรองแพทย์เป็นมาอย่างไร โดยให้เหตุผลเหมือนกับสามบอสดาราว่า มีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก เกรงจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับมีการค้านประกันจากผู้เสียหายและพนักงานสอบสวน ฉะนั้น หลังจากนี้ก็เลิกคิดไปได้เลย ที่จะยื่นประกันตัวแล้ว เพราะขนาดเป็นมะเร็งยังไม่ได้ อย่างไรก็ตาม บอสทั้ง 18 คนไม่ได้ขวัญเสีย ตอนนี้ปรับตัวได้แล้ว และแต่ละคนไม่คิดว่าจะได้ประกันอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้เพื่อนที่ป่วยหนักออกไปก่อน จากนี้จะรอความเห็นจากแพทย์ราชทัณฑ์ และจะยื่นประกันตัวบอสวินอีกครั้ง
ทนายวิฑูรย์กล่าวด้วยว่า ส่วนบอสคนอื่นที่เหลือ น่าจะรอจนครบ 7 ฝาก ก่อนส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนแล้วจะยื่นประกันตัวในขั้นตอนนั้น แต่หากดีเอสไอไม่ค้านประกันตัว ในระยะเวลาการฝากขังช่วงท้าย ก็จะพิจารณายื่นเลยเช่นกัน ยอมรับว่ามีแนวคิดอยากขอให้กรมราชทัณฑ์นำบอสวินไปคุมขังที่โรงพยาบาลด้านนอกแทนด้วย เพราะทุกวันนี้บอสวินอยู่แดน 1 มีออกมาหาหมอบ้าง เพราะมีใบรับรองแพทย์ อาการขณะนี้เกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งเพิ่งส่งไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์
“เจ้พัช”อ่วม3คดีจ่อคิวดำเนินคดี
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนคดี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคลิปเสียงตบทรัพย์ผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอนว่า ได้รับการประสานมาจากนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พลหรือบอสพอลและบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปว่า ได้ไปพบน.ส.ปัญจรัศม์หรือบอสปัน ให้เซ็นมอบอำนาจก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีวันนี้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นประชุมคณะทำงานไปแล้ว พบว่า คดีที่เหลือของน.ส.กฤษองค์มี 3 คดีคือ คดีแรก ปมคลิปเสียงเงิน 20 ล้าน คดีที่ 2 คือ คดีหมิ่นประมาท ที่มีคลิปเสียงพาดพิงถึงน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ3.คดีคลิปเสียงหมิ่นประมาทหนุ่ม กรรชัย ซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานพยายามให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน โดยตำรวจจะเร่งเข้าไปสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในเรือนจำด้วย
“ฟิล์ม”ลุ้นเข้าข่ายพยามยามกรรโชกทรัพย์
ส่วนกรณีที่มีนายรัฐภูมิหรือฟิล์มเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องคลิปเสียงตบทรัพย์ 20 ล้าน แลกกับการพาไปออกรายการนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติเผยว่า อยู่ที่ข้อกฎหมาย และพยานหลักฐานที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นคลิปเสียงของเจ้าตัวจริงหรือไม่ แต่จากพยานหลักฐานที่รวบรวมมา เชื่อว่ามีมูล ส่วนเรื่องข้อหาจากการพิจารณาเนื้อหาคลิปเสียงแล้วอาจเข้าข่ายข้อหา พยายามกรรโชกทรัพย์ หากชัดเจนในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกับน.ส.กฤษอนงค์ หากแจ้งข้อหาได้จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เพราะขณะนี้เจ้าตัวถูกฝากขังไม่ได้รับการประกันตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี