สองบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ไทย-จีนจับมือพัฒนาโรงผลิตไฟฟ้าขยะชุมชนขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของโลกนำร่องที่กาญจนบุรีเป็นอันดับแรก
นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ที่อาคารสำนักงาน Aurorean Recovery Co.,Ltd.นครกวางโจว ประเทศจีน บริษัท Vision Inspector and Engineering Co., Ltd. และนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย ที่มีนายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย และกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม พร้อมด้วยคณะทำงาน ประกอบด้วยนายวิศรุต ฤทธิเลิศ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพิเศษ นายฉัตรชัย ทรัพย์ศรีสุวรรณ์ ผู้จัดการฝ่ายประสานงานภาครัฐและภาคเอกชน นายมนูญ เพิ่มพิณทอง ผู้จัดการฝ่ายงานเชี่ยวชาญด้านเทคนิคพิเศษและเครื่องกล นายณัฐวรกานต์ ภรญ์รัฐนันฐ์ ผู้จัดการฝ่ายภาควิศวกรรมไฟฟ้าและวัดคุม และนายมาโนช วังนาค ผู้จัดการด้านอาคารและสถานที่ ได้ร่วมมือจัดทำบันทึกข้อตกลงการพัฒนาโรงผลิตไฟฟ้าขยะชุมชน ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ กับบริษัท Aurorean Recovery Co.,Ltd ประเทศจีน โดย Mr.Thomas Jing ประธานบริหาร บริษัทในเครือ Aurorean Energy (china)พร้อมฝ่ายบริหาร
โดยทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือจัดทำบันทึกข้อตกลงการพัฒนาเทคโนโลยยีและการเปิดตลาดพลังงานภายใต้ชื่อ Waste To Energy (Thai-China) ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนด้วยระบบ Gasification เป็นการทำงานด้วยระบบการเผาด้วยความร้อนสูง ขนาด 1,000-1,200 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ซึ่งเตาเผาขยะนี้จะทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้า โดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ มลพิษกับสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ไม่ก่อให้เกิดสารไดออกซิน (สารก่อมะเร็ง) ปราศจากของเสียและกลิ่นทุกกรณี
จุดเด่นของการพัฒนาเตาเผาขยะ พลังงานไฟฟ้าชนิดนี้ เป็นการเผาขยะด้วย ระบบแกนการหมุน 360 องศา ตลอดเวลาเผา ทำให้การเผาขยะ มีคุณภาพสูงสุด หลังเสร็จสิ้นกระบวนการผลิตไฟฟ้าในแต่ละวันจะมีวัสดุตะกอน ที่มีคุณสมบัติเป็นวัสดุก่อสร้างแบบอัดแรง วัสดุถมที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ พลังงานที่เหลือจากการควบแน่นของระบบกังหันไอน้ำมีความร้อน ความเย็น ซึ่งสามารถควบคุมในระดับที่ติดลบกว่า 10 องศา การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงนี้สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งที่เป็นการกำจัดขยะและของเสีย แต่สามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี
นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานกรรมการบริหารฯและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการ จะนำเทคโนโลยีดังกล่าว เข้ามาในประเทศไทย เพื่อกำจัดขยะแบบถาวรและสร้างพลังงานไฟฟ้าทดแทนทั่วประเทศ ทั้ง อบจ. อบต เทศบาลต่างๆ โดยเริ่มนำร่องที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นอันดับแรก เพื่อสนับสนุนร่วมพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ รองรับนักท่องเที่ยวและการเปิดด่านชายแดนไทยบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,350 ล้านบาท
ทั้งส่วนค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งเครื่องจักรผลิตกระแสไฟฟ้า ขนาด 6 เมกะวัตต์ สามารถกำจัดขยะได้วันละไม่น้อยกว่า 500 ตัน และจะดำเนินการในด้านธุรกิจนี้ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่องประกาศรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน พ.ศ. 2565 และคาดว่าโครงการต้นแบบจะสามารถทำให้แล้วเสร็จภายในไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันร่วมมือทางธุรกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี