เหตุระเบิดแคมป์คนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันไม่มีความขัดแย้งระหว่างศาสนา เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสล่าตัวผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านผวาเกิดขึ้นครั้งแรกและหนักมาก ล่าสุดอพยพคนงานภายในแคมป์ประมาณ 90 คนออกทั้งหมดแล้ว  เผยเบื้องหลังเคยมีการคัดค้านการก่อสร้างมาแล้วเมื่อปี65

20 พ.ย.67 ความคืบเหตุการณ์ลอบวางระเบิด 2 ลูก ภายในแคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม ในพื้นที่้บ้านปากบางสะกอม หมู่ 1  ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้คนงานบาดเจ็บ3คน ก่อนที่จะระเบิดซ้ำอีก 2 ลูก บริเวณเส้นทางเข้าห่างจากจุดแรกราว 400 เมตรแต่เจ้าหน้าที่ปลอดภัย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ระเบิดซ้ำ 2 ลูกทางเข้าแคมป์สร้าง‘เจ้าแม่กวนอิม’ ยกระดับความปลอดภัยสูงสุด 4 อำเภอ‘สงขลา’)

ล่าสุด สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีการกั้นพื้นที่บริเวณจุดระเบิดทั้งสองจุดเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่และเก็บหลักฐานอีกครั้ง โดยมีการวางกำลังจุดตรวจของชุดความมั่นคงตำบลฐานเกาะสะบ้าเพื่อดูแลพื้นที่การเข้าออกบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นระเบิดทั้ง 4 ลูกเป็นระเบิดชนิดใด เพราะยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้

ในขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนทั้งของ สภ.เทพา และชุดสืบสวนของตำรวจภูธ รจ.สงขลา และชุดสืบสวนจากตำรวจส่วนหน้า ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและสืบสวนสอบสวนหาเบาะแสกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อาจจะเข้ามาก่อเหตุวางระเบิดในครั้งนี้ แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นกลุ่มใด

สำหรับพื้นที่ภายในแคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมนั้น ได้มีการอพยพคนงานภายในแคมป์ประมาณ 90 คนออกทั้งหมดแล้ว เป็นคนเมียนมา 50 คนและ คนไทย 40 คน ในจำนวนนี้เป็นคนในพื้นที่ซึ่งเป็นหัวคนงาน 1 คนด้วย และต้องหยุดก่อสร้างชั่วคราวจนกว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและมีการเคลียร์พื้นที่จนปลอดภัย

ส่วนกลุ่มนักเรียนชั้นประถม และ ม.ต้นของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาที่มาเข้าค่ายลูกเสือสองวันระหว่าง 20-21 พ.ย.ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุระเบิดได้มีการขนนักเรียนด้วยรถโรงเรียนและรถทหารออกจากพื้นที่แล้วโดยนักเรียนต่างขวัญเสีย

ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนเสียขวัญและตกใจกับเหตุระเบิด 4 ลูกซ้อนที่เกิดขึ้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เกิดระเบิดขึ้นในพื้นที่ ที่สำคัญเศษชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กจากแคมป์ก่อสร้างก็ลอยมาไกลกว่า 500 เมตร จากแรงระเบิดและพุ่งมาชนเสาบ้านของชาวบ้านโชคดีที่ไม่โดนคน

นายหมู่ใหญ่ วิรัช ยะนายเดิม เจ้าหน้าที่ อส รองหัวฐาน ชคต.เกาะสะบ้า กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่7โมงเช้าโดยเกิดขึ้นสองลูก ซึ่งเกิดขึ้นภายในแคมป์คนงานก่อสร้างก่อนจึงประสานกำลังฝ่ายปกครองตำรวจและทหารลงพื้นที่ และมีการสแกนพื้นที่จากถนนสาย43ซึ่งเป็นสายหลักเข้ามาแต่ไม่พบระเบิด และยังไม่พบบุคคลต้องสงสัย จากนั้นราว10โมงครึ่งระเบิดลูกที่สามดังขึ้นห่างจากจุดตรวจราว300เมตรและลูกที่สี่ตามมาอีกราว5นาที แต่เจ้าหน้าที่ปลอดภัยแค่หูอื้อ2คน มีเพียงคนงานในแคมป์ 3 คน

นายหัสชัย มากมณี ผู้ช่วย ม.1บ้านสะกอม กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในพื้นที่และถือว่ารุนแรงที่สุด ทำให้ชาวบ้านบางส่วนอาจจะหวาดกลัวบ้าง เหตุการณ์นี้มีการแจ้งเตือนมาก่อนแล้วว่าให้ระวังพื้นที่และมีการจัดชุดลาดตระเวนตอนกลางคืนแต่ก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด ฝ่ายปกครองในพื้นที่ไม่ได้ประมาท

ด้าน นายไซยาดี เด็นยี่ ผู้ช่วย ม.1 สะกอม กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมเพราะสร้างมาแล้วกว่า1 ปี แม้ว่าก่อนการก่อสร้างเมื่อปี 65 ชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านไม่ให้ก่อสร้างก็ตาม แต่หลังจากนั้นมาก็ไม่มีความขัดแย้งอะไรชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นชาวมุสลิม90เปอร์เซ็นและไทยพุทธอีก10 เปอร์ก็อยู่กันแบบพี่น้อง แต่จะเป็นเหตุจากความมั่นคงหรือไม่นั้นก็ไม่กล้าฟันธง

สำหรับการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิ่มแห่งนี้ว่ากันว่า ตามโครงการจะสร้างให้เป็นองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และเมื่อเมื่อวันที่ 4 ส.ค.65 ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาและอิหม่ามทุกมัสยิดในจ.สงขลา ได้นัดรวมชาวมุสลิมใน จ.สงขลากว่า 4,000 คน มาร่วมกันละหมาดฮายัตที่หน้ามัสยิดตักญัดุลอาบีดีน (ปากบางสะกอม) ม.1 ต.สะกอม อ.เทพา เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการคัดค้านไม่ให้มีการสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขึ้น ซึ่งครั้งนั้นให้เหตุผลว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และมีเบื้องหลังการก่อสร้างครั้งนี้ที่มิใช่ด้วยหัวใจที่ศรัทธาที่บริสุทธิ์ แต่มีทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่ว่าภายหลังก็เริ่มมีการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ขึ้นโดยดำเนินการก่อสร้างมากว่า 2 ปี จนกระทั่งมาเกิดเหตุลอบวางระเบิดขึ้น