‘ทนายบอสพอล’จ่อขยายคำให้การ DSI เพิ่ม15 วัน เข้าระบบไล่เช็คบิล‘ผู้เสียหาย’ปลอม
20 พฤศจิกายน 2567 ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แขวงลาดยาว กรุงเทพฯ นายวิฑูรย์ เก่งงาม ทนายความของนายวรัตน์พล หรือบอสพอล ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าเยี่ยมบอสพอล ว่า การที่พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสอบปากคำ 11 บอสชายนั้น วันนี้ไม่ใช่นัดแรก หนังสือ 2 คำให้การที่ส่งให้ดีเอสไอในส่วน 2 ข้อหา คือ ผิดพ.ร.บ.ฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้เคยสอบปากคำก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดเนื้อหาในพฤติการณ์คดี ทางเรายังไม่เห็นว่าตามที่ผู้กล่าวหาแต่ละคนที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายมีพฤติการณ์อ้างว่าเราฉ้อโกงอย่างไรบ้าง และเรายังไม่เคยเห็นรายชื่อ ซึ่งรู้จักเพียงคนเดียวคือนายณัฐ ที่ชื่อแจ้งความอยู่ในลำดับแรก นอกนั้นเราไม่รู้จักใครเลย ซึ่งวันนี้อาจจะเป็นเรื่องดีที่ได้รู้จักคนหมื่นกว่าคน
ทั้งนี้ เมื่อเปิดชื่อมา ทางเราจะเข้าไประบบบริษัทเปิดดูข้อมูลว่าเป็นผู้เสียหายจริง หรือไม่จริง ซึ่งคนที่สั่งซื้อสินค้าและเบิกของไปแล้ว ถ้าเขาขายไม่ได้ก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว ส่วนพวกจ่าย 2,500 บาท ก็เป็นพวกซื้อของไว้กิน ไว้ใช้ จะเป็นผู้เสียหายได้อย่างไร ส่วนคนกลุ่มที่ 3 มาซื้อสินค้าเพราะแม่ทีมอาจจะไปการันตีหรืออะไรต่างๆก็จะเป็นเรื่องของเขา จะไม่เกี่ยวกับบอสทั้ง 18 คน
นายวิฑรูย์ กล่าวว่า ทราบว่าดีเอสไอมา 2วัน ซึ่งยังไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไร หากอะไรตอบได้ก็ตอบก่อน และถ้าอะไรไม่อยากตอบ ก็ไม่ต้องตอบและส่งเอกสารชี้แจงภายหลังได้
ส่วนการชี้แจงกับดีเอสไอก่อนหน้านั้นครบถ้วนหรือยัง นายวิฑรูย์ กล่าวว่า ยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากถูกจับก่อนและค้านประกันตัว แล้วจึงมาสอบปากคำภายหลัง แต่ในวันนี้น่าจะชี้แจงครบถ้วน ซึ่งมีประเด็นอีกเยอะที่ดีเอสไอจะต้องเอามาถาม แต่คาดว่าวันนี้น่าจะครบทุกประเด็น และเชื่อว่ามีหลายประเด็นที่ดีเอสไอจะต้องมาถาม
ส่วนกรณีที่จะส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรของผู้ต้องหาที่ดีเอสไอวางกรอบไว้ 15 วัน ภายในวันที่ 3 ธันวาคม นี้ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ทางทีมทนายความเป็นผู้จัดทำ แต่คงจะต้องมีการขอขยายเวลาไปก่อน เพราะการต่อสู้คดีทางเอกสารไม่ได้มีเพียง 1-2 แผ่น แต่ยังมีระบบคอมพิวเตอร์ที่จะต้องเปิดอีก ซึ่งคนที่รู้ข้อเท็จจริงมากที่สุด คือผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย ที่อยู่ในเรือนจำ ทำให้ทนายเข้าออกเรือนจำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและส่งผลให้การต่อสู้คดีเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยผู้ต้องหาทุกคนได้ขอขยายเวลาออกไป แต่ยังไม่ได้ยื่น