‘แม่’โดนด้วยข้อหาร่วมฟอกเงิน

จับ‘สามารถ’

อดีตรองโฆษกพลังประชารัฐ

คดีตบทรัพย์2บอสดิไอคอน

ดีเอสไอพบเส้นเงินรับ2.5ล้าน

ตร.ตามล็อกตัวได้ที่เชียงราย

ศาลอนุมัติหมายจับ “สามารถ-แม่” ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน-สมคบฟอกเงินดิไอคอน ก่อนเข้าค้น 2 จุดคุมตัวแม่ไปสอบ ส่วน “สามารถ”จนมุมที่เชียงราย “อธิบดีดีเอสไอ“แถลงเหตุออกหมายจับพบเส้นเงิน 2.5 ล้านรับโอนตรงจาก “บอสพอล” อีกหลายแสนจาก “บอสปีเตอร์” เป็นวงรอบทุกเดือน เบื้องต้น “แม่สามารถ”ปฎิเสธทุกข้อหา ดีเอสไอไม่ยืนยันจะให้ประกันหรือไม่ โดยผบ.ตร.ขอดูพฤติการณ์ก่อนว่าตั้งใจหลบหนีหรือไม่ ด้าน’บิ๊กเต่า’จ่อมอบกุญแจมือ เป็นของขวัญปีใหม่ ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง นอนห้องขังวีไอพี

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เข้าจับกุมนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของนายสามารถ ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสบคบกันฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ 2 จุดคือ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนถนนราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ ไม่พบนายสามารถ พบแต่นางวิลาวัลย์ ที่บ้านพักในซอยพญานาค กรุงเทพฯ จึงนำตัวมาสอบปากคำตามขั้นตอน ขณะเดียวกันมีรายงานว่านายสามารถเดินทางไปจ.เชียงใหม่ และประสานเข้ามอบตัววันที่ 26 พฤศจิกายน

ล็อคตัว‘สามารถ’ได้ที่เชียงราย

อย่างไรก็ตาม เวลา 11.30 น.พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับแจ้งว่า ตำรวจ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ได้ควบคุมตัวนายสามารถได้แล้ว ริมถนนใกล้วัดห้วยปลากั้ง และอยู่ระหว่างประสานส่งตัวนายสามารถให้ดีเอสไอสอบสวนต่อ

DSIค้น2จุด-จับ2แม่ลูกสมคบฟอกเงิน

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแถลงปฏิบัติการตรวจค้นบ้านพักนายสามารถ ในหมู่บ้านหรูย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เพื่อจับกุมค้นหาพยานหลักฐาน และได้จับกุมนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ อายุ 62 ปี ที่บ้านพักในเขตราชเทวี ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ในคดีพิเศษที่ 115/2567 (คดีฟอกเงินทางอาญา กรณี บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด)

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า ปฏิบัติการของดีเอสไอวันนี้ พนักงานสอบสวนตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 จุด คือ 1.บ้านหรูหลังหนึ่งในหมู่บ้าน แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ2.บ้านพักในซอยพญานาค เขตราชเทวี กรุงเทพฯ และในจุดที่ 2 เจ้าหน้าที่พบบุคคลตามหมายจับคือ นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่นายสามารถ อายุ 62 ปี และพบสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ซึ่งสาเหตุที่ดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับทั้งสามคน ได้แก่ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์

สาเหตุการขออนุมัติหมายจับ อธิบดีดีเอสไอชี้แจงว่า หลังดีเอสไอรับคดีฟอกเงินทางอาญาของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัดและพวก ไว้เป็นคดีพิเศษ ได้รวบรวมพยานหลักฐานพบมีเงินระดมของสมาชิกไปยังบัญชีของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และบัญชีธนาคารของบริษัท ดิไอคอนฯ ก็โอนต่อไปยังบุคคลในหมายจับหลายทอด

เค้นสอบแม่สามารถให้การปฎิเสธ

“พฤติการณ์ดังกล่าวคือ การโอนหรือรับโอนเงิน เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือเพื่อปกปิดอำพรางซุกซ่อนลักษณะแท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สิน จึงเข้าข่ายความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน”อธิบดีดีเอสไอระบุ และว่า หลังดีเอสไอคุมตัวนางวิลาวัลย์ มาที่ดีเอสไอนั้น เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำมาต่อเนื่อง ยังไม่ได้รับรายงานว่าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่เจ้าตัวค่อนข้างให้การไม่เป็นประโยชน์ แต่รายละเอียดคำให้การไม่สามารถเปิดเผยได้ ทราบเบื้องต้นเพียงว่าทั้งสองยังคงให้การปฏิเสธ

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในเรื่องเส้นทางการเงิน 2.5 ล้านบาทที่พบความเชื่อมโยงระหว่างบอสพอล และนางวิลาวัลย์ แม้จะมีการกล่าวอ้างว่าเป็นเงินฝากทำบุญหรือเงินใดก็ตาม ถือเป็นการแก้ข้อกล่าวหา หรือจะแสดงข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ ดีเอสไอก็รับฟัง เพียงแต่ดูแล้วต้องชั่งน้ำหนักว่าฟังได้หรือไม่ การรับโอนเงินหลักแสนบาท ความถี่รายเดือน ทั้งยังเป็นเงินที่มาจากบริษัทที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีมูลฐานอีก

เส้นเงินโยง2บอสไอคอน2.5ล.

ส่วนจำนวนเงินในบัญชีธนาคารของนางวิลาวัลย์ ที่มีมูลค่ารายได้รวมกว่า 100 ล้านบาทนั้น พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า จากการสืบสวนพบไทม์ไลนฺการโอนมาจากหลายแหล่ง ต้องขยายผลต่อว่ามาจากแหล่งใดบ้าง แต่ที่ผู้ต้องหารับโอนตรงมาจากบอสพอลมี 2.5 ล้านบาท และมีรับโอนตรงจากบอสปีเตอร์ 500,000 บาท พฤติการณ์ส่วนใหญ่ที่นางวิลาวัลย์ รับโอนเงินจากทั้งบอสพอลและบอสปีเตอร์ ล้วนเป็นการรับโอนเงินเป็นล็อต ๆ ไม่ใช่รับโอนเงินก้อน บางครั้งรับโอนเงิน 100,000 บาท บ้าง 300,000 บาท บ้างสูงสุด 500,000 บาท โดยเป็นพฤติการณ์ในไทม์ไลน์ปี 2564 - 2566 หากดูเป็นจำนวนครั้งที่รับโอนเงินระหว่างกัน มีประมาณ 15 ครั้ง ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาจะชี้แจงว่าเป็นเงินฝากทำบุญ สามารถยื่นใบอนุโมทนาบุญได้ ดีเอสไอยินดีรับฟัง พร้อมตรวจพิสูจน์ทำบุญจริงหรือไม่ ตรวจสอบได้อยู่แล้ว ส่วนบัญชีของนายสามารถ จะมีการโอนเงินไปที่วัดใดหรือไม่ ดีเอสไอจะขยายผลต่อไป

ยันมีหลักฐานชัดฟันข้อหาฟอกเงิน

พ.ต.ต.ยุทธนายังชี้แจงกรณีบอสพอลไม่ติดใจดำเนินคดีนายสามารถ แต่ดีเอสไอดำเนินคดี เนื่องจากเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงิน เป็นอาญาแผ่นดิน ไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ หากพนักงานสอบสวนพบความผิดก็ต้องดำเนินการ เพื่อตัดวงจรทำความผิดทางมาตรการฟอกเงิน อย่างไรก็ตาม ถ้าฝั่งของบอสพอลจะออกมาปกป้องนายสามารถถือเป็นสิทธิ หรือจะยื่นพยานหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาก็ได

“การทำความผิดมูลฐานนั้น เราต้องมีหลักฐานระดับหนึ่ง ศาลจึงพิจารณาออกหมายจับ ทั้งความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หรือความผิดพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ก็เป็นความผิดมูลฐานทั้งสิ้น เมื่อมีพยานหลักฐานแน่ชัด การได้ทรัพย์จากการทำผิดแล้ว มีการโอนหรือเปลี่ยนแปลงสภาพฯถือเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงิน” พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุ

ยึดมือถือ-รถหรู-บัญชีการเงิน

ส่วนที่ไปพบนายสามารถอยู่ที่จ.เชียงรายนั้น พ.ต.ต.ยุทธนาเผยว่า ตอนที่ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน พบแอร์ยังไม่ปิดใช้งาน เสื้อผ้าเพิ่งถอด ดังนั้น เจ้าตัวอาจต้องการเดินทางไปต่างจังหวัดจริง แต่จะรับทราบหรือไม่ เพราะมีลักษณะเร่งรีบออกไป ส่วนจะเป็นการออกไปช่วงเช้าก่อนดีเอสไอเข้าค้น หรือออกไปตั้งแต่คืนก่อนนั้น อันนี้น่าจะก่อนดีเอสไอเข้าค้น แต่ยังไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด สำหรับเรื่องหมายจับที่หลายฝ่ายสงสัยว่านายสามารถจะทราบก่อนหรือไม่ ตนก็ต้องตรวจสอบ เพราะมีการจองตั๋วเครื่องบินไว้ก่อน อาจไปทำบุญจริงก็ได้ แต่อาจทราบข้อมูลเบาะแสมาจึงรีบออกไปก่อนก็เป็นไปได้ ต้องสอบปากคำเจ้าตัว อย่างไรก็ตาม ประเด็นจะให้ประกันตัวชั่วคราวหรือไม่นั้น ขึ้นกับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน เนื่องด้วยข้อกล่าวหาดังกล่าวอัตราโทษเกิน 3 ปี จึงยังไม่ยืนยันว่าจะให้ประกันหรือไม่ ขอดูพฤติการณ์ก่อน

