สุดสยอง!!! "หมีควายยักษ์"เขาใหญ่เข้าตะปบลุงวัย 75 ปีขณะออกหาปลาบาดเจ็บสาหัสใบหน้าเหวอะ-ตาหลุด เผยนาทีสู้เอาชีวิตรอด แต่โดนเล่นงานจนล้ม ก่อนหนีเข้าป่าไป จึงออกมาขอความช่วยเหลือจนหมดแรงล้มลง ก่อนชาวบ้านมาเจอเข้าช่วยเหลือ 

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 19 พ.ย.67 หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากการถูกหมีควายทำร้าย อาการสาหัสในพื้นที่หมู่ 14 บ้านเนินสูง ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปช่วยเหลือ

เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมุงดูเหตุการณ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกหมีควายทำร้าย ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงเร่งให้การช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บเริ่มมีอาการหายใจรวยริน ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอย่างเร่งด่วน ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมา ชื่อนายก้าว บุตรศรี อายุ 75 ปี บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่  ม.14 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี

จากการสอบถามชาวบ้าน  เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพัก ตามเส้นทางอ่างเก็บน้ำคลองไม้ปล้อง พบคนเจ็บนอนอยู่ข้างทาง จึงได้ลงไปดู  พบว่าคนเจ็บมีบาดแผลที่ใบหน้า จนลูกตาหลุดออกมา จึงได้พยายามพูดคุยสอบถาม ทราบเบื้องต้นว่า คนเจ็บเป็นชาวบ้านบ้านเนินสูง ได้เข้าไปเก็บลอบดักปลา ตามหนองน้ำที่ตนเองวางไว้ช่วงเช้า ซึ่งเป็นพื้นที่ของชาวบ้านที่อยู่ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

โดยในขณะที่กำลังเก็บลอบดักปลา ได้พบหมีควายตัวขนาดใหญ่ ตรงเข้ามาทำร้ายตนเอง ก่อนที่ตนเองจะพยายามสู้กับหมีเพื่อเอาตัวรอด แต่ถูกตะปบบริเวณใบหน้าจนล้มลง หมีจึงได้หนีเข้าป่าไป ตนเองจึงได้ถือมีด และจูงรถจักรยานออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เดินมาได้สักพัก เริ่มรู้สึกไม่ไหว จึงทิ้งรถจักรยานไว้ข้างทาง ก่อนที่จะเดินเท้าต่อมาเรื่อยๆ จนหมดแรงล้มลง ชาวบ้านที่มาพบจึงรีบโทรแจ้งให้กู้ภัยฯ เข้ามาช่วยเหลือ

ต่อมาชาวบ้านจึงได้ประสานไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทราบ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และได้มีการแจ้งเตือนชาวบ้าน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวก็มักจะมีสัตว์ป่า โดยเฉพาะหมีควายลงมาหาอาหารอยู่เป็นประจำ หากชาวบ้านที่จะเข้าไปในพื้นที่ป่ารกร้าง ต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้หมีควายเริ่มลงมาหาอาหารในพื้นที่ชาวบ้านมากขึ้น ซึ่งมาตการต่อไป อาจจะต้องมีการนำกรงมาดักไว้ในพื้นที่ที่ชาวบ้านพบร่องรอย หรือพบเห็นบ่อยครั้งต่อไป