กาญจน์เตรียมความพร้อมเปิดด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน-ทิกิ ชี้ปัจจุบันสถานการณ์ฝั่งเมียนมาปลอดภัยสูง แต่ต้องรอความชัดเจนจาก สนง.สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ 25 พ.ย.67 ที่ห้องประชุม OSS ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ว่าที่ ร.ต.ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายฑรัท เหลืองสะอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายบัณฑิต พรหมทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี
พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ร.29 ผู้แทนผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสังขละบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมเปิดทำการด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แล้ะบ้านทิกิ เมืองทวาย ประเทศเมียนมา
การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรีได้ขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทยแจ้งสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศเพื่อยืนยันความต้องการและความพร้อมในการเปิดทำการจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และขอความอนุเคราะห์ในการเจรจากับฝ่ายเมียนมาให้เปิดทำการด่านบ้านทิกิ เมืองทวาย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
กระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า ได้มีหนังสือถึงสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อพิจารณานำข้อเสนอของจังหวัดกาญจนบุรี เข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิด - ระงับหรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่าง ๆ และมีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณานำข้อเสนอของจังหวัดกาญจนบุรีเข้าสู่การเจรจากับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเปิดทำการด่านบ้านทิกิ เมืองทวาย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จังหวัดกาญจนบุรีพิจารนาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จังหวัดกาญจนบุรีจึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมประชุมเตรียมความพร้อมเปิดทำการด่านบ้านทิกิ เมืองทวาย การประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ นายบัณฑิต พรหมทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดชายแดน ซึ่งต้องมาดูเครื่องต่างๆของแต่ละหน่วยงานที่ประจำอยู่บริเวณด่านชายแดนนั้นมีความพร้อมหรือไม่ เช่น ตม.มีเครื่องมือพร้อมเพียงใด ซึ่งทาง ตม.แจ้งให้ทราบว่า เครื่องมือของ ตม.มีความพร้อมและทันสมัยมาก ส่วนอำเภอเมืองกาญจนบุรี มีความพร้อมเกี่ยวกับการทำหนังสือผ่านแดน ซึ่งอุปกรณ์เพิ่งได้มาใหม่ แต่ต้องตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ส่วนทางด้านหน่วยงานศุลกากรนั้นมีบุคลากรและเครื่องมือต่างๆพร้อมปฏิบัติงานอยู่แล้ว
พื้นที่ชายแดนฝั่งเมียนมาปัจจุบันไม่มีการสู้รบแล้ว หากทางฝั่งประเทศเมียนมามีความพร้อมทุกอย่างน่าจะเป็นไปด้วยดี ถามว่าจะสามารถเปิดด่านได้เมื่อไหร่ เรื่องนี้ต้องรอให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดการประชุมขึ้นอีกสัก 1 ครั้ง เมื่อประชุมแล้วเสร็จกระทรวงการต่างประเทศ จะประสานไปยังเมียนมาเพื่อสอบถามความพร้อมของเครื่องไม้เครื่องมือ รวมทั้งสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ ซึ่งการสู้รบตามแนวชายแดนไม่มานานแล้ว เชื่อว่าน่าจะเปิดชายแดนได้โดยใช้เวลาอีกไม่นาน ซึ่งอันที่จริงแล้วอยากจะให้เรียบร้อยในช่วงปีใหม่นี้
สำหรับด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน เป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรีเพราะเรามีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตรงนั้นถ่าเราเปิดำการตลาดและมีการลุงทุนเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท ซึ่งถ้าเปิดทำการได้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างพี่น้องชาวไทยและเมียนมา และจะเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานเข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งจะเป็นเส้นทางเข้าออกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตขึ้น สำหรับข้อปัญหาที่จะต้องดำเนินการก็คือ การสอบถามไปยังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาให้ชัดเจนว่า พื้นที่ฝั่งเมียนมานั้นมีความปลอดภัยแค่ไหน แต่ที่เท่าที่ทราบคือขณะนี้ฝั่งเมียนมานั้นมีความปลอดภัยที่สูง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี