2 อุทยานแห่งชาติ กาญจนบุรี ร่วมอำเภอทองผาภูมิ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดยุทธการปราบปรามการลักลอบขุดดินร่อนแร่หาธาตุทองคำ
วันนี้ (23 พ.ย.67) นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดในการลาดตระเวนในพื้นที่ เพื่อป้องกันการบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดิน การลักลอบล่าสัตว์ หรือการเข้ามาแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวในอุทยานแห่งชาติ
ดังนั้นวันนี้ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จึงได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ปิล๊อก เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ นำโดย ร.ท. เสกสรรค์ กุตโลกุล หัวหน้าชุด ชป. เรือบ้านท่าแพ (หน่วยทหารการข่าว) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่135 ได้สนธิกำลังแบบบูรณาการ ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการป่าไม้และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กรณีมีกลุ่มบุคคลได้แอบลักลอบเข้ามาแสวงหาประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยแอบเข้าไปขุดดินร่อนแร่เพื่อหาธาตุทองคำในท้องที่ป่าบ้านปิล๊อกคี่ ช่องทางป่าหมาก - ยาพู ท้องที่หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดกำลัง จำนวน 60 นาย ลงพื้นที่หมู่บ้านปิล๊อกคี่ เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบขุดดินร่อนหาแร่ทองคำในพื้นที่ดังกล่าว
โดยในช่วงเวลา 09.00 น. ได้มีการประชุมผู้นำชุมชน ราษฎรในพื้นที่ที่ศาลาประชุมอเนกประสงค์บ้านปิล๊อกคี่ มีราษฎรเข้าร่วมประชุมประมาณ 100 คน เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เกี่ยวกับระเบียบ ข้อกฎหมาย เกี่ยวกับการลับลอบขุดดินเพื่อหาแร่ทองคำ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลังออกลาดตระเวนปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ทั้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัด ในพื้นที่ล่อแหล่มต่อการแอบลักลอบเข้ามาขุดดินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อย่างเข้มงวด
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้ดำเนินการออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายมาแล้ว ครั้งนั้นสามารถตรวจยึดพื้นที่บุกรุกบริเวณป่าบ้านปิล๊อกคี่ ท้องที่หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ ที่มีลักษณะมีการขุดดินเป็นหลุม เพื่อลักลอบนำดินออกมาร่อนหาแร่ทองคำ ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก เนื้อที่ จำนวน 11 - 3 - 96 ไร่ พร้อมอุปกรณ์ในการกระทำผิด จำนวน 4 รายการ จากนั้นจึงจัดทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ตาม ปจว. ข้อที่ 1 เวลา 13.55 น. ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เลขคำแจ้งความที่ CC 70267256700043 G ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว เป็นพื้นที่ความมั่นคงระหว่างประเทศ หางจากแนวเขตชายแดนไทย - พม่า ประมาณ 4 กิโลเมตร เท่านั้น
นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ปัญหาการลักลอบขุดดินร่อนแร่หาธาตุทองคำในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านปิล๊อกคี่ ที่มีกลุ่มบุคคลแอบลักลอบเข้าไปในหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยในหมู่บ้าน อีกทั้งมีการนำยานพาหนะเข้าออกในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ส่งผลกระทบต่อความเสื่อมโทรมของสภาพป่า และจะก่อให้เกิดความเสียหายจากการทำลายทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าในพื้นที่
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมมือกันในการเข้าออกตรวจปราบปรามการกระทำความผิดเพื่อหยุดยั้งการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้มีประกาศอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ฉบับลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง มาตรการป้องกันปราบปรามอย่างเข้มข้น ในการประชาสัมพันธ์ระเบียบข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนป้องกันปราบปรามการทำความผิดทุกรูปแบบ เพื่อคงไว้ซึ่งทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี