รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...
ผ่านไปแล้วเกือบ 1 เดือนกับ คดีการปลิดชีพของ พิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม หรือนายกอาร์ม นายกเทศบาลตำบลรือเสาะ จ.นราธิวาส และนายกสมาคมกีฬาจังหวัดนราธิวาส ที่เจ้าหน้าที่ยังไม่แถลงความคืบหน้า ของการจับคนร้าย รวมทั้งการปลิดชีพ ของนายกอาร์ม มาจากสาเหตุอะไร เรื่องนี้ ประชาชน กำลังจับจ้องไปยัง พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ด้วยความสงสัย ทำไมคดีนี้จึงเป็นไปด้วยความล่าช้า ยิ่งกว่าการคืบคลานของหอยทาก ทั้งที่ในการสืบสวนในทางลับ รู้ว่ามีหนอนบ่อนไส้ในโรงงานแฮนด์อินแฮนด์ ทำหน้าที่ส่งข่าวให้กับมือสังหารให้เข้ามาปลิดชีพของนายกอาร์ม ที่มาประชุมในห้องประชุมของโรงงาน แฮนด์ อิน แฮนด์ รวมทั้งรู้ว่ามือสังหารทั้งหมด มาจากหมู่บ้านใดของ ต.รือเสาะ และรู้ด้วยว่าสาเหตุมาจากเรื่องอะไร และใครเป็นผู้บงการ เรื่องนี้ถ้าจับใครไม่ได้ โดยปล่อยให้คนดีๆ อย่างนายกอาร์มตายฟรี ทั้ง พล.ต.ต.ไมตรี สันตยานุกุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และ พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ต้องพิจารณาตนเอง.....
ในส่วนของ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องการข่าว ในพื้นที่ของรือเสาะ และความพร้อมของกองกำลัง ในการติดตามตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มอัมรัน แมเราะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปลิดชีพของนายกอาร์ม วันนี้ทั้งแนวร่วม และกลุ่มมือสังหาร หลังเสร็จงานได้หลบหนีไปหลบซ่อน นอกพื้นที่แล้วก็จริง แต่ไม่นานก็จะกลับมา ตามลักษณะของขบวนการบีอาร์เอ็น ดังนั้น จึงอย่าพลาดในการเข้าปิดล้อม และตรวจค้นเพื่อจับกุม ที่สำคัญสิ่งที่ต้องการเห็นคือการทำให้รือเสาะ เป็นพื้นที่ปลอดอิทธิพลของขบวนการบีอาร์เอ็น ด้วยจำนวนกองกำลังติดอาวุธ ที่มีอยู่ จำนวน 36 คน และสต๊าฟ อีก 12 คน ถ้าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เอาจริง ก็ต้องมีแนวทางของความสำเร็จ...
ที่สำคัญ ในฝ่ายปกครองของจังหวัดนราธิวาส การแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งนี้ กรมการปกครองมีการแต่งตั้งให้ วิชาญ ไชยเศรษฐสัมพันธ์ อดีตนายอำเภอรือเสาะ มาทำหน้าที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ด้วยประสบการณ์ที่เคยทำงานการข่าว และเป็นนายอำเภอในพื้นที่รวมทั้งเป็นผู้ที่มีมาตุภูมิ ในจ.นราธิวาส น่าจะเป็นกำลังหลัก ในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหาร ในการจัดการกับกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ของรือเสาะ ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย.....
ล่าสุด พล.ท.สุรเทพ หนูแก้ว ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำสื่อส่วนกลาง ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อการรับรู้สถานการณ์ความเป็นจริงของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะสนับสนุนงานการข่าว ให้สื่อมวลชนส่วนกลางได้เห็นได้รู้ข้อเท็จจริง จะได้ไม่กลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง (บางกลุ่มบางพรรค) และเอ็นจีโอ รวมทั้งปีกการเมืองของบีอาร์เอ็น ที่แฝงกายภายใต้ชื่อภาคประชาสังคม ในการบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้สื่อส่วนกลางเข้าใจผิด ในเรื่องของสถานการณ์ของไฟใต้ ที่สื่อ (บางคน) ยังมองว่าปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาจากเรื่องความไม่เป็นธรรม ที่คนมุสลิมในพื้นที่ได้รับการปฏิบัติจากข้าราชการ ทั้งที่โดยข้อเท็จจริง คนมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการดูแล และเอาใจใส่ รวมทั้งได้รับสิทธิพิเศษ มากกว่าคนไทย-พุทธ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นานัปการ จนเป็นเหตุให้คนไทย-พุทธน้อยใจ และเห็นว่าวันนี้ไทย-พุทธในจังหวัดชายแดนภาคใต้คือคนกลุ่มน้อย ที่ขาดความเท่าเทียม กับคนมุสลิม ที่กลายเป็นส่วนใหญ่ในพื้นที่ ก็หวังว่าการที่ เดอะจ้อย พล.ท.สุรเทพหนูแก้ว ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กอ.รมน. นำสื่อส่วนกลาง ลงพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับการดับไฟใต้ โดยงบประมาณไม่สูญเปล่าอย่างที่เคยเกิดขึ้น...
งานกาชาดสงขลาที่จะถึงในปีหน้านี้ ชาวสงขลาอยากให้ภายในงานกาชาด ประจำปี’68 ไม่ควรจะเปิดให้มีการเล่นการพนันที่มอมเมาเด็กและเยาวชน ควรจะจัดในด้านการแสดง การเปิดร้านขายของ และสวนสนุกอื่นๆ การที่จัดให้มีการเล่นการพนันแบบปาโป่ง ปาเป้า บิงโก้ ลูกแก้ว หยิบสลาก หมุนลูกศร ซึ่งเป็นการพนันบางชนิดสามารถขออนุญาตให้มีการเล่นได้ แต่ก็ไม่ควรให้เด็กและเยาวชนเข้าไปเล่นการพนัน ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้รู้จักการเล่นการพนันตั้งแต่เด็กๆ เรื่องนี้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าฯป้ายแดงของสงขลา ควรพิจารณาให้ดีๆ...ส่วนงานสวนสนุก และงานขายสินค้าที่เปิดหลายๆ วัน ท่านผู้ว่าฯสงขลา ก็ควรสั่งการให้นายอำเภอไม่ควรอนุญาตให้เปิดให้มีการเล่นการพนันข้างต้นด้วยครับ...บุหรี่เถื่อนทะลักขายในภูเก็ต เปิดกว่า 100 แห่ง ซื้อง่าย ขายคล่อง ในแหล่งท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ทำมองไม่เห็น หรืออย่างไร...นี่ก็ขนด้วยรถกระบะ รถเก๋ง รถหัวลาก ดัดแปลงถังลับขนน้ำมันเถื่อนออกทางชายแดนด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา วันละไม่รู้กี่แสนลิตร รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีน้ำมันเถื่อน ปีละหลายๆ ล้านบาท แต่แปลกด่านศุลกากรสะเดา กลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน...
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี