จ่อสอบซ้ำ‘เอก สายไหม’

ปมข้อมูลฉาว‘ดิไอคอน’

ตำรวจสอบสวนกลาง เตรียมเรียก “เอก สายไหมต้องรอด” สอบปากคำอีกครั้ง หลังพบคำให้การขัดแย้งพยานบุคคลหลายส่วน โดยเฉพาะประเด็นที่ไปที่มาข้อมูลมั่วโยกสินทรัพย์ดิจิทัลบอสดิไอคอน 8 พันล้าน

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้ามอบตัวสู้คดีโพสต์ข้อมูลเท็จดิไอคอนว่า ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ชุดคลี่คลายคดี จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบสำนวนให้แน่นหนามากขึ้น ทั้งนี้ ยืนยัน ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ผิดถูกว่าไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง จากหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างแน่ชัดว่าเจ้าตัวได้โพสต์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับคดีดิไอคอนจริง โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับการโยกย้ายสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเราเก็บพยานหลักฐานต่างๆเหล่านี้ไว้หมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนคำให้การของนายเอกภพ ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เบื้องต้นนายเอกภพยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าข้อมูลที่นำไปโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นข้อมูลที่ได้รับจากพยาน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลเท็จ และไม่ได้มีเจตนาจะทำให้สังคมเกิดความสับสน รวมไปถึงสร้างความเสียหายให้หน่วยงานรัฐต่างๆ

ทั้งนี้ จากการคำให้การของนายเอกภพพบว่า มีหลายส่วนที่ขัดแย้งกับคำให้การของพยานบุคคลที่นายเอกภพให้การพาดพิงถึง โดยเฉพาะคำให้การในส่วนข้อมูลการโยกย้ายสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งพยานบุคคลดังกล่าวยืนยันว่า ในระหว่างที่พูดคุยกับนายเอกภพ ไม่มีการบ่งชี้ หรือระบุชัดเจนว่า การทำธุรกรรมโยกย้ายเงินดิจิทัล มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาทนั้นเป็นของผู้ต้องหาเครือข่ายบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด

โดยคำให้การของพยานบุคคลยังยืนยันว่า ข้อมูลเงินดิจิทัลดังกล่าว เป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากข้อมูลที่หาได้จากสื่อสาธารณะ ตามที่นายเอกภพ เรียกร้องให้พยานบุคคลช่วยหาข้อมูลมาให้ ก่อนที่สุดท้ายจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลนั้นสอดคล้องหรือเกี่ยวข้องกับดิไอคอน เพราะเป็นเพียงข้อมูล transaction ที่ใหญ่ที่สุดของกระดานซื้อขายรวมในวันที่บอสทั้ง 18 คนโดนจับกุม แต่นายเอกภพกลับนำข้อมูลดังกล่าวไปเชื่อมโยงเรื่องราวเอง แล้วนำไปโพสต์ลงเพจเฟซบุ๊ก อย่างไรก็ตาม จากคำให้การของนายเอกภพ ที่ขัดแย้งกับพยานบุคคลต่างๆ และหลักฐานอีกหลายอย่าง ทางพนักงานสอบสวนบก.ปอท. จึงจำเป็นที่อาจต้องเสนอเรื่องไปที่คณะทำงานตรวจสอบคดี ดิไอคอน บช.ก. ซึ่งนำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อพิจารณาเชิญตัวนายเอกภพ มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นายเอกภพ ได้รับการประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 หมื่นบาท ยื่นประกันตัว หลังถูกออกหมายจับความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อรับทราบข้อหาเมื่อเวลา 15.00 น. โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ในคดีที่กลุ่ม “บอสดิไอคอนกรุ๊ป” ให้ทนายความแจ้งความตนเองในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งตนเองก็ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และตนเองก็ได้นำข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทั้งหมดแล้ว