พ.ต.ต.ยุทธนาเผยถึงการตรวจค้นบ้านนายสามารถว่า พนักงานสอบสวนตรวจยึดสิ่งของในบ้านแม่นายสามารถ เป็นโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ที่บ้านพักนายสามารถยึดโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ตู้โตโยต้า อัลพาร์ด 1 คัน และเอกสารเกี่ยวกับบัญชีการเงิน (Statement) รวมถึงเอกสารสัญญาต่าง ๆ

นำตัวสามารถส่งDSI5ทุ่มเค้นสอบต่อ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเวลา 21.30 น. วันเดียวกันนี้ ตำรวจนำตัวนายสามารถจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD3206 มายังท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ และมาถึงอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 23.00 น. เพื่อสอบสวนปากคำตามขั้นตอนต่อไป

พ.ต.ต.ยุทธนา ยังกล่าวถึงถึงกรณีพยานของบริษัท ดิไอคอนฯ ที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายของบอสพอล ได้พามาให้สอบปากคำเข้าสู่สำนวน ว่า พนักงานสอบสวนได้มีการทยอยสอบปากคำวันละ 70 ราย เเบ่งเป็น 3 กลุ่ม ก็ประมาณ 200 รายต่อวัน และดีเอสไอได้มีเส้นกำหนดให้เขาส่งบันทึกข้อเท็จจริงของบรรดาพยานได้ถึงวันที่ 3 ธ.ค.67 มิเช่นนั้น อาจส่งผลกระทบต่อสำนวนคดี ทำให้คดีเสียหายได้

ผบ.ตร.ขอดูพฤติการณ์หลบหนีหรือไม่

ด้านพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าควบคุมตัวนายสามารถ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินได้ที่จ.เชียงรายว่า ได้ประสานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในการนำตัวกลับมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า รายงานเบื้องต้นนายสามารถ กำลังหลบหนีใช่หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ตนคุยกับผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามทำให้จับกุมได้พอดี ส่วนจะเป็นการหลบหนีหรือไม่ต้องดูพฤติการณ์อีกที

เส้นเงินถูกโอนหลายต่อ-ส่อโยงเงินสีเทา

ส่วนพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่านายสามารถ มีเงินไหลเข้าบัญชีรวมกว่า 110 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีเงิน 3 ล้านบาท ที่มาจาก“ดิไอคอน” ผ่านบัญชีม้า ซึ่งเป็นบัญชีที่นายสามารถดูแล และบางส่วนถูกโอนไปยังบัญชีมารดา ก่อนเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกส่งต่อกลับมายังบัญชีนายสามารถอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังพบเส้นเงินใหม่มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ที่มาจากบุคคล 9-10 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาของเงินดังกล่าว เนื่องจากมีการโอนเงินผ่านบัญชีอื่นหลายขั้นตอนก่อนถึงปลายทางที่บัญชีนายสามารถ เบื้องต้นเชื่อว่าเงินเหล่านี้อาจมีที่มาจากแหล่งเงินสีเทา แต่ยังต้องสืบสวนเพิ่มเติม

เล็งมอบกุญแจมือของขวัญปีใหม่อินฟลูฯ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติย้ำอีกว่า ช่วงปีใหม่เตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ นักร้อง คนดัง และผู้ดูแลเพจโซเชียลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี โดยจะส่งทุกคนไปพักห้องวีไอพีในเรือนจำ หากพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงการทำผิด ส่วนกรณีเรื่องของนายฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์นั้นส่งสำนวนให้กองบังคับการปราบปรามแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการออกหมายเรียก หรือหมายจับ ภายในสัปดาห์นี้จะชัดเจน

ทนายดิไอคอนพาพยานชุดแรกพบDSI

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล พาตัวแทนขายดิไอคอน กรุ๊ป เข้าพบดีเอสไอให้การเป็นพยานฝั่งผู้ต้องหา โดยเผยว่า ขณะนี้ ผู้แทนขายกลุ่มนี้กลายเป็นผู้เสียหาย ได้รับผลกระทบขายสินค้าไม่ได้ ตั้งแต่เป็นคดีความ จึงต้องการยืนยันว่า บริษัทดิไอคอนฯไม่ได้ฉ้อโกง สินค้าขายได้ สังคมฟังคนแค่หมื่นคนที่แจ้งความ แต่คนแสนคนขายสินค้าได้ ยังกิน ยังใช้สินค้าอยู่ จึงมาให้ปากคำเป็นพยานให้ดิไอคอน

ทนายความดิไอคอนฯยังกล่าวถึงเงินที่บอสพอลโอนเข้าบัญชีแม่นายสามารถว่า บอสพอล บอกว่าเป็นเงินที่ให้นายสามารถและแม่ยืม โดยโอนให้หลักแสนบาท หลายรอบช่วง 3 ปีรวมเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากทำบุญ และที่โอนให้บัญชีแม่ เพราะเป็นแม่ลูกกัน นายสามารถก็ขอเงินจากแม่ได้