เพราะยังไม่ครบตามกำหนดกรอบระยะเวลา โดยสามารถขอขยายได้ครั้งละ 15 วัน แต่ก็คงไม่ได้ “เกเร” ขยายไปไกล เพื่อเปิดโอกาสให้เรามีเวลาได้ชี้แจงอะไรให้มากกว่านี้อีกหน่อย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากดีเอสไอจะสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ ผู้ต้องหาพร้อมจะชี้แจงหรือไม่ นายวิฑูรย์กล่าวว่า บางคำถามเราสามารถตอบได้ แต่บางคำถามต้องใช้รายละเอียดทางเอกสาร ซึ่งก็ต้องขออนุญาตส่งเอกสารตามไปภายหลัง
ส่วนข้อหาฉ้อโกงทีมทนายพยายามส่งรายละเอียดไปค่อนข้างเยอะแล้ว ตั้งแต่คดียังอยู่ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถ้าหากตอบได้ก็จะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้
ส่วนแนวทางการยื่นประกันตัว ยอมรับว่า มีแนวทางในการยื่นขอประกันตัว แต่โอกาสยกคำร้องสูง และผู้เสียหายในคดี ก็ได้ยื่นศาลขอคัดค้านการประกันตัว ซึ่งจะต้องมีการหารือกับทีมทนายก่อนว่า จะมีการวางแผนยื่นประกันตัวเมื่อไร
ส่วนกรณีที่ทางดีเอสไอ จะเข้าไปสอบปากคำบอสพอล กรณีคลิปเสียงที่เป็นคู่สายสนทนากับนางสาวกฤษอนงค์ มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากเป็นเรื่องคลิปเสียงต้องบอกตามตรงว่า บริบทในวันนั้นพูดกันหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องของการแอบบ้างนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และการจ่ายสินบนให้กับทางดีเอสไอ ซึ่งบอสพอลยืนยันว่า นางสาวกฤษอนงค์มีการพูดจริงตามที่ปรากฏในคลิป และยืนยันว่าไม่ใช่คลิปที่มีการตัดต่อ รับเป็นสิ่งที่เขาพูดขึ้นมาเอง โดยจบที่เราได้จ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย 89 คน
ส่วนเมื่อวานนี้ ที่เดินทางไปแจ้งความกรณีคลิปเสียง 20 ล้านบาท นายวิฑูรย์ ระบุว่า ตนได้เข้าไปแจ้งความอย่างเดียวยังไม่ได้ให้ปากคำ เพราะทางกองบังคับการปราบปรามยังติดคดีที่เป็นคลิปเสียงของนางสาวจิราพร และเราจะดำเนินการให้ปากคำโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ทันระยะกรอบเวลาที่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เปิดเผยไว้ว่าขอเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน
ส่วนกรณีกลุ่มที่อ้างตนว่าเป็นผู้เสียหาย 89 คน นายวิฑูรย์ บอกว่า อาจไม่ใช่ผู้เสียหายจริงทั้งหมดซึ่งหากตรวจสอบได้ก็จะดำเนินคดีแจ้งความเท็จภายในต้นเดือนธันวาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งมั่นใจว่า อาจจะไม่ใช่ผู้เสียหายทั้งหมด
ส่วนผู้เสียหายที่มากับทีมทนายความอเวนเจอร์สจะมีการตรวจสอบด้วยหรือไม่ เรื่องนั้นต้องไว้ก่อนเพราะเป็นเนื้อหาคดีหากพูดออกไปอาจเป็นการข่มขู่พยาน
นายวิฑูรย์ยืนยันว่า สิ่งที่ตนเองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบอสในการยื่นขอประกันตัวไม่ได้มีเจตนาในการละเมิดอำนาจศาลแต่ตามรัฐธรรมนูญมีการบัญญัติในเรื่องของการให้ประกันตัว จึงขอฝากให้ศาลยุติธรรมพิจารณาในเรื่องนี้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี