เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทั้ง 14 เขื่อนของกรมเจ้าท่าที่บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและช่วยป้องกันคลื่นซัดเข้าหาฝั่งในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านทั้งที่บ้านบ่ออิฐและบ้านเก้าเส้งนำเรือขึ้นมาจอดบนชายหาดบ่ออิฐได้ โดยไม่ต้องกลัวถูกคลื่นซัด ในขณะเดียวกันอุตุใต้ยังคงแจ้งเตือนฝนตกหนักและคลื่นลมแรงต่อไปอีก
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกประกาศฉบับที่ 6 (56/2567) เรื่อง คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยและฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ระหว่างวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2567)
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณ ภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2567 ดังนี้
เมื่อวานนี้ 22 พฤศจิกายน 2567 มีฝนหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร มีฝนหนักหลายพื้นที่และมีฝนหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 มีฝนหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่ เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด
จากสภาพคลื่นลมแรงติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 จนถึงวันนี้ ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ทั้ง 14 เขื่อนของกรมเจ้าท่า ตั้งแต่บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงบ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและช่วยป้องกันคลื่นพัดเข้าหาฝั่งในช่วงฤดูมรสุมตะวันออก เฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านทั้งที่บ้านบ่ออิฐและบ้านเก้าเส้งนำเรือประมงพื้นบ้านกว่า 30 ลำ ขึ้นมาจอดบนชายหาดบ่ออิฐได้ โดยไม่ต้องกลัวถูกคลื่นซัด เนื่องจากเขื่อนแห่งนี้ ทางกรมเจ้าท่าจัดงบประมาณมาทำการซ่อมเขื่อนฯ ที่ชำรุดจากการถูกคลื่นซัดช่วงฤดูมรสุมปีที่ผ่านมาทุกปี เพื่อให้เขื่อนอยู่ในสภาพที่แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกของคลื่นลมแรงในช่วงฤดูมรสุมฯ
สำหรับเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว จำนวน 14 เขื่อน ระยะทาง 5 กิโลเมตร กรมเจ้าท่าได้ทำการก่อสร้างเมื่อปี 2549-2550 งบประมาณ 319 ล้านบาท ตัวเขื่อนแต่ละเขื่อน มีความยาว 200 เมตร สันเขื่อนกว้าง 4 เมตร มีระยะห่างระหว่างตัวเขื่อน 150 เมตร โดยก่อสร้างจากชายฝั่งบริเวณบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากบริเวณนี้ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งที่มีความรุนแรงมาก ในพื้นที่ของจังหวัดสงขลา และในปี 2556 กรมเจ้าท่าได้รับ งบประมาณ 150 ล้านบาทในการซ่อมแซมเขื่อนที่ชำรุดจากการถูกคลื่นลมมีกำลังแรงซัดกระหน่ำ และสร้างเพิ่มเติมพร้อมกันไปด้วย โดยลดช่องว่างระหว่างเขื่อนที่ก่อสร้างไว้เดิมให้น้อยลง จากเดิม 150 เมตร ให้เหลือประมาณ 80-90 เมตร และเพิ่มโครงสร้างในระหว่างช่องว่าง เพื่อปิดไม่ให้น้ำทะเลเข้ามามากเหมือนที่ผ่านมา
ปัจจุบันนี้ เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทั้ง 14 เขื่อน ของกรมเจ้าท่า ที่บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและช่วยป้องกันคลื่นซัดเข้าหาฝั่งในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านทั้งที่บ้านบ่ออิฐและบ้านเก้าเส้งนำเรือขึ้นมาจอดบนชายหาดบ่ออิฐได้ โดยไม่ต้องกลัวถูกคลื่นซัดอีกต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี