ตำรวจลำปางจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 6 ล้านเม็ดคาด่านตรวจ
วันที่ 25 พ.ย.67 เมื่อเวลา 13.00 น.ที่บริเวณลานใต้ถุนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.ลำปาง, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พล.ต.วิชาญ ศรีภัทรรางกูร ผบ.มทบ.32, สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่พื้นที่ อ.สบปราบ 2 คดีรวมของกลาง 6,296,000 เม็ด
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 23 พ.ย.67 เวลาประมาณ 00.05 น.หน่วยจับกุม สภ.สบปราบ จ.ลำปาง ร่วมกับศูนย์สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง และฝ่ายปกครองอำเภอสบปราบ ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คนคือนายภูเบศร์ ชาวสุพรรณบุรี และนายบุญลักษณ์ ชาวนครศรีธรรมราช
ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยาเสพติดสบปราบได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่านพื้นที่ของ อ.สบปราบ โดยใช้เส้นทางผ่านด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จนต่อมาวันที่ 23 พ.ย.67 เวลาประมาณ 00.05 น.ได้มีรถยนต์กระบะขับเข้ามายังด่านตรวจตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับเจ้าหน้าที่ชุดคัดกรองรถจึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการขอตรวจค้นพบนายภูเบศร์ เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวจึงทำการตรวจค้นร่างกายและรถยนต์กระบะ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้สังเกตท่าทางนายภูเบศร์ มีพิรุธมือสั่น มีอาการลุกลี้ลุกลน หลบสายตาอยู่ตลอด คล้ายบุคคลได้กระทำความผิดมา
จากการซักถามนายภูเบศร์ รับสารภาพว่าได้รับการติดต่อจากนายบุญลักษณ์ ให้ทำหน้าที่ขับรถนำทางรถบรรทุก 6 ล้อ โดยมีนายบุญลักษณ์ เป็นผู้ขับขี่ และทราบว่าน่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนในรถบรรทุก คันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สืบสวนติดตาม ประสานให้ด่านตรวจ สภ.แม่พริก เพื่อสกัดและทำการตรวจค้น
ต่อมาเวลาประมาณ 01.40 น.เจ้าที่ชุดจับกุมของ สภ.สบปราบ และ สภ.แม่พริก ได้พบรถคันดังกล่าวบริเวณเขตติดต่อจังหวัดลำปาง-ตากจึงได้แสดงตัวและนำรถคันดังกล่าวมาเอ็กซเรย์ ที่ด่านตรวจ สภ.แม่พริก พบว่าภายในมีวัตถุต้องสงสัยจำนวน 30 กล่อง เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นยาเสพติด (ยาบ้า) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.สบปราบ จึงได้ควบคุมรถคันดังกล่าวและนายบุญลักษณ์ มายังด่านตรวจยาเสพติด สภ.สบปราบ ตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบกล่องพัสดุสีน้ำตาลจำนวน 30 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติด (ยาบ้า) ประมาณ 6,000,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการขยายผลต่อไป
คดีที่ 2 วันที่ 24 พ.ย.67 เวลาประมาณ 01.30 น. สภ.สบปราบ ร่วมกับศูนย์สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางและฝ่ายปกครองอำเภอสบปราบ จับกุมผู้ต้องหา 4 คน 1.นายชาตรี ชาวตาก 2.น.ส.สุภาพร ชาวตาก, 3.นายกายสิทธิ์ ชาวตาก และ 4.น.ส.นงนุช ชาวสุโขทัย
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ สภ.สบปราบ ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาในพื้นที่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น.ได้มีรถยนต์กระบะขับเข้ามายังด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดคัดกรองรถจึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนายชาตรี เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว และ น.ส.สุภาพร เป็นผู้โดยสารนั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สังเกต นายชาตรี แสดงอาการมีพิรุธลุกลี้ลุกลนจึงทำการตรวจค้นและพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวซุกซ่อนยาเสพติด (ยาบ้า) อยู่ตามบริเวณใต้ที่เก็บของฝั่งประตูซ้ายจำนวน 14 ก้อนฝั่งประตูขวาจำนวน 12 ก้อน บริเวณช่องเข็มขัดนิรภัย ฝั่งประตูซ้าย จำนวน 14 ก้อน ฝั่งประตูขวา จำนวน 14 ก้อน บริเวณช่องลำโพง หลังรถจำนวน 4 ก้อน ใต้แม็กไลเน่อฝั่งซ้ายจำนวน 46 ก้อน ฝั่งขวา จำนวน 44 ก้อน รวมยาเสพติดทั้งหมดจำนวน 148 ก้อน หรือประมาณ 296,000 เม็ด
นายชาตรี รับว่า ได้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจาก จ.เชียงราย เพื่อจะนำไปส่งยังปลายทาง จ.ตาก และยังให้การอีกว่าได้ว่าจ้างให้นายกายสิทธิ์ และ น.ส.นงนุช ขับขี่รถนำเพื่อตรวจสอบเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดและแจ้งให้นายชาตรี ทราบเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบรถคันดังกล่าวและเร่งติดตามจับกุมโดยได้ประสานให้ สภ.แม่พริก คอยเฝ้าระวังรถคันดังกล่าว ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.นายกายสิทธิ์ และ น.ส.นงนุช ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก ควบคุมตัวไว้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.สบปราบ จึงได้นำตัวนายกายสิทธิ์ และ น.ส.นงนุช เพื่อมาทำการสอบสวนขยายผลต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี